หนังแอนิเมชั่นผจญภัยที่ทำออกมาได้สนุกกำลังดีครับ ดูรอบแรกก็ชอบเลย ครั้นเอามาดูใหม่แบบเรียงภาคก็ยังชอบอยู่ เพราะมันตอบโจทย์ความบันเทิงได้ดี และมีสาระดีๆ เสริมเข้าไปด้วย

ตัวเอกคือฮิคคัพครับ เขาอยู่ในดินแดนไวกิ้งที่มักจะถูกรุกรานโดยเหล่ามังกรสารพัดสายพันธุ์ เรียกว่าชาวบ้านกับมังกรนี่อยู่ในสถานะที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลยล่ะ แต่แล้วฮิคคัพก็ได้รู้จักกับมังกรตัวหนึ่งเข้าครับ เขาตั้งชื่อมันว่าเขี้ยวกุด แล้วพวกเขาก็สานมิตรภาพต่อกัน จนถึงจุดหนึ่งฮิคคัพก็ตระหนักว่าจริงๆ แล้วมังกรกับมนุษย์นั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้นะ แต่ใครล่ะครับจะเชื่อเด็กอย่างเขา ในเมื่อคนกับมังกรรบกันมานานแสนนานแล้ว

สาระชั้นดีของหนังเลยก็คือหนังกระซิบบอกกับผู้ใหญ่ให้เปิดใจรับฟังสิ่งที่เด็กๆ คิดหรือสิ่งที่เด็กๆ รู้ครับ อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเด็กก็คือเด็กที่ไม่รู้อะไร – คือบางเรื่องพวกเขาก็อาจไม่รู้จริงๆ นั่นแหละครับ – แต่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย และใช่ว่าเราจะเรียนรู้อะไรจากเด็กไม่ได้เลย บางครั้งเด็กๆ ก็อาจมาพร้อมข้อมูลชุดใหม่ที่น่าเรียนรู้ก็เป็นได้ ซึ่งเราไม่ต้องรีบเชื่อทันทีก็ได้ครับ แต่ก็อย่าเพิ่งด่วนปฏิเสธ เราควรหันหน้าเข้าหากัน หากมีข้อมูลหรือองค์ความรู้อะไรใหม่ๆ ก็เอามาแลกเปลี่ยนกัน ร่วมกันศึกษา ร่วมกันค้นหาข้อมูลเพื่อที่จะได้รู้แจ้งเห็นจริง

บางครั้งบางเรื่องที่เรารับรู้กันมานานนั้น ก็อาจต้องมีการอัพเดตครับ นั่นคือสิ่งที่หนังภาคนี้พยายามจะบอกกับเรา – แต่แน่นอนว่าประเด็นนี้ก็ยังมีอีกแง่มุมให้เราใคร่ครวญอยู่ (นั่นคือเด็กเองก็ควรต้องฟังผู้ใหญ่ในบางเรื่องเช่นกัน) ซึ่งสาระอีกชุดนี่ก็จะมีสอดแทรกลงไปในหนังภาค 2 น่ะนะครับ ดังนั้นผมจึงแนะนำว่าถ้าจะดูหนังชุดนี้ล่ะก็ เมื่อดูภาคแรกแล้วก็ควรต่อด้วยภาค 2 เพื่อที่เราจะได้รับสาระครบมุม

ตัวหนังประสบความสำเร็จอย่างดีครับ ทำเงินทั่วโลก $494 ล้าน (จากทุนราว $165 ล้าน) ถือเป็นแอนิเมชั่นอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การรับชม มีครบทั้งเนื้อหาสนุก การผจญภัยที่น่าตื่นเต้น เนื้อหาที่น่าติดตาม และแง่คิดที่ส่งเสริมให้เด็กกับผู้ใหญ่ลดช่องว่างระหว่างกัน (ทั้งในเรื่องวัยและความคิด)

สามดาวครับ

(8/10)