เรื่องนี้ดูแบบไม่คาดหวังครับ และจริงๆ ก่อนดูก็ได้ยินคำบ่นมามากกว่าคำชม ครั้นพอได้ดูก็รู้สึกว่าหนังไม่ได้เลวร้ายอะไรครับ ดูเพลินๆ ดูง่ายๆ สนุกดี เพียงแต่หลายๆ อย่างยังดีได้อีกเท่านั้นแหละ

ตัวเอกคือ ดอนน่า เจนเซ่น (Gwyneth Paltrow) ที่ใฝ่ฝันจะได้เป็นแอร์โฮสเตสทำงานบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ แต่กว่าจะไปถึงจุดหมายได้นี่เธอก็ต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนามทั้งจากการทำงานและจากคน ทว่าเธอเองก็ไม่ยยอมแพ้ ยังเดินหน้าฝ่าฟัน มุ่งมั่นต่อไปจนกว่าฝันเธอจะเป็นจริง

จริงๆ หนังมาในแนวสาวสู้ชีวิตครับ ซึ่งถ้าหนังเดินเรื่องโดยเน้นทิศทางนั้นล่ะก็หนังคงจะสนุกและมีสาระดีๆ เพียบ เพียงแต่ที่หนังเป็นจริงๆ คือออกแนวเบาสมองดูสบายครับ ออกแนวขำขันแล้วก็ผสมด้วยความรักกุ๊กกิ๊ก ระหว่างดุก็แอบเสียดายเหมือนกันครับ คือถ้าหนังเสริมเรื่องเนื้อหาและประเด็นการต่อสู้ฟันฝ่าของดอนน่าเพิ่มอีกสักหน่อย คือจะให้หนังมันออกแนวขำแบบที่เป็นน่ะก็ได้ครับไม่มีปัญหา แต่ขอให้สัดส่วนสาระที่เธอสู้เพื่อฝันมันมีมากพอๆ กัน หนังน่าจะกลมกล่อมและเปี่ยมพลังมากขึ้นอีกเยอะ

Paltrow เรื่องนี้สวยมากครับ จริงๆ ผมอยากใช้คำว่า “สะพรั่ง” เลยล่ะ เธอดูเปล่งประกายเหมือนแสงฉายมาที่เธอตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วอีกอย่างที่ชอบคือสีสันในแต่ละฉากที่จัดจ้านเตะตา หลายฉากนี่ดูสวยเลยล่ะครับ ยอมรับว่าระหว่างดูนี่นอกจากจะเพลินกับเหล่าดาราแล้ว ก็ยังเพลินกับสีลูกกวาดกึ่งการ์ตูนในแต่ละฉาก มันถือเป็นอาหารตาที่ทำให้เรารู้สึกเบิกบานระหว่างด ก็ขอชม Affonso Beato ที่จับภาพได้สวย จับอารมณ์ได้เหมาะ รวมถึงทีมฉากและทีมศิลป์ทั้งหลายด้วยครับ ผมชอบจริงๆ นะเนี่ย

ของดีอีกอย่างก็งานดนตรีของ Theodore Shapiro ที่บรรเลงคลอประกอบแต่ฉากได้อย่างพอเหมาะ โดยเฉพาะช่วงที่ดอนน่าคุยกับแซลลี่ (Candice Bergen) ในห้องแต่งตัวถือว่าเพราะกำลังดีครับ บวกด้วย Soundtrack เพลงเพราะๆ ที่เข้ากับอารมณ์ของแต่ละฉากตลอดทั้งเรื่อง นี่ก็ช่วยให้หนังดูเพลินได้เรื่อยๆ อีกเช่นกัน

เป็นหนังที่มีความละมุน แล้วก็ชวนฝัน ใครชอบแนวนี้ก็น่าจะเพลินครับ อย่างภรรยาผมก็ชอบ เธอเคยดูเรื่องนี้มาก่อนเมื่อนานมาแล้ว ส่วนผมเพิ่งดูรอบแรก ครั้นพอเปิดดูเธอก็ยังชอบอยู่ ส่วนผมก็ชอบตามหลังเธอไปติดๆ เพราะหนังรอมคอมสีสวยแบบนี้มันทางผมอยู่แล้วครับ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าด้วยศักยภาพของหนังนั้นมันสามารถเป็นได้มากกว่าแค่หนังรอมคอม และเดาว่า Paltrow ก็อาจรู้สึกในทำนองนั้นครับ เพราะเธอเคยออกมาสัมภาษณ์ตอนราวๆ 9 ปีหลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉาย ว่าเธอรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่น่าพอใจสักเท่าไร – จริงๆ เธอใช้คำว่า “Terrible movie” หรือ “หนังแย่” เลยล่ะครับ

