Sideworld: Damnation Village คือตอนที่ 3 ของสารคดีชุดนี้ครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้นะว่าเขาจะทำออกมาแค่ไตรภาคนี้แล้วจบเลย หรือจะมีการทำต่อไปอีก แต่ถ้าถามใจผมล่ะก็ ผมเชียร์ให้ทำต่ออีกครับ เพราะเขาทำออกมาดีมากๆ เลยจริงๆ

สำหรับตอนนี้จะเป็นเรื่องของอาถรรพ์ตามหมู่บ้านต่างๆ ที่ได้ชื่อว่าผีดุสุดๆ ในอังกฤษครับ ได้แก่หมู่บ้าน Pluckley, หมู่บ้าน Prestbury และหมู่บ้าน Eyam

ตอนแรกผมก็คิดน่ะนะครับว่าเราจะรู้สึกอย่างไรกับตอนนี้หนอ เราจะอินไหมหนอ เพราะประเทศอังกฤษเราก็ไม่เคยไปน่ะนะครับ เลยเป็นไปได้ว่าอาจจะดูแล้วไม่อินเต็มที่ เหมือนที่ผมเคยดู Sideworld: Haunted Forests of England แล้วยังอินแบบไม่สุดน่ะครับ ก็เลยเผื่อๆ ใจไว้ก่อนดู – ผลปรากฏว่า ผมว่าผมชอบ Sideworld ตอนนี้มากแฮะ เพราะมันหลอนได้ใจอย่างยิ่ง!

กลวิธีการนำเสนอยังคงเหมือนเดิมครับ นั่นคือ George Popov ผู้สร้างสารคดีชุดนี้จะเป็นคนเล่าตำนาน เรื่องลึกลับ และเรื่องผีต่างๆ โดยจะมีภาพประกอบเป็นวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านแห่งนั้นๆ มาประกอบให้เราได้เห็น พร้อมทั้งมีเสียงหวีดหวิวของต้นไม้และสายลม ผสมด้วยดนตรีหลอนๆ ชวนให้ขวัญหนีดีฝ่อ ซึ่งผมว่าใครอยากทำสารคดีแนวบอกเล่าเรื่องลึกลับนี่ อยากให้ดูผลงานชุดนี้ของ Popov เป็นตัวอย่างเลยครับ เขาสามารถผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ ให้ออกมาเป็นสารคดีที่ชวนขวัญผวาได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Jump Scare ใดๆ

ผมมองว่าผลงานชิ้นนี้ของเขานี่มันเด็ดขึ้นกว่า 2 ตอนแรกครับ เป็นไปได้ว่าการทำสารคดี 2 ตอนก่อนหน้านี้อาจเป็นเหมือนการลับฝีมือของเขาน่ะครับ เขาอาจมองเห็นจุดเด่นและจุดอ่อนของการทำสารคดีแนวนี้ เลยนำประสบการณ์และเทคนิคต่างๆ มามาปรับใช้กับสารคดีตอนที่ 3 นี้ ผลที่ได้เลยกลายเป็นความขนลุกแบบเต็มขั้น

ตัวอย่างเช่นภาพบรรยากาศในแต่ละหมู่บ้านที่สารคดีเลือกมานำเสนอ ภาพเหล่านั้นมาพร้อมมุมกล้องที่ชวนอึดอัด คือผมเชื่อว่าถ้าเป็นสารคดีท่องเที่ยวทั่วๆ ไปเราก็จะได้ภาพสวยๆ มุมกล้องสดชื่นๆ ทำให้ดูว่าเมืองน่าเที่ยวน่าอยู่อะไรประมาณนั้นน่ะนะครับ แต่กับสารคดีนี้น่ะเขาสามารถเลือกมุมกล้องที่ชวนหลอน มันดูบิดเบี้ยว ประหนึ่งว่าสถานที่แห่งนั้นอยู่ในอีกมิติหนึ่ง และถ้าเราก้าวล้ำเข้าไปก็อาจหลงไปสู่มิตินั้นและไม่ได้กลับออกมาอีกเลย เนี่ยครับ ขอยกนิ้วให้ผู้กำกับภาพ Richard Suckling เลยที่สามารถจับภาพหมู่บ้านชวนขนลุกมาขึ้นจอแบบนี้ได้

