
หนังตลกที่บอกเล่าชีวิตของวัยรุ่นในโรงเรียนคริสเตียนแห่งหนึ่งครับ เรื่องของเรื่องคือแมรี่ (Jena Malone) เกิดท้องกับแฟนหนุ่มซึ่งค้นพบว่าตัวเองเป็นเกย์ครับ นอกจากนี้ยังมีเด็กใหม่อย่างคาสแซนดร้า (Eva Amurri) ที่เป็นคนนอกแถวแบบสุดๆ เธอเลยไม่กินเส้นกับฮิลารี่ เฟย์ (Mandy Moore) เพื่อนของแมรี่ที่เคร่งศาสนาแบบสุดๆ ทีนี้ก็เลยเกิดเรื่องวุ่นๆ ตามมาอีกสารพัดครับ และเรื่องราวทั้งหลายนั้นก็จะกลายมาเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของทุกๆ คนในเวลาต่อมา
หนังจัดว่าสนุกเลยครับ อย่างแรกที่ต้องชมคือดาราทั้งหลายเล่นกันได้ลื่นมาก ตีคาแรคเตอร์ของตัวเองได้แตก ซึ่งคาแรคเตอร์ของแต่ละคนก็เหมือนเป็นการสะท้อนคนแต่ละประเภทในสังคมน่ะครับ ไม่ว่าจะคนอ่อนใสไร้เดียงสา, คนที่เคร่งที่เครียดกับอะไรมากๆ จนถึงขั้นวางไม่ลง, คนที่ไม่เคร่งกับอะไรเลย จนบางคนมองว่าคนผู้นั้นไม่เป็นโล้เป็นพาย – แต่คำถามคือ แล้วเขาคนนั้นไม่เป็นโล้เป็นพายจริงหรือ?, คนที่อยากมีแสง อยากได่รับการยอมรับจากสังคม, คนที่ตามกระแสดูแห่ตามคนอื่นไปเรื่อย หรือคนประเภทกลางๆ ที่พร้อมจะปรับตัวเข้ากับคนแนวต่างๆ หรือสถานการณ์ต่างๆ
ความสนุกของหนังก็คือการได้เห็นคนแต่ละประเภทมามีปฏิสัมพันธ์กันน่ะครับ มันสะท้อนสังคมได้ดี ซึ่งผมมองว่ามือเขียนบทอย่าง Brian Dannelly และ Michael Urban จับประเด็นมาเล่นได้ดีครับ และพวกเขาต้องมองคาแรคเตอร์ต่างๆ ชัดพอสมควรเลยล่ะ ถึงเอามานำเสนอได้แบบชัดเจนตรงประเด็น และดูสนุกได้ขนาดนี้ – และผู้กำกับเรื่องนี้ก็คือ Dannelly นั่นเองครับ
หนังถือว่ารวมดาวดาราวัยรุ่นในยุคนั้นได้เยอะอยู่ครับ ไม่ว่าจะ Malone, Moore, Amurri, Macaulay Culkin, Patrick Fugit, Heather Matarazzo ดูแล้วนึกถึงกลิ้นอายยุค 2000 เลยครับ และดารารุ่นใหญ่อย่าง Martin Donovan กับ Mary-Louise Parker ก็มาเสริมเรื่องราวได้ดี ก็ลองว่าบทหนังดีๆ มาเจอกับดาราที่รู้งาน และผู้กำกับที่เล่าเรื่องได้สนุกๆ หนังเลยตอบโจทย์ครบทั้งความบันเทิงและสาระ
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบครึ่งแรกของหนังมากเลยครับ เล่าสนุกและเปิดประเด็นได้ดี ตอนกลางก็ถือว่าสนุกอยู่ ในขณะที่ตอนท้ายนั้นการขยี้ประเด็นปิดเรื่องอาจยังไม่ถึงกับเด็ดนัก แต่อย่างน้อย ณ ตอนจบหนังก็สื่อประเด็นส่งท้ายได้ดีครับ สาระสำคัญเลยคือคนเราควรเปิดใจเข้าหากัน ยามที่เจอคนแตกต่าง ไม่ว่าจะคิดต่าง มองต่าง หรือทำต่าง ก็อย่าเพิ่งปิดประตูใส่ แต่ควรใช้โอกาสนั้นในการศึกษาเรียนรู้มุมที่แตกต่างนั้น มันคือการเปิดโลกของเราให้กว้างขึ้น และการเข้าใจโลกให้กว้างขึ้นนั้นถือเป็นเคล็ดลับความสุขสำหรับใครหลายคนครับ – เพราะบางทีที่เราทุกข์หรือรู้สึกหนักอึ้ง ก็เพราะเราไม่เข้าใจในบางสิ่ง หรือเพราะปิดใจใส่บางอย่างนั่นแหละ
ตัวหนังอาจทำเงินไม่มากนะครับ ทำไปราว $10 ล้านจากทั่วโลก แต่ก็ถือว่าโอเคเพราะต้นทุนน่ะประมาณ $5 ล้าน ก็พอจะคุ้มทุนอยู่
ถือเป็นหนังวัยรุ่นที่คุ้มค่าแก่การรับชมครับ ดูสนุก และได้อะไรเก็บกลับมาคิด
สองดาวครึ่งสวยๆ ครับ
![]()
(7/10)

หมวดหมู่:Comedy, Drama, Feel-Good Movies, Movie Reviews, Recommended Movies










