
Invasion of the Body Snatchers หนังที่ดูกี่รอบก็ยังรู้สึกได้ถึงความสะพรึงครับ จริงๆ แค่คิดก็น่ากลัวอยู่นะ ว่าถ้าคนรอบตัวเราโดนเอเลี่ยนกลืนร่างไปทีละคนๆ แล้วเราก็จะเป็นรายต่อไปในอีกไม่นาน บรรยากาศชีวิตเรามันคงน่าขนลุกทีเดียว
ตัวหนังนั้นดัดแปลงจากนิยายเรื่อง The Body Snatchers ของ Jack Finney และขณะเดียวกันก็กินตำแหน่งเป็นหนังรีเมคจากหนังชือเดียวกันนี้เมื่อปี 1956 ซึ่งถือเป็นหนังไซไฟระทึกขวัญระดับคลาสสิกอีกเรื่องที่นำแสดงโดย Kevin McCarthy และกำกับโดย Don Siegel (ที่ในเวลาต่อมาก็ทำ Dirty Harry ภาคแรกด้วย) โดยหนังไซไฟแนวมนุษย์ต่างดาวบุกในยุคนั้นก็มักจะถูกตีความว่ามนุษย์ต่างดาวก็คือตัวแทนของลัทธิคอมมิวนิสต์ที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก
หนังเล่าถึงสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวที่มายังโลก แล้วพวกมันก็ค่อยๆ กลืนร่างมนุษย์ทีละคน คนที่ถูกกลืนนั้นร่างกายหน้าตาจะเหมือนเดิม แต่พฤติกรรมจะเปลี่ยนไปครับ คือดูเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์ ดูเหมือนหุ่นแข็งๆ ทื่อๆ ซึ่งเอลิซาเบธ ดริสคอลล์ (Brooke Adams) ก็สัมผัสได้ว่าสามีของเธอเปลี่ยนไป เธอเลยพยายามบอกกับเพื่อนสนิทอย่างแมทธิว เบนเนลล์ (Donald Sutherland) ตอนแรกแมทธิวก็ไม่เชื่อล่ะครับ แต่พอเวลาผ่านไปเขาก็พบว่ามนุษย์ในสังคมรอบตัวชักจะแปลกไปจากเดิมจริงๆ
ไหนจะไปเจอหลักฐานเป็นร่างมนุษย์ที่ยังถูกกลืนไม่เสร็จ ในสปาของเพื่อนอย่างแจ็ค เบลลิเซค (Jeff Goldblum) และแนนซี่ (Veronica Cartwright) เขาเลยตระหนักครับว่ากำลังมีเอเลี่ยนมากลืนมนุษย์จริงๆ และพวกเขาเลยต้องพยายามหาทางเอาตัวรอดให้ทันก่อนที่จะโดนกลืนไปด้วย
เวลาดูหนังเรื่องนี้ผมมักจะนึกถึงหนังอีกเรื่องอย่าง The Thing ครับ เพราะโดยพล็อตน่ะมาทางเดียวกัน คือว่าด้วยสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวมายังโลกและกลืนร่าง/สิงร่างมนุษย์ แต่ใน The Thing นั้นคนที่ถูกกลืนร่างเราจะดูไม่ออกง่ายๆ เพราะมันจะพยายามทำตัวให้เหมือนคนปกติ ในขณะที่เรื่องนี้คนที่ถูกกลืนจะดูต่างไปจากเดิมแบบชัดเจนน่ะครับ จากเดิมเป็นคนเฮฮาปาร์ตี้ มีรอยยิ้มมีอารมณ์ก็จะกลายเป็นคนเย็นชา ไม่แสดงอารมณ์ความรู้สึก ดูประหนึ่งหุ่นยังไงยังงั้น
ซึ่งผมว่ามันก็สยองกันไปคนละแบบนะครับ The Thing ก็สยองในบรรยากาศหนึ่ง (และในแง่ความแหวะ เรื่องนั้นจะแหวะโหดกว่ากันพอตัว) ส่วนเรื่อง Invasion บรรยากาศก็จะดูไม่น่าไว้วางใจ แค่จินตนาการว่าเราไปอยูในหนังนี่คงหลอนน่าดูล่ะครับ และเราก็คงจะเกร็งทำตัวลำบากอยู่เหมือนกัน

