มีลัทธินอกรีตต้องการครอบครองอาวุธเทพเจ้าในตำนาน พวกมันเลยวางแผนบังคับให้ แจ็คกี้ (เฉินหลง, Jackie Chan) นักล่าสมบัติฉายาเหยี่ยวเอเชียช่วยนำอาวุธเทพเจ้าเหล่านั้นมามอบให้ โดยการจับตัว ลอร่า (กวนจื่อหลิน, Rosamund Kwan) คนรักเก่าของแจ็คกี้ที่ตอนนี้เป็นแฟนอยู่กับนักร้องหนุ่มนามว่า อลัน (อลัน ทัม, Alan Tam)

ทีนี้แจ็คกี้กับอลันเลยต้องหาทางช่วยลอร่ากลับมา โดยมีเมย์ (Lola Forner) ลูกสาวท่านบารอน (Bozidar Smiljanic) ผู้ครอบครองอาวุธเทพเจ้าคอยติดตามไปด้วย

หนังก็มาในแนวผจญภัยแบบ Indiana Jones แต่สไตล์ก็ยังคงเป็นหนังเฉินหลงครับ นั่นคือมีฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ ท้าตายแทรกเป็นพักๆ บวกด้วยอารมณ์ขันน่ารักๆ แต่บอกก่อนว่าปริมาณแอ็คชั่นในเรื่องอาจไม่ได้เยอะอะไร เพราะพื้นที่ในหนังส่วนใหญ่จะใช้ไปกับเรื่องมิตรภาพแบบคู่ซี้คู่กัดระหว่างแจ็คกี้กับอลัน แล้วก็เรื่องสไตล์ขิงก็ราข่าก็แรงระหว่างแจ็คกี้กับเมย์ที่เหมือนๆ จะแอบชอบกัน แต่ก็เป็นอันต้องกัดกันอยู่ร่ำไป

แต่ฉากแอ็คชั่นที่ว่าน้อยนี่ก็ยังคงถึงใจครับ ซึ่งเฮียเฉินของเราก็ลงมือกำกับเองด้วย และหนังเรื่องนี้ก็กลายมาเป็นตำนานบทหนึ่งของเฮียเขา เพราะเขาเกือบตายระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ครับ ก็ฉากตอนต้นเรื่องนั่นแหละ มันจะมีฉากที่เขาต้องกระโดดจากกำแพงแล้วไปเกาะต้นไม้ ซึ่งเขาถ่ายทำฉากที่ว่านี้เสร็จไปแล้วรอบหนึ่ง แต่เฮียเฉินรู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ เขาเลยถ่ายใหม่อีกรอบ แต่รอบนี้กิ่งไม้บนต้นไม้ที่เขาต้องเกาะนั่นมันเกิดหักครับ ส่งผลให้เขาตกจากที่สูงราวๆ 5 เมตรลงมากระแทกพื้น หัวของเขากระแทกเข้ากับก้อนหิน ส่งผลให้กระโหลกแตก และมันหนักถึงขั้นว่ามีเศษกระโหลกกระเด็นเข้าไปในสมองเลยทีเดียว

เขาถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลในทันที และการผ่าตัดใช้เวลาทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง แม้เขาจะรอดชีวิตมาได้ แต่กระโหลกของเขาต้องใช้แผ่นพลาสติกใส่ลงไปเพื่ออุดรูที่แตกนั้น และมันส่งผลกระทบถึงความสามารถทางการได้ยินที่หูขวาของเขา ซึ่งในช่วง End Credits ของหนังก็ได้ใส่ภาพเบื้องหลังในวันที่เขาเกือบตายนี้ลงไปด้วยครับ

และด้วยความที่เฮียเฉินบาดเจ็บ เจิ้งจื่อเหว่ย (Eric Tsang) เลยต้องมารับหน้าที่กำกับในบางฉากเพื่อช่วยลดเฮียเฉินอีกแรงครับ – ดังนั้นถ้าจะบอกว่าผลงานชิ้นนี้เฮียเฉินแทบจะต้องแลกมาด้วยชีวิตก็คงไม่ผิดอะไรครับ