ส่วนผมก็มองว่าหนังไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นครับ เพียงแต่ยังดีได้อีกเยอะเท่านั้นแหละ เพราะอย่างน้อยดาราก็เล่นกันดี (แม้จะออกโทนการ์ตูนไปบ้าง) ไม่ว่าจะ Christina Applegate, Kelly Preston, Mark Ruffalo, Rob Lowe แต่รายที่ผมชอบเยอะหน่อยคือ Bergen ที่ดูน่ารัก อบอุ่น และจริงใจ จุดนี้ผมยอมรับเลยนะว่าเธอเป็นนักแสดงฝีมือดีจริงๆ เพราะบทเชิงร้ายๆ เธอก็ฉายแววอำมหิตออกมาได้ แต่กับเรื่องนี้นี่มันไม่มีรังสีอำมหิตใดๆ มีแต่ความสดใสสดชื่น และเมตตากรุณา

อีกคนก็ Mike Myers ที่มาเน้นฮาครับ การดูหนังเรื่องนี้ก็ทำให้คิดถึงเขาเหมือนกันนะ เพราะระยะหลังจาก Austin Powers แล้ว งานของเขาก็ไม่ค่อยมีออกมาเลย ส่วนใหญ่จะเป็นบทสมทบเสียมาก ทำให้พอได้ดูเรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึงลีลาเพี้ยนๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาน่ะครับ

และหนังยังมีดารารับเชิญอีกคน นั่นก็คือ George Kennedy ชายชราที่นั่งชั้นเฟิสต์คลาสที่ดอนน่าถามว่าจะรับแชมเปญหรือคาเวียร์ดี แล้วเขาก็ตอบว่าอยากได้วอดก้าแทน – Kennedy นั้นถือเป็นดาราลายครามสำหรับหนังว่าด้วยเครื่องบินครับ เพราะเขาร่วมแสดงในหนังชุด Airport ทั้ง 4 ภาค แต่เชื่อว่าหลายท่านน่าจะคุ้นหน้าเขาจากหนังชุด The Naked Gun

หนังกำกับโดย Bruno Barreto ผู้กำกับชาวบราซิลที่มีผลงานในบ้านเกิดมากมาย และหลายเรื่องก็ทำออกมาได้ดีด้วยครับ ในขณะที่เรื่องนี้จากผลตอบรับที่ไม่สวยนักก็เลยทำให้เขาถอยกลับไปทำหนังที่บ้านเหมือนเดิม – เรื่องนี้ทำเงินไปราว $19.5 ล้าน จากทุนสร้าง $30 ล้านครับ ก็คือไม่ประสบความสำเร็จครับ ซึ่งก็พอเข้าใจได้เพราะหน้าหนังดูโอเค แต่โดยรวมก็ออกแนวเรื่อยๆ ยังไม่ถึงกับดีแบบเต็มๆ ส่วนที่ผมชอบนั้นก็ถือเป็นความชอบส่วนตัวครับ ด้วยความที่หนังมันเสิร์ฟในสิ่งที่ผมชอบพอดีก็เลยอาจจะรู้สึกบวกกับหนังมากกว่าชาวบ้านเขาหน่อย แต่ถ้าว่ากันถึงตัวหนังตามจริงแล้วก็ถือว่ายังดีได้อีกเยอะครับ

และสาระประการหนึ่งที่หนังบอกเราแบบเต็มๆ นอกจากเรื่องให้เรามุ่งมั่นทำตามฝันแล้ว ก็ยังบอกให้เราอย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนครับ อย่าคิดว่าโลกนี้เป็นทุ่งลาเวอร์เดอร์ที่มีแต่คนดีๆ Only เพราะคนไม่ดีนั้นก็มีครับ และความรู้สึกอิจฉาริษยาอะไรนี่มันก็มีจริงๆ อีกเช่นกัน – ไม่ได้เชียร์ให้ระแวง แต่อยากบอกให้ระวังครับ

สรุปง่ายๆ ว่าถ้าท่านชอบหนังรอมคอม หรือหนังแหว๋วๆ สีลูกกวาดที่ดูแล้วให้ความรู้สึกดีๆ แบบ Feel Good ก็ลองลิ้มหนังเรื่องนี้ได้ครับ ผมว่าถ้าท่านไม่คาดหวังมากไปก็น่าจะเพลินกับหนังได้ไม่ยาก

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)