รีเมคจากหนังเก่าปี 1989 ที่ Patrick Swayze แสดงนำ ซึ่งจำได้เลยว่าผมดูจากหนังรอบดึกของช่อง 3 ดูแบบไม่คาดหวัง กะว่าเปิดแป๊บๆ แล้วก็จะนอน ปรากฏว่านอนไม่ได้ครับ เพราะหนังมันสนุก ต้องนั่งดูจนจบ แล้วก็ยังมีการเอามาดูซ้ำอีกในเวลาต่อมา

ส่วนฉบับนี้โครงสร้างจะคล้ายๆ กัน มีเปลี่ยนรายละเอียดนิดหน่อย ตัวเอกคือ ดัลตัน (Jake Gyllenhaal) นักสู้มือพระกาฬที่ได้รับการจ้างวานจากแฟรงกี้ (Jessica Williams) เจ้าของบาร์ที่ชื่อโร้ดเฮาส์ ให้ช่วยมาคุมบาร์ที เพราะช่วงนี้มีคนแปลกหน้ามาหาเรื่องต่อยตีในร้านอยู่บ่อยๆ ซึ่งดัลตันก็จัดให้ครับ อันส่งผลให้เขาต้องเผชิญกับ เบน (Billy Magnussen) นักธุรกิจสีเทาที่หมายมั่นจะเล่นงานบาร์แห่งนี้ให้จงได้

ผมชอบครึ่งแรกครับ โทนมันใช่ ดัลตันมันเท่ห์ ผมชอบมากตอนที่พี่แกมายังโร้ดเฮาส์แล้วก็หยั่งเชิงดูโน่นดูนี่ ก่อนจะค่อยๆ จัดระเบียบคนในร้าน สอนมวยพนักงานให้รับมือพวกก่อกวนได้ดีขึ้น แล้วก็ไปตามคนมาเสริมทัพทำให้ร้านแกร่งขึ้น อะไรเหล่านี้ทำให้พี่ดัลตันแกดูมีกึ๋น ไม่ได้เก่งแต่ใช้กำลัง แต่ยังใช้สมองเป็นอีกด้วย

หรือตอนใช้กำลังพี่เขาก็ยังเท่ห์ครับ เอาแค่ตอนรับมือกับพวกก่อกวนรอบแรกก็ทั้งมันส์ทั้งฮา เข้าตำราคนมีดีไม่อวด แต่ถ้าต้องอวดก็จัดให้สุด และจุดเด่นอีกอย่างของพี่แกคือความสุขุม ทำอะไรเนิ่บช้าแต่หูตาไว – ไหนจะตัวละครสมทบแวดล้อมอย่างน้องเจ้าของร้านหนังสือ (Hannah Love Lanier) หรือคุณหมอสาวเอลลี่ (Daniela Melchior) ที่มาช่วยทำให้เราเห็นคาแรคเตอร์ด้านน่ารักๆ ด้านโรแมนซ์ๆ ของดัลตัน เนี่ยครับ ครึ่งแรกผมว่าลงตัวดี

ผมย้ำว่าครึ่งแรกๆ แบบนี้ราวกับจะบอกว่าครึ่งหลังไม่สนุก… ซึ่งมันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ก็พอเข้าใจแหละว่าครึ่งหลังหนังดำเนินไปในทิศทาง “ระห่ำ” เป็นดัลตันโหมดเดือด ในแง่ความสะใจมันก็เรื่องหนึ่งครับ อันนี้โอเคว่าครึ่งหลังมันก็สะใจกับหลายฉาก เพียงแต่ยอมรับว่าใจลึกๆ อยากเห็นดัลตันฟัดด้วยหมัดมากกว่าจะมาระห่ำระเบิดระเบ้อ – จุดนี้ก็คงขึ้นกับความชอบส่วนตัวครับ ใครชอบความระห่ำแบบตูมตามก็น่าจะเพลินมากหน่อย ส่วนผมจริงๆ ก็เพลินนั่นแหละ แต่ก็อย่างที่บอกว่าชอบซัดด้วยหมัดมากกว่า เหตุนี้ผมเลยยังออกจะชอบฉบับเก่าอยู่หน่อย เพราะมันตอบโจทย์นั้นได้ตรง

แต่ใจก็คิดน่ะครับว่า ไม่แน่ภาคหน้าเราอาจจะได้สะใจกับฉากฟัดด้วยหมัดมากกว่านี้ก็ได้ เพราะหนังก็ปูทางทิ้งเชื้อเอาไว้แล้วน่ะครับ ว่ามีโอกาสที่เรื่องวุ่นๆ จะถูกสานต่อ อย่างเรื่องพ่อของเบนนี่ก็หนึ่งล่ะ ไหนจะการทิ้งเชื้อแบบชัดๆ ตอนท้าย ก็คงต้องรอดูกัน

แต่ว่าโดยรวม ผมก็โอเคกับหนังอยู่ล่ะครับ ดูมันส์ดี สนุกดี อาจมีที่ไม่ตรงใจบ้างแต่ถ้าไม่คิดมากก็ทำใจรับได้ ผมก็อยู่ในข่ายชอบนะ อย่างน้อยหนังก็ทำออกมาได้มันส์และบันเทิงดี ได้อารมณ์ความเป็นหนังยุค 90 อีกต่างหาก ดังนั้นหากมีภาคต่อออกมาก็พร้อมรอดูครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)