
ก็ไม่นึกเหมือนกันครับว่าเรื่องนี้จะมีภาคต่อ ซึ่งก็ห่างจากภาคแรกราวๆ 29 ปี
เนื้อเรื่องก็ง่ายๆ ครับ 3 แม่มดตัวร้ายแห่งเซเลม (Bette Midler, Sarah Jessica Parker และ Kathy Najimy) คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง – แบบไม่ตั้งใจตามเคย – ตัวเอกภาคนี้คือเบคก้า (Whitney Peak) ครับ เธอดันไปจุดเทียนดำอาถรรพ์ทำให้เหล่าแม่มดออกอาละวาด แล้วก็แน่นอนว่าก็มีแต่พวกเธอนี่แหละที่จะต้องหาทางปราบ 3 แม่มดลงให้จงได้
พูดแบบไม่อ้อมค้อม ภาคแรกจะโอเคกว่าครับ พอดูภาคนี้แล้วทำให้ตระหนักเลยว่าความสนุกอย่างหนึ่งของภาคแรกคือการที่เหล่าตัวเอกที่เป็นวัยรุ่นพยายามงัดสมองมาใช้สู้กับความต๊องของเหล่าแม่มด ส่วนภาคนี้จริงๆ ก็เดินตามรอยนั้นแหละครับ เพียงแต่จังหวะความลุ้นชวนให้ติดตามอาจไม่มากเท่าของเก่าที่จัดว่ามาแบบเรื่อยๆ
จุดเด่นของภาคนี้ก็หนีไม่พ้นการแสดงของ 3 ดารารุ่นใหญ่ โดยเฉพาะ Midler ที่ยังคงวาดลวดลายเป็นพี่ใหญ่แห่งตระกูลแซนเดอร์สันได้อย่างน่าจดจำ บอกเลยว่าที่ผมดูหนังเรื่องนี้ได้เรื่อยๆ นี่ก็เพราะลีลาของเธอนี่แหละครับ ส่วน Parker และ Najimy ก็ออกแนวสมทบเช่นเคย อย่างที่บอกน่ะครับว่าจริงๆ โครงสร้างก็เหมือนภาคแรกนั่นแหละ แค่เปลี่ยนยุคสมัยและเปลี่ยนทีมดาราวัยรุ่นเท่านั้นแหละ นอกนั้นก็ค่อนข้างเข้าทางเดิม – อ้อ แล้วอีกคนที่กลับมาด้วยก็คือ Doug Jones ในบท บิลลี่ บุทเชอร์สัน ซึ่งก็ขโมยซีนได้บ้างพอประมาณ

จุดที่ช่วยหนังไว้ได้เยอะผมว่าคือตอนท้ายครับ ตอนไคลแม็กซ์ที่จัดว่าสรุปเรื่องราวได้ดี ลึกๆ ตอนดูผมก็กะอยู่แล้วล่ะว่าหนังน่าจะจบประมาณนี้ ไม่งั้นจะกลายเป็นว่าหนังไม่มีอะไรใหม่ ซึ่งผมก็ชอบบทสรุปนี้นะครับ เพียงแต่ในใจก็คิดเหมือนกันว่าถ้าหนังมีการปูพื้นสักหน่อย เช่นเพิ่มเรื่องสายใยความผูกพันระหว่างแม่มดแซนเดอร์สันให้มากกว่านี้ มันก็คงถึงรสมากขึ้น
และขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ก็มีข่าวสำหรับภาค 3 ครับ ซึ่งดูจากเรื่องในภาค 2 แล้ว การจะมีตามมาอีกสักภาคก็ไม่น่าจะแปลกอะไร ก็ได้แต่หวังว่าภาคหน้าหนังจะมาพร้อมอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ 3 แม่มดแซนเดอร์สันที่ตอนท้ายภาคนี้ก็ปูทางไว้แล้ว ไหนจะมีตัวละครแม่มดรายอื่นที่เปิดตัวตอนต้นเรื่องด้วย – ถ้าสร้างต่อก็พร้อมดูครับ
หนังกำกับโดย Anne Fletcher แห่ง Step Up, 27 Dresses และ The Proposal ซึ่ง 3 เรื่องนั้นผมว่าสนุกกว่าเรื่องนี้ครับ ผลที่ได้ถือว่ากลางๆ ดูได้เพลินๆ เอาขำๆ ตามสไตล์หนังแฟนตาซีภาคต่อลงสตรีม แต่ก็ไม่ผิดหวังนะครับ ถือว่าดูได้เรื่อยๆ น่ะ – แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ถ้าปูพื้นอะไรต่อมิอะไรอีกนิดนะ ตอนสรุปน่ะน่าจะสร้างความประทับใจได้มากกว่าที่เป็น
ปล. ชอบซีนที่ “คัมภีร์เหงื่อตก” มาก ฮาสุดแล้วครับฉากนั้นน่ะ 5555
สองดาวยังได้อยู่ครับ
![]()
(6/10)
หมวดหมู่:Comedy, Family, Fantasy, Movie Reviews