ความดีของหนังคือบรรยากาศความน่ากลัวที่ค่อยๆ ครอบคลุมทีละน้อย คือมันดูน่ากลัวโดยที่ไม่ต้องมีฉากแหวะอะไรเลย แค่ตัวละครที่เป็นมนุษย์เดินผ่านฝูงชนที่โดนกลืนไป แค่นี้ก็ชวนหายใจไม่ทั่วท้องล่ะครับ เพราะไม่รู้ว่าเหล่าเอเลี่ยนจะมารุมจับเราไปกลืนร่างตอนไหน และเวลามารุมทีนี่คือมาทั้งหมู่บ้าน โอกาสรอดนี่ยากมาก ความกดดันของหนังเลยเพิ่มขึ้นตามลำดับ
และความดีต่อมาก็คือเหล่าดาราระดับมืออาชีพที่เล่นเรื่องไหนก็สวมบทตัวละครนั้นๆ ได้ดีเสมอ ไม่ว่าจะ Sutherland, Adams แล้วก็ยังมี Goldblum ที่ถนัดนักล่ะครับกับบทนักคิดที่ชอบมองอะไรแบบนอกกรอบ ชอบตั้งประเด็นมาถกกับชาวบ้านเขาบ่อยๆ ซึ่งพี่แกก็ถือเป็นสีสันอย่างดีให้กับหนัง เช่นเดียวกับ Cartwright ที่ถนัดอีกเหมือนกันกับบทที่จะต้องมาแสดงสีหน้าตื่นตระหนักตกใจเป็นกิจวัตร (มีคนแอบแซวว่าเธอนี่ช่างน่าสงสารแท้ ถัดจากการเผชิญเอเลี่ยนในเรื่องนี้แล้ว ปีต่อมาเธอยังต้องไปเจอเอเลี่ยนสุดโหดใน Alien อีกรอบ)
Leonard Nimoy ก็เป็นอีกรายครับที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับหนัง ในบท ดร.เดวิด คิบเนอร์ ที่เป็นเพื่อนของแมทธิว แต่คนดูก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตกลงนายคนนี้ยังเป็นคนอยู่หรือโดนต่างดาวกลืนร่างไปแล้วกันแน่
หนังกำกับโดย Philip Kaufman ที่แม้จะเป็นผู้กำกับมือเก๋าแต่เอาเข้าจริงเขากำกับหนังไว้เพียง 13 เรื่องเท่านั้นครับ และสำหรับเรื่องนี้ก็ถือเป็นอึกหนึ่งผลงานชั้นดีที่ดูแล้วสามารถสร้างความรู้สึกชวนผวาอย่างได้ผล
หนังยังมีดารารับเชิญด้วยครับ คนแรกเลยคือ Robert Duvall ที่มาโผล่ซีนเดียวตอนต้นเรื่อง เป็นบาทหลวงที่นั่งอยู่บนชิงช้าน่ะครับ ซึ่งที่เขามาเข้าฉากนี้ก็เพราะเขากับผู้กำกับ Kaufman เคยร่วมงานกันมาก่อนใน The Great Northfield Minnesota Raid และพอดีว่าตอนนั้น Duvall แวะมาในเมืองที่เขากำลังถ่ายทำกันอยู่พอดี พี่ท่านเลยโดดลงมาร่วมแจมด้วยเลย

แล้วก็มี Kevin McCarthy ตัวเอกจากเวอร์ชั่นต้นฉบับมาเป็นชายที่วิ่งมาที่รถของแมทธิวแล้วตะโกนว่า “คุณคือรายต่อไป” (อันเป็นประโยคคลาสสิกจากหนังต้นฉบับด้วย) และอีกหนึ่งบทรับเชิญก็คือ Don Siegel ผู้กำกับหนังต้นฉบับที่มาเป็นคนขับแท็กซี่ที่แมทธิวกับเอลิซาเบธขึ้นแล้วบอกว่าจะไปสนามบินนั่นแหละครับ
ตัวหนังถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดีครับ ได้รับชมคำชมไปเยอะอยู่ และทำเงินไป $24.9 ล้านจากทุนสร้าวราวๆ $3.5 ล้าน
ถือเป็นหนังไซไฟระทึกขวัญอีกเรื่องที่อยากให้ลองชมครับ เพราะทำออกมาได้ชวนสะพรึง เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ไม่น่าไว้วางใจ ให้ความรู้สึกขนพองสยองเกล้าได้โดยไม่จำเป็นต้องแหวะอะไรมาก แค่เห็นคนด้วยกันทำท่าไม่เหมือนคนทั่วไปก็พาให้หลอนได้แล้วครับ
และอีกอย่างที่ผมชอบเป็นพิเศษคืองานสร้างตัวเอเลี่ยนครับ ไม่ว่าจะตอนมาเป็นวุ้นเล็กๆ แล้วก็ค่อยๆ แผ่กิ่งก้านสาขา หรือตอนเป็นฝักเป็นดอกเป็นรูปเป็นร่างเตรียมลอกพันธุ์มนูษย์ งานสร้างพิเศษรุ่นทำมือเหล่านี้ถือเป็นของคลาสสิคครับ มันดูจริง ดู Real มากกว่างาน CG สมัยใหม่ เป็นงานที่มีรายละเอียดอย่างน่าทึ่ง โดยส่วนตัวนี่ผมถือว่ามันเป็นเสน่ห์สำหรับหนังรุ่นเก่าเลยครับ ชอบจริงๆ
ที่สำคัญคือหนังมาพร้อมบทสรุปที่ชวนให้จดจำอีกด้วย
สองดาวสามส่วนสี่ดวงครับ

(7.5/10)
หมวดหมู่:Horror, Movie Reviews, Recommended Movies, Sci-Fi










