Comedy

The Chef (2012) เดอะ เชฟ ศึกกระทะเหล็ก

อเล็กซองด์ ลาการ์ด (Jean Reno) คือเชฟระดับตำนานที่กำลังโดน สตานิสลาส มัตแตร์ (Julien Boisselier) ซีอีโอคนใหม่ของเครือข่ายร้านอาหารที่เขาทำงานอยู่เพ่งเล็ง ว่าง่ายๆ คือจะหาเรื่องให้อเล็กซองด์ออกน่ะครับ เขาจะได้เปลี่ยนแปลงร้านให้เป็นสไตล์ใหม่แบบที่เขาต้องการ อเล็กซองด์เลยต้องหาทางรับมือ

แล้วก็พอดีที่เขาได้พบกับ แจ็คกี้ บอนโนต์ (Michaël Youn) ช่างทาสีผู้บูชาเขาและยังมีฝีมือในการทำอาหารขั้นเทพ อเล็กซองด์เลยชวนแจ็คกี้ให้มาทำงานด้วย แต่บางทีการทำงานของทั้งคู่ก็ไม่ลงรอยกัน มันเลยต้องมีการปรับตัวและยอมถอยคนละก้าว แล้วจากนั้นมิตรภาพระหว่าง 2 เชฟก็เริ่มต้นขึ้น

เป็นหนังเบาสมองของฝรั่งเศสที่ดูง่ายครับ เรื่องราวเดินไปเรื่อยๆ ไม่ซับซ้อน ก็ถือว่าสนุกดี ตัวบทจะว่าไปก็ยังไม่เท่าไรครับ แต่หนังมาเพลินได้ก็เพราะการแสดงลื่นๆ ระดับตำนานของ Reno แล้วก็บวกด้วย Youn ที่ถือว่าเหมาะกับบทไม่น้อย หนังเลยดูได้เรื่อยๆ แม้จะไม่ถึงกับสุดยอดแต่ผมว่าหนังก็ตอบโจทย์ความบันเทิงได้กำลังเหมาะเลยล่ะครับ

แล้วสำหรับหนุ่มๆ นะครับ ต้องบอกเลยว่าดาราสาวในเรื่องก็ทั้งสวยและน่ารักมากๆ ไม่ว่าจะ Raphaëlle Agogué ในบท เบียทริซ ภรรยาของแจ็คกี้ หรือ Salomé Stévenin ในบท อามองดีน ลูกสาวของอเล็กซองด์ แม้พวกเขาจะไม่ได้มีพื้นที่บนจอมากนัก แต่โผล่ทีไรก็ขโมยซีนได้ไม่เลว – และดีไม่ดีน่าจะขโมยใจผู้ชมหนุ่มๆ ได้ไม่น้อยด้วยล่ะครับ

และสำหรับผมมีดาราอีกคนที่จำหน้าได้ นั่นก็คือ Kentaro ที่เคยรับบทมือสังหารหน้าจีนแต่พูดภาษาฝรั่งเศสใน Rush Hour 3 ที่คนที่ลีกับคาร์เตอร์สอบสวนแล้วต้องเชิญแม่ชีมาแปลภาษานั่นแหละครับ รายนี้เห็นหน้าก็จำได้เลย โดยเขามาแสดงเป็น อากิโอะ หนึ่งในลูกมือของอเล็กซองด์ที่มีบทแค่ต้นเรื่อง แต่แม้จะโผล่น้อยแต่ผมก็จำได้ครับ

หนังยังมาพร้อมประโยคดีๆ ที่ชวนให้นำไปคิดต่อ ไม่ว่าจะ “ถ้ามัวแต่ถอดใจ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าคุณเก่ง?” หรือ “มืออาชีพต้องคิดถึงคนอื่นด้วย” อะไรเหล่านี้ถือเป็นคำพูดที่คนทำงานเหมาะแก่การนำไปใคร่ครวญครับ

คงไม่ร่ายยาวครับ อ้อ และหนังเรื่องนี้ก็ไม่ยาวด้วย แค่ 1 ชั่วโมงกับ 20 นาทีเท่านั้น ซึ่งผมน่เลือกดูเรื่องนี้ตอนบ่ายๆ ของวันอาทิตย์ครับ ประมาณว่าเพิ่งกลับจากไปข้างนอกมาแล้วก็มานั่งพักหน้าทีวี แล้วก็เกิดอยากดูหนังสักเรื่อง แต่ก็อยากดูที่มันเบาๆ ไม่ต้องใช้หัวในการดูมากนัก แล้วผมก็พอดีมีเรื่องนี้ในลิสต์ แล้วบวกกับหนังยาวแค่ 1 ชั่วโมง 20 นาที ผมเลยจัดซะครับ แล้วผลที่ได้ก็สมประสงค์ คือดูแล้วรู้สึกสบายๆ ผ่อนคลาย ได้รอยยิ้ม ได้อารมณ์ Feel Good และได้แง่คิดเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้บอกตัวเองในเวลาทำงานด้วย

แต่ต้องบอกก่อนว่าพวกฉากการทำอาหารหรือฉากโชว์อาหารสวยๆ นั้น หนังอาจไม่เน้นเท่าไหร่นะครับ คือพอดีนั่นแหละ แต่ไม่ได้เน้นมาก อันนี้ต้องบอกไว้เผื่อใครอยากดูภาพอาหารเยอะๆ จะได้ทราบไว้และปรับใจล่วงหน้าครับ

สรุปว่าหนังเรื่องนี้ ถูกใจ เบาๆ ย่อยง่าย ได้พลังบวก ความยาวไม่เยอะ จัดว่าชอบเลยล่ะครับ แล้วคงเอามาดูซ้ำอีกหากมีโอกาสยามอยากพักผ่อน ไม่ถึงกับดีเลิศ แต่อยู่ในข่ายน่าพอใจครับ

สองดาวกว่าๆ บวกๆ ครับ

(6.5/10)

ชื่อฝรั่งเศส: Comme un chef
ชื่ออื่นๆ: Le Chef