Biography

The Last Waltz (1978)

เรื่องนี้ขอแนะนำสำหรับคอเพลงสายร็อคเลยครับผม กับสารคดีว่าด้วยคอนเสิร์ตอำลาของวงร็อคระดับตำนานอย่าง The Band

ผมมองว่าสารคดีนี้ดูแบบตั้งใจก็ได้ หรือจะเปิดแบบดูไปทำงานไปก็ได้เช่นกันครับ เพราะตลอด 2 ชั่วโมงท่านจะได้รับฟังผลงานเพลงเพราะๆ ชนิดที่ต่อให้ท่านไม่เคยฟังบทเพลงเหล่านี้มาก่อนเลยก็ตาม แต่หากท่านชอบเพลงสไตล์ร็อค, โฟล์ค, คันทรี่, แจ๊ส หรือ R&B ล่ะก็ ผมเชื่อว่าท่วงทำนองของแต่ละเพลงจะสามารถจับความสนใจท่านได้ จนอย่าแปลกใจหากดูสารคดีนี้จบแล้วท่านจะรีบไป Search หาสารพัดเพลงเหล่านี้มาใส่ติดไว้ใน Playlist

สารคดีนี้เป็นผลงานของ Martin Scorsese ครับ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากรสชาติของการนำเสนอจะมีความแตกต่างออกไปจากสารพัดสารคดีคอนเสิร์ต ซึ่งผมชอบเลยครับ สารคดีนำเสนอโดยนำภาพคอนเสิร์ตอำลาพร้อมเพลงดีๆ สลับกับบทสัมภาษณ์ของสมาชิกในวง บางทีก็คนเดียว บางทีก็มาสองคน ซึ่งแต่ละช่วงในการสัมภาษณ์นั้น เราจะสัมผัสได้เลยครับว่า Scorsese เลือกช็อตที่เด็ดสุด เลือกบทสนทนาที่น่าสนใจสุด หรือไม่ก็คัดช่วงที่สื่อถึงความเป็น The Band ได้ดีที่สุด เอามาร้อยเรียงให้เราได้ชม

นอกจากเราจะได้เห็นวง The Band สำแดงงานเพลงแล้ว เรายังจะได้เจอกับแขกรับเชิญอย่าง Ronnie Hawkins, Bob Dylan, Paul Butterfield, Bobby Charles, Eric Clapton, Neil Diamond, Emmylou Harris, Dr. John, Joni Mitchell, Van Morrison, The Staple Singers, Ringo Starr, Muddy Waters, Ronnie Wood และ Neil Young ออกมาแจมด้วยครับ ซึ่งผมรับรองเลยว่าแต่ละคนออกมานี่สาแก่ใจทั้งสิ้น

ผมจัดสารคดีนี้ไป 2 รอบครับ รอบแรกดูตอนออกกำลังกาย (ปั่นจักรยาน) ซึ่งตอนดูนี่ขาก็ปั่นไป แล้วพอเพลงไหนบิ้วอารมณ์จนได้ที่ ทีนี้มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุขแล้วครับ ตัวโน้ตมันชวนมือไม้ให้ออกอารมณ์ตาม คือมันเพลินได้ปานนั้นจริงๆ ส่วนการดูอีกรอบก็ดูตอนทำงานครับ ก็อย่างที่บอกว่าดูไปทำงานไป ตอนเพลงมาก็ฟังเพลินๆ ครั้นพอถึงตอนสัมภาษณ์เราก็แหงนหน้าขึ้นดู ซึมซับอารมณ์ ณ โมเมนต์นั้นของศิลปิน นี่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ – โดยส่วนตัวแล้วมันทำให้การทำงานของผม ออกรสออกชาติมากขึ้นยังไงก็ไม่รู้สิ

ระหว่างดูผมก็บังเกิดห้วงความคิดนะ ว่าหลากหลายเพลงในโลกนี้ ส่งผลต่อเราได้ในหลากรูปแบบ…

บางเพลงสำหรับเรา “เหมือนเสียงแตร” ดังแป๊นๆ ก้องเข้าหู เราอาจไม่ชอบมัน แต่ก็ใช่ว่าเสียงเหล่านั้นจะไร้คุณค่า หรือปราศจากความหมาย

บางเพลงสำหรับเรา “เหมือนสายลม” พัดผ่านมาปะทะร่างกาย ช่วยให้รู้สึกเพลิดเพลินสบายๆ แต่ถึงจุดหนึ่งมันก็จะผ่านพ้นไป ใกล้เราในลมหายใจหนึ่ง ก่อนจากไกลในลมหายใจถัดมา

บางเพลงสำหรับเรา “เหมือนผี” ตรงเข้ามาสิงสู่ ควบคุมตัวเราจนเรามิอาจควบคุมตัวเอง พาเราไหลละเมอเพ้อไป จับตัวเราและสติให้แยกออกจากกัน

บางเพลงสำหรับเรา “เหมือนน้ำ ณ อุณหภูมิเหมาะๆ สักแก้ว” ดื่มด่ำกำซาบ ไหลรินซึมลึกเข้าในร่างกาย มิได้ให้เพียงความกระชุ่มกระชวย แต่ให้ได้ถึงชีวิตชีวา เป็นมากกว่าถ้อยคำ ภาษา และสรรพเสียง – เป็นได้ถึง ส่วนหนึ่งของกันและกัน…

ผมชอบสารคดีนี้ครับ เพลงเพราะ นำเสนอดี น่าจดจำ หลายช่วงตรึงตาตรึงหู บางช่วงก็ตรงไปในหัวชวนให้ขบคิดถึงความจริงบางประการของชีวิต นี่คือรสชาติที่ไม่ใช่ว่าทุกสารคดีคอนเสิร์ตจะทำให้ท่านรู้สึกอะไรแบบนี้ได้

สรุปว่าหากท่านมีเสียงเพลงในหัวใจ หนังสารคดีเรื่องนี้มีคุณค่ามากพอที่จะให้ท่านลองลิ้มสักครั้งครา – ไม่แน่ว่าท่านอาจได้อะไรมากกว่าความเพลิดเพลิน

สามดาวครึ่งครับ

(8.5/10)