ตัวหนังจัดว่าสนุกดูเพลินครับ แม้จะมีช่วงเรื่อยๆ ช้าๆ บ้างตามสไตล์ของหนังฮ่องกงยุคโน้น แต่โดยรวมหนังก็ดูสนุกได้เพราะการแสดงลื่นๆ ของเหล่าดารานำ ยอมรับเลยครับว่าเฮียเฉิน, อลัน ทัม และ Forner ครองหนังได้อยู่ โดยเฉพาะ Forner นี่เธอสวยคมเข้มมีเสน่ห์แบบสุดๆ จริงๆ ในขณะที่กวนจื่อหลินนี่บทค่อนข้างน้อยครับ ออกแนวบทสมทบมากกว่า

เกร็ดสนุกๆ ของหนังที่อยากนำมาเล่าก็คือ ในหนังเราจะได้เห็น เฉินโหย่ว (Anthony Chan), Kenny Bee กับ หลิวเจียหลิง (Carina Lau) แว้บๆ ตอนต้นเรื่อง มาเป็นสมาชิกวงดนตรี The Losers ที่แจ็คกี้กับอลันเคยอยู่ด้วยกันก่อนจะแตกคอกันเพราะเรื่องของลอร่า ซึ่งวงดนตรี The Losers นี้ก็เป็นการล้อวงดนตรีที่มีจริงๆ ในฮ่องกงและดังมากในยุคนั้นที่ชื่อว่า The Wynners ครับ โดยสมาชิกของวงก็ประกอบไปด้วย เฉินโหย่ว, Kenny Bee, อลัน ทัม, Danny Yip และ Bennett Pang ซึ่งทั้งหมดก็โผล่มาล้อตัวเองในฉากวง The Losers นี่แหละครับ

นอกจากนี้จริงๆ แล้วตอนแรกซือเจ๊ผมทอง Cynthia Rothrock จะต้องได้มาแสดงเป็นหนึ่งในสาวๆ นักสู้ที่มาปะทะกับแจ็คกี้ในตอนท้ายเรื่องครับ แต่เนื่องจากการถ่ายทำที่ต้องยืดเวลาออกไปเนื่องจากอาการบาดเจ็บสาหัสของเฮียเฉินทำให้ตารางเวลามันไม่ได้ เธอเลยต้องบอกปัดไป แต่ในที่สุดเธอก็ได้มาแสดงกับหยวนเปียวในหนังเรื่อง กล้าแล้วต้องบ้า (Righting Wrongs) แทน ส่วนเรื่องนี้คนที่มาแสดงแทน Rothrock นั้นก็คือ Marcia Chisholm ครับ

ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างสวยงามเมื่อตอนออกฉายครับ ทำเงินไปราว 35 ล้านเหรียญฮ่องกง ส่งผลให้หนังเรื่องนี้ครองตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดในฮ่องกง ณ ตอนนั้น

อีกหนึ่งสิ่งที่ผมชอบในหนังเรื่องนี้คือเพลงครับ เพลงที่ชื่อ 朋友 หรือ Friend หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ Friend Of Mine ร้องโดยอลัน ทัมครับ ฟังแล้วมันได้บรรยากาศเพลงในยุค 80 เลยครับ ท่วงทำนองฟังแล้วเพลิน ส่วนตัวผมว่าเพลงนี้ถ้าเอามาเปิดฟังระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัด แล้วฟังขณะที่สองข้างทางเป็นท้องทุ่งหรือป่าเขาเขียวขจีจะเป็นอะไรที่ได้ฟิลมากครับ

สรุปว่าเป็นผลงานอีกเรื่องที่น่าดูของเฮียเฉินครับ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)