
โดราเอมอนภาคพิเศษตอนที่ 11 ครับ เรื่องเริ่มเมื่อโนบิตะเดินละเมอเข้าไปในหมอกลึกลับสีชมพูที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน แล้วเขาก็ได้ไปยังดินแดนที่สัตว์พูดได้ เดินสองขาได้ และมีอารยธรรมเหมือนมนุษย์ ตอนแรกใครๆ ก็นึกว่าโนบิตะฝันไป แต่ในเวลาต่อมาทุกคนก็พบว่ามันคือเรื่องจริง
แล้วก็ตามสูตรครับ ดินแดนอันแสนสงบแห่งนี้กำลังจะถูกคุกคามโดยตัวร้ายสุดลึกลับที่ดูเหมือนจะต้องการยึดครองโลกอันแสนสงบนี้ แน่นอนว่าโดราเอมอนและผองเพื่อนต้องยื่นมือเข้าช่วยอยู่แล้ว
เป็นภาคที่ดูได้เพลินๆ ตามเคยครับ ในแง่เนื้อหาและการผจญภัยผมมองว่าเรื่อยๆ อาจไม่ได้เข้มข้นมากมาย แต่ก็ยังน่าดูอยู่ ถ้าจะมีอะไรที่ติดในใจหน่อยก็คงเป็นตอนท้ายน่ะครับ ช่วงไคลแม็กซ์สู้กับเหล่าร้ายออกจะลงเอยง่ายไปนิด ไม่ค่อยมีอะไรให้ลุ้นแบบภาคก่อนๆ
แต่สิ่งสำคัญของภาคนี้ ผมมองว่าอยู่ที่ธีมครับ ธีมที่หนังอยากจะบอกกับเราก็คือการย้ำเตือนให้คนดูตระหนักเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการตัดไม้ทำลายป่า การใช้ทรัพยากรธรรมชาติไปอย่างสิ้นเปลือง ไหนจะมลภาวะต่างๆ ทั้งทางดิน ทางน้ำ ทางอากาศที่เกิดจากน้ำมือของมนุษย์
ผมเขียนบทความนี้ในเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2567 ซึ่งเพิ่งผ่านหน้าร้อนที่ร้อนจัดๆ มาหมาดๆ ซึ่งการที่โลกร้อนขึ้นขนาดนั้นมันก็เป็นผลพวงมาจากน้ำมือมนุษย์อีกนั่นแหละ – หนังการ์ตูนเรื่องนี้พยายามเตือนเรื่องนี้กับเรามาตั้งแต่เมื่อ 30 กว่าปีก่อนน่ะครับ – บอกตรงๆ ว่าไม่รู้เหมือนกันว่ามนุษยชาติจะยังทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขสภาพภูมิอากาศที่กำลังเลวร้ายลงแบบนี้ได้ทันหรือไม่
ถ้าดูทรงแล้วมนุษย์ยังคงทำเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขจริงจัง ผมก็เกรงว่าคำตอบจะเป็น “แก้ไขไม่ทัน”
สรุปว่าก็ยังดูได้ครับภาคนี้ เพียงแต่ความสนุกอาจไม่มากเท่าตอนก่อนๆ โดยเฉพาะความลุ้นนี่ถือว่าไม่ค่อยมีเท่าไร แต่ถ้ามองในแง่ความตั้งใจที่จะสื่อสารให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมล่ะก็ ก็ต้องถือว่าสื่อสารได้ดีในระดับหนึ่ง
สองดาวกว่าครับ

(6.5/10)

หมวดหมู่:Adventure, Animation/Cartoon, Family, Fantasy, Japanese Movies, Movie Reviews, Sci-Fi