ไหนจะการย้อมสีภาพ บางซีนนี่จริงๆ ก็เป็นภาพทางเดินในหมู่บ้านธรรมดาๆ นี่แหละครับ แต่หนังมีการย้อมสีให้ดูหม่น หรือไม่ก็สีแดงๆ ประหนึ่งมีเลือดฉาบฟิล์มเอาไว้ – ยอมรับเลยครับว่าเทคนิคภาพในตอนนี้มันถึงรสขึ้นกว่า 2 ตอนแรกจริงๆ

อีกอย่างที่ผมว่าเข้าเป้าขึ้นคือบทบรรยายครับ มันรู้สึกน่ะว่าบทบรรยายเล่าเรื่องในตอนนี้มันดูกระชับและตรงเป้าขึ้น อย่างตอนก่อนๆ นี่การเล่าอาจต้องใช้เวลาปูพื้นสักนิดกว่าจะเข้าโซนหลอน แต่กับตอนนี้นี่เหมือนเล่าแค่พียงไม่นาน แต่มันจะได้อารมณ์ประหนึ่งผีมาแตะบ่าอยู่ข้างหลังน่ะครับ คือความขนลุกขนพองบุกมาถึงแบบไม่ทันตั้งตัวเลย

ได้ใจครับ เป็นสารคดีแนวผี+ลึกลับที่ได้ใจมาก ทุกองค์ประกอบสอดประสานกันสร้างความหลอนได้อย่างน่าปรบมือ และบอกตรงๆ ว่าผมต้องเอามาดูซ้ำแน่นอนถ้ามีโอกาส เพราะมันกลมกล่อมได้ใจ ชวนหลอนชวนขนลุกแบบได้ระดับ

แต่กระนั้นก็ต้องบอกตามที่รู้สึกอย่างหนึ่งครับว่า สารคดีตอน Damnation Village นี้จะประกอบด้วยเรื่องของ 3 หมู่บ้านใช่ไหมครับ ซึ่งผมว่า 2 หมู่บ้านแรกน่ะหลอนจริง ชวนผวาจริง ชวนสยองจริง แต่มันมาดร็อปลงหน่อยในตอนหมู่บ้านที่ 3 ที่จะเป็นการเล่าเรื่องเกี่ยวกับภัยร้ายของโรคระบาดมากกว่าที่จะมาเล่าเรื่องผีสางหรือเรื่องลึกลับ ทำให้อารมณ์ขวัญผวาในตอนที่ว่านี้มันลดลงครับ มันกลายเป็นเหมือนเราดูสารคดีเกี่ยวกับโรคระบาดมากกว่าจะเป็นสารคดีผีสางเรื่องลึกลับ

แอบคิดเหมือนกันว่าถ้าหมู่บ้านสุดท้าย Popov เลือกเรื่องที่หลอนๆ มาสักหน่อย คงเป็นการปิดเรื่องที่เจ๋ง – แต่ก็พยายามมองในมุมที่ว่า คนทำอาจอยากพาเรากลับมาสู่พื้นโลก ให้ตระหนักถึงความสยองบนดินที่เกิดขึ้นจริงในอดีตเมื่อนานมาแล้ว เชื่อว่ายุคสมัยที่เกิดโรคระบาดในตอนนั้นมันคงเป็นอะไรที่สิ้นหวังและน่ากลัวทีเดียว – นึกถึงตอนโลกเจอโควิด-19 น่ะครับ ขนาดโลกที่ทันสมัยมีวิทยาการยังนากลัวขนาดนี้ ถ้าไปสมัยก่อนที่คนไม่มีวิทยาการมาสู้เลย มันจะน่ากลัวได้ขนาดไหน

ก็สรุปนะครับ สารคดีตอนนี้จริงๆ ผมจะยกให้เป็นตอนที่เด็ดที่สุดในบรรดา 3 ตอนของ Sideworld แต่ก็อย่างที่บอกน่ะครับว่าตอนสุดท้ายของ Damnation Village นั้นดีกรีความหลอนมันลดลงมา เลยทำให้มันยังไม่ถึงกับสุดๆ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ยังไงนี่ก็คือหนังสารคดีแนวลึกลับขวัญผวาที่ผมอยากให้ท่านมีโอกาสได้ชมอยู่ดี เพราะของดีๆ แบบนี้มีมาไม่บ่อย ยิ่งเป็นสารคดีแบบไตรภาคแบบนี้ หาที่ทำแล้วออกมาดีทั้ง 3 ภาคนี่ยิ่งยากเข้าไปอีก

สามดาวครับ

(8/10)