ผมจะจดจำหนังเรื่องนี้ ในฐานะที่ทำให้ผมเหงื่อออกมือมากสุดๆ ระหว่างดูนี่แหละครับ!
ออกตัวเลยว่าผมเป็นคนไม่ถูกกับความสูงครับ ชนิดที่ปีนบันไดลิงขึ้นที่สูงๆ แล้วเกร็งจนขยับตัวแทบไม่ได้ก็เคยมาแล้ว แล้วหนังเรื่องนี้มันก็ปีนกันกระหน่ำ ปีนอย่างเดียวไม่ว่า นี่ปีนแล้วมีลุ้นด้วย สำหรับผมนี่หนังทำจุดนี้ได้ถึงครับ – ถึงไม่ถึงก็ทำเอาเหงื่อออกมามือน่ะครับ คิดดู 555
พล็อตไม่ซับซ้อนครับ เกิดเหตุหมอกพิษแพร่กระจายไปทั่วเมือง ซึ่งหมอกนี่ถ้าโดนเข้าไปก็คือตายครับ ดังนั้นเหล่าตัวละครในเรื่องก็ต้องหาทางเอาตัวรอด ตอนแรกก็นึกว่าหนีขึ้นมาอยู่บนตึกสูงๆ แล้วมันจะจบ แต่ที่ไหนได้หมอกมันมีการไต่ระดับครับ ค่อยๆ คืบสูงขึ้นๆ ผู้รอดชีวิตก็เลยต้องหาทางพาตัวเองไปอยู่ให้สูงที่สุด ประมาณว่าถ้าตึกนี้สูงไม่พอก็ต้องหาทางปีนหรือกระโดดไปตึกอื่นที่สูงกว่า ทำแบบนี้ต่อไปให้นานที่สุดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง
ช่วงต้นๆ ตอนปูพื้นตัวละครผมก็ยังไม่ค่อยสนใจอะไรมากครับ แต่พอภัยหมอกเริ่มเกิดนี่เหมือนหนังสับสวิทช์เลยครับ ความน่าดูน่าติดตามโผล่มาแบบพรึ่บๆ ความลุ้นนี่ไหลมาเทมาบวกด้วยความโกลาหล คือถ้าเป็นเราไปอยู่ตรงนั้นก็คงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน แล้วจากนั้นหนังก็มีช่วงผ่อนหน่อยนึง เหมือนให้เราตั้งหลัก แต่เพียงไม่นานครับ เมื่อเหตุการณ์ทั้งหลายนำมาสู่ “การปีน” เท่านั้นล่ะความมันส์ความลุ้นก็มาแบบต่อเนื่อง
มือผมมันเริ่มเหงื่อออกเอาช่วงนี้แหละครับ เมื่อตัวเอกอย่าง ยองนัม (โจจองซอก, Jo Jung-suk) ซึ่งมีทักษะในการปืนผาจำลองอยู่แล้ว ต้องทำการปีนเพื่อแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือคนอื่นๆ คือมันเป็นการปีนที่ลุ้นมากน่ะครับ อันนี้บอกเลยนะว่าตอนดู The Walk (ที่ตัวเอกต้องไต่ข้ามตึก) หรือ Skyscraper (ที่เดอะร็อคเล่นและว่าด้วยตึกสูงเหมือนกัน) ผมยังไม่รู้สึกลุ้นขนาดนี้เลยนะ คือเรื่องนี้มันเหมือนเราไปอยู่ตรงนั้นกับเขาด้วย คือมันให้อารมณ์จริงจนก่อให้เกิดความลุ้นและก่อให้เกิดเหงื่อบนมือผมน่ะครับ – ผมว่าผมไม่ได้ลุ้นเบอร์นี้นานแล้วนะเนี่ย
แล้วมันก็มีเรื่องลุ้นๆ เกิดแบบต่อเนื่องครับ อาจมีพักบ้างแต่ไม่เยอะ ส่วนใหญ่ก็จะมีโจทย์ให้แก้ มีตึกให้ไต่ มีอะไรให้ทำอยู่ตลอดๆ ซึ่งผมบอกเลยว่ามันดูเพลินมาก สนุกมาก และที่ชอบมากอีกอย่างคือระหว่างนั้นหนังยังสามารถแทรกโอกาสให้ตัวละครแสดงอารมณ์ ความคิด หรือความรู้สึกออกมาได้แบบเนียนๆ โดยเฉพาะยองนัมกับ อีจู (อิมยุนอา, Im Yoon-ah) นี่คือ ยิ่งเวลาผ่านไปท่านจะยิ่งรู้จักพวกเขามากขึ้น โดยเฉพาะด้านดีๆ ในใจของพวกเขา ที่ทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยเขาหนักขึ้นไปอีก คือแค่เท่าที่เห็นนี่ก็คือลุ้นเอาใจช่วยเยอะพออยู่แล้ว นี่ยังมีฉากแสดงความน่ารักอีก – อีแบบนี้แหละครับที่ทำให้ผมอิน
ยังไม่หมดครับ นอกจากความลุ้นและมิติตัวละครแล้ว หนังยังแอบมีฮาแทรกลงมาด้วยนะ เออ คืออาจไม่เยอะ แต่ก็เวิร์กอยู่
แล้วจริงๆ ในหนังมันจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทั้งพระนางดูเหมือนจะไม่รอด แต่จู่ๆ หนังตัดมาอีกทีพวกเขากลับรอดจากสถานการณ์นั้นๆ มาได้ ตอนแรกผมก็คิดนะว่าหนังจะหลุดจุดนี้ไหมหว่าเนี่ย แต่กลายเป็นว่าช่วง End Credits มันจะมีบอกครับว่าพวกเขารอดมายังไง คือเห็นภาพสั้นๆ แล้วถึงบางอ้อทันที – ตรงนี้เลยทำให้ผมยิ่งชอบ เพราะนอกจากหนังจะไม่หลุดแล้ว มันยังจงใจยั่วล้อกับเราด้วย – แบบนี้ยิ่งจำหนังเรื่องนี้ได้แม่นเข้าไปอีก
เอาเป็นว่าผมเชียร์ให้ดูเลยครับ ไม่ว่าท่านที่ชอบหนังแนวภัยพิบัติ, แนวแอ็คชั่นลุ้นระทึกที่เล่นกับความสูง, แนวแก้โจทย์หาทางออก หาทางผ่าทางตันและไปต่อ หรือต่อให้หนังเกาหลีจะไม่ใช่ทางของท่านก็ตาม แต่ผมว่าท่านจะเพลินกับหนังเรื่องนี้ได้แน่ๆ ครับ
สองดาวสามส่วนสี่ดวงกันไปครับ
(7.5/10)
หมวดหมู่:Comedy, Disaster Movies, Korean Movies, Movie Reviews, Recommended Movies












