Anthology Movies/Series

V/H/S/94 (2021)

ตามดูให้ครบครับ เพราะหนังรวมเรื่องสั้นสยองแบบนี้ชอบอยู่แล้ว ซึ่งนี่ก็ถือเป็นตอนที่ 4 ของหนังชุดนี้นะครับ – จริงๆ มันจะมีทำเป็นซีรี่ส์สั้นๆ อยู่ 4 ตอน แต่ก็ยังหาดูไม่ได้ครับ เลยขอตามดูที่เป็นเวอร์ชั่นหนังก่อนแล้วกัน

เปิดเรื่องมาหน่วยสวาทก็กำลังบุกเข้าจู่โจมอาคารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่กบดานของสมาชิกลัทธินรก แล้วระหว่างการตรวจค้นอาคารพวกเขาก็เจอกับขอแปลกๆ สารพัด ไหนจะศพอีกมากมาย แล้วก็ยังได้เจอกับภาพวีดีโอสั้นๆ ผ่านจอทีวีที่ตั้งไว้ทั่วอาคารแห่งนั้น

ตอนที่ 1 Storm Drain
มีข่าวลือว่าในเมืองมีสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ชื่อ แรทแมน เพ่นพ่านอยู่ นักข่าวอย่าง ฮอลลี่ (Anna Hopkins) และตากล้องที่ชื่อเจฟฟ์ (Christian Potenza) ก็เลยลงพื้นที่ไปสัมภาษณ์ชาวบ้านว่าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่ทีนี้ตอนที่พวกเขากำลังถ่ายทำอยู่หน้าท่อระบายน้ำ เจฟฟ์ก็สังเกตเห็นว่าเหมือนมีคนอยู่ในท่อนั้น พวกเขาเลยเดินเข้าไปสำรวจ แล้วพวกเขาก็ได้พบกับ…

ตอนที่ 2 The Empty Wake
ณ สถานจัดพิธีศพ เฮลี่ย์ (Kyal Legend) ต้องรับหน้าที่เฝ้าศพของชายคนหนึ่งในคืนที่ฝนฟ้าคะนอง แต่แล้ว… มันราวกับว่า โลงศพมันขยับได้… หรือเขาจะยังไม่ตาย… หรือจริงๆ เขาตายแล้ว แต่ว่า…

ตอนที่ 3 The Subject
นักวิทยาศาสตร์ผู้บ้าคลั่งทำการทดลองผ่าตัดมนุษย์เข้ากับจักรกล และผลงานล่าสุดของเขาก็สำเร็จ แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อมีกองกำลังทหารบุกเข้ามา…

ตอนที่ 4 Terror
กลุ่มคนหัวรุนแรงวางแผนจะระเบิดอาคารของรัฐตามแผนที่พวกเขาตั้งชื่อว่า “ทวงคืนอเมริกา” ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปตามที่พวกเขาคาด จนกระทั่งมีอะไรสักอย่างมาไล่ฆ่าพวกเขา

จำได้ว่า 3 ภาคแรกนั้น ผมจะชอบภาค 2 มากสุด รองลงมาก็ภาคแรก ส่วนภาค 3 นั้นรู้สึกว่ามันดูจะดร็อปไปหน่อย สำหรับภาคนี้จริงๆ ก็ถือว่าใช้ได้เลยนะครับ คือไม่ได้เด็ดเท่าภาค 2 แต่ก็โอเคน้องๆ ภาคแรก – และแน่นอนว่าเวิร์กกว่าภาค 3

แต่ในบรรดา 4 ตอนนี้ ถ้าถามว่าผมชอบตอนไหน เอาเข้าจริงผมก็ไม่ถึงกับชอบน่ะครับ คือรู้สึกกลางๆ รู้สึกว่ามันก็ดูได้เพลินๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นสนุกมากหรือน่าจดจำอะไร แต่ถ้าจะต้องเลือกผมคงเลือกตอนที่ 3 ครับ ซึ่งว่ากันตามตรงผมค่อนข้างเฉยกับช่วงต้นๆ ของตอนนี้นะ คือมันดูไม่มีอะไรนัก ครั้นพอถึงตอนที่ทหารเริ่มบุกมันก็พอจะตื่นเต้นขึ้น แต่ก็ยังไม่เท่าไร

แต่ผมมาสนใจเอาตอนที่เราได้เห็นสภาพของ “สิ่งประดิษฐ์” ที่ว่านั่น รวมถึงเห็นข้าวของในห้องทดลองนั้นมันก็ชวนให้สะเทือนใจและหดหู่อยู่เหมือนกัน ผมว่าคอนเซปต์ตอนนี้ชวนให้นึกถึง Frankenstein เลยครับ แต่จะเป็นเวอร์ชั่นที่ชวนให้หดหู่ และไม่รู้ทำไมนะ แต่ผมชอบประเด็นที่ว่า “ถึงอย่างไร สิ่งที่มีชีวิต ก็อยากมีชีวิต” ซึ่งในหนังอาจไม่ได้เฉาะประเด็นนี้แบบลึกซึ้งอะไรมาก แต่ผมว่ามันก็ดูมีความหมายอยู่ – เลยทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ดูจะมีอะไรมากกว่าตอนอื่นๆ ที่ดูจะเน้นตรงคามสยองน่ากลัวกันเป็นหลัก

ส่วนตอนที่ 1 ก็ตามสูตรครับ คนเดินเข้าไปในบริเวณที่ไม่ควรเข้าไป บอกตามตรงถ้าเป็นผมล่ะก็ เห็นคนอยู่ในท่อลิบๆ ใช่ไหมครับ เป็นผมล่ะเปิดแน่บแล้ว ไม่บ้าเข้าท่อมืดๆ ไปหาคำตอบหรอก 555

ส่วนตอน 2 ก็เข้าสูตรหนังแน Found Footage ทั่วไป น่ะครับ กล้องตั้งไว้ แล้วตัวละครก็เจอเรื่องแปลกๆ ก่อนจะเจอแบบจัดเต็มในตอนท้าย ก็ถือว่าเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ถือว่าเด็ด (ไม่รู้ทำไมตอนดูตอน 2 นี่ผมนึกถึง The Haunting of Hill House ตอนที่ถ่ายแบบลองเทคตลอดเลย)

และตอนที่ 4 ผมรู้สึกเฉยสุดครับ รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรมาก แต่มันก็สะท้อนภาพคนหัวรุนแรงที่เชื่อว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่ถูกได้ชัดอยู่เหมือนกัน และจะว่าไปภาคนี้คงจะนับได้ว่ามี 5 ตอนเพราะยังมีตอนหลักที่เกี่ยวกับเรื่องของหน่วยสวาทรออยู่อีก 1 ซึ่งก็ถือว่าทำได้โอเคเหมือนกัน

สรุปว่าก็ดูได้ครับ ขอเพียงไม่คาดหวังก็น่าจะพอไหวอยู่

สองดาวครับ

(6/10)