Anthology Movies/Series

V/H/S/99 (2022)

เรื่องที่ 5 ของหนังชุดนี้ครับ มาคราวนี้ก็มาพร้อม 5 เรื่องสั้นชวนสยองที่ถูกบันทึกภาพผ่านวีดีโอ

ตอนที่ 1 Shredding
วงดนตรีพั๊งค์ร็อคจอมซ่าที่ชื่อ R.A.C.K. ทำคลิปลงออนไลน์เป็นตอนๆ ให้แฟนๆ ดูครับ แล้วทีนี้ในคลิปล่าสุดพวกเขาก็เล่าเรื่องราวของวงดนตรีที่ชื่อ บิตช์แคท ที่โดนไฟคลอกตายทั้งวงระหว่างทำการแสดงเมื่อหลายปีก่อน แล้วจากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจไปยังสถานที่เกิดเหตุนั้นเพื่อลองดี… แล้วก็ตามคาดครับ พวกเขาเจอดีกันสมใจ ถ้วนหน้าถ้วนตากัน

ตอนที่ 2 Suicide Bid
ลิลลี่ (Ally Ioannides) น้องใหม่เฟรชชี่ที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรเบต้า ซิกม่า อีต้า เธอเลยยอมเข้าร่วมพิธีกรรมโดยหวังว่าหากเธอผ่านพิธีนั้นไปได้เธอก็จะได้รับการคัดเลือกเข้าบ้าน ส่วนพิธีที่ว่านั้นคือ การไปนอนในโลงปิดที่ถูกวางอยู่ในหลุม… และเมื่ออยู่ในโลงไปสักพัก ลิลลี่ก็ตระหนักได้ว่า เธอไม่ควรพาตัวเองมาอยู่ตรงนี้เลยจริงๆ

ตอนที่ 3 Ozzy’s Dungeon
Ozzy’s Dungeon คือเกมโชว์ที่ให้เด็กๆ ทางบ้านมาแข่งกันฝ่าด่านสารพัด เพื่อที่ผู้ชนะจะได้ของรางวัลที่ตนต้องการ แต่ในรายการตอนล่าสุดเกิดเหตุสยองเมื่อเด็กที่ร่วมรายการเกิดอุบัติเหตุจนต้องเสียขา แล้วนั่นล่ะครับคือจุดเริ่มต้นของความสยองยิ่งกว่าที่จะตามมา

ตอนที่ 4 The Gawkers
เด็กหนุ่มใช้กล้องถ่ายวีดีโอในการตามแอบถ่ายสาวสวยผมบลอนด์ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้าน เขาสอดส่องพฤติกรรมเธอตามประสาคนหนุ่มวัยคะนอง แต่แล้ว… คงเดาได้ใช่ไหมครับว่า พวกเขาดันไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น และทีนี้งานก็เข้าพวกเขาแบบเต็มๆ

ตอนที่ 5 To Hell and Back
เนท (Archelaus Crisanto) กับ ทรอย (Joseph Winter) ถูกว่าจ้างโดยคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นแม่มดและกำลังจะทำพิธีอะไรสักอย่าง โดยพวกเขาต้องถ่ายภาพพวกเธอตอนที่พิธีดำเนินไป แต่พอถ่ายไปสักพัก มันก็ชักจะเริ่มแปลกๆ พวกเขาเหมือนเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติในห้องนั้น และเพียงไม่นานพวกเขาก็ตระหนักว่า พวกเขากำลังจะได้เจอกับปีศาจของแทร่กันล่ะงานนี้

กลายเป็นว่าผมโอกับภาคนี้ครับ คือรู้สึกว่าทุกตอนมันดูได้เพลินๆ ดี แต่อาจไม่ถึงกับชอบเท่าภาค 2 อย่างตอนแรกนี่ก็เข้าข่าย “อยากลองดี เลยเจอดี” ในแง่หนึ่งก็รู้สึกว่าพวกตัวเอกทำตัวเองเหมือนกันครับ คือจริงๆ ผมว่าหนังที่มีพล็อตแบบนี้มันคือพล็อตเตือนใจนะ ว่าอย่าไปลองดีตามสถานที่ที่มีประวัติเลย ถ้าซวยอย่างเบาก็เจอสัตว์เจองู ถ้าซวยกลางๆ ก็เจอโจรเจอคนติดยา แต่ถ้าซวยหนักนี่คือเจอผีมาไล่ฆ่าเลยนะนั่น

