สำหรับเรื่องนี้บางที่ก็นับเป็นภาคต่อของ Zoombies นะครับ ในขณะที่บางที่ก็นับเป็นภาคแยก เอาเป็นว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันน่ะนะครับ นั่นคือว่าด้วยสวนสัตว์ที่เหล่าสัตว์กลายเป็นซอมบี้ โดยที่ภาคนี้เหตุมาเกิดที่สวนสัตว์ไชนิ่ง ซี อควาเรียม สรุปง่ายๆ ก็คือสัตว์น้ำติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้และคนที่อยู่ในนั้นก็ต้องหาทางเอาตัวรอดออกมาให้ได้ ซึ่งก็แน่นอนว่ารอดออกมาไม่ครบคนหรอก

ภาคนี้ผมว่าจืดสุดในหนังชุดนี้ครับ คือเอาจริงๆ แล้ว Zoombies 2 ภาคแรก ก็ไม่ได้เข้าข่ายดีน่ะนะครับ แต่ภาคแรกมันยังมีความพยายามใส่ฉากตื่นเต้นลงมาเยอะหน่อย (แม้ว่า CG จะเห่ยมากก็ตาม) ส่วนภาค 2 ก็พยายามเพิ่มมิติตัวละครเข้าไป ซึ่งก็อาจจะนับว่าภาค 2 ดูดีสุดแล้ว (ดูดีบนมาตรฐานแย่ๆ น่ะนะครับ 555)

ครั้นพอมาภาคนี้ผมว่ามันดูจืด ด้านความตื่นเต้นไม่เยอะ ตัวละครก็ไม่ค่อยมีอะไรเหมือนหนีตายกันไปเรื่อยๆ แล้วระหว่างทางก็ตายกันไปเรื่อยๆ แต่ที่ดีหน่อยอาจเป็น CG ที่ไม่ใช่ว่าดีขึ้นนะครับ แต่มันเหมือนทีมงานมีการประมาณตนเลยใส่ CG ลงไปเท่าที่จำเป็น หนังมันเลยไม่ดูเลอะไปด้วย CG ที่ไม่เนียน แต่ขณะเดียวกันระหว่างดูก็อดคิดไม่ได้ครับว่าทำไมสัตว์ในสวนนี่มันน้อยจังเลย เหมือนมีแค่ไม่กี่ตัวเท่านัน – ก็คงประหยัดค่า CG นั่นแหละครับ

หนังมีตัวละครที่เชื่อมเรื่องนี้เข้ากับ Zoombies ก็คือ ดร.เอลเลน (Kim Nielsen) มาแป๊บๆ ให้พอเชื่อมเรื่องครับ และดาราที่ถือว่าหน้าคุ้นที่สุดในเรื่องก็คือ Vivica A. Fox (ID4 ทั้ง 2 ภาค) ที่ผมคงต้องมอบตำแหน่งเจ้าแม่หนังเกรดบีให้เธอแล้วล่ะ เพราะระยะหลังเห็นเธอในหนังลงแผ่น, ลงสตรีม และลงทีวีแบบเกรดบีเยอะเหลือเกิน ขนาดหนังคริสต์มาสเธอยังตามไปเล่นน่ะครับ – แต่ส่วนใหญ่เห็นหน้าเธอทีไรต้องทำใจกับหนังเรื่องนั้นทุกที

ส่วนคนกำกับภาคนี้ก็ยังคงเป็น Glenn Miller จาก 2ภาคแรก แล้วพอไปค้นประวัตินี่ก็ถือว่าเขาคลุกคลีอยู่ในวงการหนังสัตว์โลกน่ารักเกรดบีมาพอสมควรครับ เพราะเคยรับตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับหนังอย่าง Mega Shark vs. Mecha Shark, Sharknado ภาค 2 และ 4, Dam Sharks และ Toxic Shark ดังนั้นจะเรียกว่าเขาเติบโตมาตามสายงานนี้ก็คงได้น่ะนะครับ

ว่าตามจริงคือหนังไม่ได้ต้องดูครับ ยกเว้นท่านจะสนุกสนานกับการดูหนังแนวสัตว์โลกน่ารักแบบดูเอาขำแบบผมก็ว่ากันไป ส่วนผมก็ไม่ได้ชอบอะไรครับ ดูเอาฮาครั้งหนึ่งในชีวิตและไม่คิดจะกลับไปดูซ้ำ และอย่างที่ผมเคยบอกครับว่า ผมรู้สึกว่าหนังเกรดบีสมัยก่อน (ยุค 90) มันดูมีอะไรมากกว่านี้ ถึงจะเห่ยแต่ก็ยังดูมีอะไร แต่กับหนังเกรดบีสมัยนี้มันความน่าสนใจลดลงยังไงก็ไม่รู้

แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่งก็คงต้องบอกว่า เราคงคาดหวังอะไรมากไม่ได้จากหนังที่ใช้เวลาถ่ายทำไม่ถึงอาทิตย์ (หนังเรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จใน 6 วันครับ)

ไม่ถึงดาวหรอกครับงานนี้

(3.5/10)