ขณะที่พระนางบูเช็กเทียนทรงจัดงานเฉลิมฉลองที่หอหมื่นทินลักษณ์เทพพิหาร จู่ๆ ก็มีภาพวังสวรรค์ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และมีปีศาจศิลาร่างยักษ์ลงมาถล่มงานจนผู้คนแตกกระเจิง จากนั้นองครักษ์อวี่หลิน 3,000 นายก็ถูกส่งไปเพื่อตามรอยปีศาจ แต่พวกเขากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยเหตุนี้พระนางจึงทรงมีรับสั่งให้ตามตี๋เหรินเจี๋ย (Li Sheng Rong) มาสืบหาความจริง… อีกแล้วครับท่าน

พล็อตก็ลงสูตรสำเร็จสำหรับหนังเหล่าตี๋เลยครับผม เปิดมาพระนางก็จะต้องทรงทำอะไรสักอย่างเพื่อเสริมสร้างความมงคล แต่ในที่สุดมันก็จะมีอะไรที่อัปมงคลโผล่ขึ้นมาสร้างความเสียหาย แล้วจากนั้นเหล่าตี๋ก็จะถูกตามตัวมา ก่อนที่ความจริงจะปรากฏซึ่งก็แน่นอนว่าผู้อยู่เบื้องหลังต้องมีจุดหมายมุ่งร้ายต่อพระนาง – ไม่มีครับที่เป้าหมายจะเป็นแค่นางในหรือขันทีเล็กๆ ไม่ได้ๆ ต้องใหญ่ระดับแผ่นดินเสมอเลยเชียว

ผมดูแล้วรู้สึกเหมือนเดจาวูน่ะครับ ไม่ว่าจะเดจาวูตรงพล็อตที่แสนจะคุ้นเคย หรือเดจาวูตรงความรู้สึกที่มันก็จะไม่ต่างกับตอนดูเหล่าตี๋ภาคอื่นๆ นั่นคือรู้สึกว่ารายละเอียดของพล็อตน่ะไม่เลวครับ แต่การเล่าเรื่องมันยังไม่ดี ระหว่างทางมันเรื่อยจนเกินไป ยังไม่ถึงขั้นสนุก ยังไม่ชวนติดตามเท่าที่ควร จุดอ่อนที่แสนคุ้นเคยคือการนำเสนอมันเรื่อยๆ น่ะครับ ไม่ได้กระตุ้นเร้าให้เราอยากตามเรื่อง หรือตอนเผยปมต่างๆ ก็ไม่มีพลัง หนังเลยออกมาธรรมดา

อีกอย่างคือหนังมีการเล่น CG ด้วยน่ะครับ แต่พอทุนไม่ถึง CG มันเลยดูตลกในหลายวาระ เหมือนหนังพยายามจะให้เรื่องมันใหญ่ ให้มันดูยิ่งใหญ่ แต่พอการเล่ามันไม่มีพลัง และงานภาพออกมาเพลนๆ มันเลยทำให้หนังดูจืดไปโดยปริยาย

นี่ก็ถือเป็นการกลับมารับบทเป็นเหล่าตี๋อีกหนของ Li Sheng Rong ครับ แต่ผมว่าความลื่นความเพลินสู้ 2 ตอนก่อนไม่ได้ นั่นก็คือ ตี๋เหรินเจี๋ยกับคดีปริศนาเทพสวรรค์ และ ตี๋เหรินเจี๋ย คลองมังกรผวา คือมันอดรู้สึกไม่ได้น่ะครับว่างานสร้างภาคนี้มันดูดร็อปลงจาก 2 ตอนนั้นพอสมควรทีเดียว

สรุปว่าก็ยังไม่ใช่ตี๋เหรินเจี๋ยตอนที่คุ้มค่าแก่การรับชมสักเท่าไรครับ แต่ถ้าท่านปรับใจคิดเสียว่าดูเหล่าตี๋เกรดรองๆ เหมือนดูหนังทีวีสักเรื่อง ก็อาจรู้สึกว่าพอไหวครับ

ดาวครึ่งหน่อยๆ ครับ

(5/10)

ชื่ออื่นๆ
ตี๋เหรินเจี๋ย มายาตำหนักสวรรค์
Detective Dee: The Mirage in Heaven
Di Ren Jie Zhi Tian Gong Shen Lou