ตอนที่ 1 นี่ก็เพลินๆ ดีครับ ผมชอบสไตล์การตัดต่อที่ชวนให้นึกถึงรายการพวก MTV สมัยก่อน มันก็อารมณ์ประมาณนี้ ดูแล้วรำลึกถึงวันวานจริงๆ ส่วนเรื่องความสยองก็ถือว่าพอได้ เข้าท่าอยู่

ตอนที่ 2 ก็พอเดาอะไรๆ ได้อยู่ หลายอย่างลงสูตรสไตล์หนังที่เล่นกับเรื่องเล่าตำนานพื้นถิ่น (Urban Legend) ซึ่งแม้จะเดาได้แต่ก็ยังเพลินอยู่ และส่วนตัวก็รู้สึกสะใจกับบทสรุปเหมือนกัน – และแง่คิดสำคัญที่ตอนนี้ให้ ก็คือการเตือนสติทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องว่าอย่าห่ามอย่าคะนองกันให้มากเกิน และอย่าเล่นอะไรที่มันเสี่ยงอันตรายเกินไปนักเลย เพราะพอเกิดเหตุสลดขึ้นมาแล้วมันไม่คุ้มกันหรอก คนเป็นรุ่นพี่ก็ต้องพึงสังวรณ์ว่าถ้าเล่นอะไรพิเรนท์ๆ มากไปจนรุ่นน้องเกิดตายขึ้นมา คุณนั่นแหละก็จะเดือดร้อน ดังนั้นอย่าหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเลยดีกว่า

ส่วนคนเป็นรุ่นน้อง ถ้าเห็นท่าไม่ดี เห็นกิจกรรมมันไม่น่าจะปลอดภัยก็อย่าเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเลยครับ เพราะถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา คนที่ตายคนแรกก็คือเรานี่แหละ อะไรควรเลี่ยงก็เลี่ยงซะ เพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็ช่วยกันดูแลเพื่อนๆ ด้วย ต่างคนต่างช่วยกัน อย่าตัวใครตัวมัน – อีกอย่างก็คือ รุ่นพี่คนไหนที่ให้เล่นอะไรที่มันอันตรายเกินน่ะ พอเกิดเรื่องมักไม่รับผิดชอบอะไรหรอก จะบอกให้

ตอนที่ 3 ก็ถือว่าใช้ได้เหมือนกันครับ ดูไปครึ่งตอนก็คิดเหมือนกันว่ามันจะไปทางไหน พอดูจนจบก็พบว่าแนวคิดน่ะไม่เลว แต่การนำเสนออาจจะอืดๆ ช้าๆ ไปหน่อย แต่แนวคิดน่ะใช้ได้ครับ

ตอนที่ 4 ตอนนี้รู้สึกธรรมดาสุด ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ แค่มันเดาได้ว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับเหล่าวัยรุ่นกลุ่มนี้แน่ และที่สำคัญคือผมเดาอะไรๆ ออกตั้งแต่เห็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านสาวผมบลอนด์คนนั้นแล้วล่ะ กะแล้วว่าต้องใช่ ครั้นพอดูไปก็พบว่าใช่จริงๆ

และตอนที่ 5 ตอนนี้ออกแนวฮาๆ ปนสยอง ก็นับว่าใช้ได้อีกเหมือนกันครับ คือยังไม่ถึงกับดีสุด แต่ก็พอเพลินอยู่

สรุปว่า V/H/S ภาคนี้ก็ยังใช้ได้ครับ อาจไม่ถึงขั้นดีเด่น่าจดจำ แต่ก็ดูเอาสนุกได้สำหรับคนที่ชอบหนังแนวรวมเรื่องสั้นสยอง ถ้าให้ลำดับความชอบผมก็น่าจะชอบพอๆ กับภาคแรกครับ แต่แน่นอนว่าภาค เวิร์กสุดสำหรับผม

สองดาวครับ

(6/10)