ถ้าดูจากหนังหนังแล้ว หินกินเหล็ก น่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นน่ะนะครับ แต่เอาเข้าจริงหนังดูจะเน้นความฮาและการปรากฏตัวของเหล่านักแสดงน้อยใหญ่ที่มากันอย่างเยอะมากกว่า ในขณะที่ฉากบู๊สู้กันนั้นน่าจะมีอยู่ราวๆ 20% เท่านั้น

พล็อตคร่าวๆ ว่าด้วยตัวละครนามว่าเฉินฟ่างเทียน (หงจินเป่า) จอมกะล่อนที่ฉวยโอกาสหาเงินไปเรื่อย และแผนล่าสุดของเขาคือการไปยังเมืองๆ หนึ่งซึ่งเป็นทางผ่านของรถไฟขบวนพิเศษที่อัดแน่นไปด้วยเศรษฐีมีเงิน เขากะจะวางระเบิดรางรถไฟเพื่อหยุดรถขบวนนั้นครับ แล้วก็จะเชิญชวนเหล่าเศรษฐีบนรถลงมาจับจ่ายใช้สอยในเมืองแห่งนี้

แต่ทีนี้ก็เกิดมีกองโจรของจริงหมายมั่นจะปล้นเงินจากเหล่าเศรษฐีอยู่ ไหนจะมีคนอีกกลุ่มต้องการชิงลายแทงขุมทรัพย์จิ๋นซีฮ่องเต้ที่อยู่ในมือของคนญี่ปุ่นที่มากับรถขบวนนี้ ทั้งหมดทุกคนเลยได้มาเจอกันที่เมืองๆ นี้ครับ อันนำมาสู่ฉากต่อสู้แบบยิงยาวในตอนท้าย

อย่างที่บอกครับว่าหนังดูจะเน้นความตลกโปกฮามากกว่า และหนังก็ขนเอาดารามากันเพียบ ไม่ว่าจะหงจินเป่า, หยวนเปียว, กวนจื่อหลิน, เจิ้งจื่อเหว่ย, อู๋เย่าฮั่น, หลินเจิ้นอิง, หยวนหัว, ,อู๋หม่า, เสิ่นเตี้ยนเสีย, จงฟะ, หวังหยู่, Jimmy Wang Yu, Shih Kien, Emily Chu, Kenny Bee, Olivia Cheng, Cynthia Rothrock, Richard Norton, Yukari Oshima นี่คือเท่าที่ผมนึกออกนะครับ ยังมีอีกหลายท่านที่นึกชื่อไม่ออก แต่หากท่านได้เห็นหน้าก็น่าจะร้องอ๋อครับ โดยเฉพาะคอหนังจีนที่โตมากับหนังฮ่องกงยุค 80 – 90 มีดาราสมทบหน้าคุ้นโผล่มาเพียบเลยล่ะ

ความตลกที่ว่าก็มาจากบทบาทของดาราเหล่านี้แหละครับ พวกเขามาโผล่ขึ้นจอแล้วก็มาพร้อมคาแรคเตอร์ประหลาดๆ หรือไม่ก็ท่าทางชวนให้ขำ ว่าง่ายๆ คือเป็นหนังรวมดาราอีกเรื่องที่พล็อตถูกวางไว้คร่าวๆ แต่ไม่ได้เน้นหนักอะไร ส่วนใหญ่จะให้ดาราสำแดงฝีมือกันไป แล้วก็ให้สถานการณ์พาไปเรื่อยๆ อันเป็นสูตรแบบที่พบได้บ่อยๆ ในหนังฮ่องกงยุคนั้นน่ะนะครับ

ส่วนฉากบู๊นั้นมีจริงๆ เอา 20 นาทีสุดท้ายครับ อาจมีก่อนหน้านั้นบ้างฉากสองฉากแต่ก็ไม่เยอะ ดังนั้นใครคาดหวังจะได้ดูฉากบู๊จัดเต็มก็อาจต้องเผื่อใจไว้ครับ มันไม่ได้เยอะแบบหนังของหงจินเป่าเรื่องอื่นหรอก อย่างที่บอกน่ะว่าหนังเน้นขายดาราและความขำมากกว่า

กระนั้นฉากบู๊แม้จะน้อย แต่ก็ยังไว้ใจได้ครับ บู๊กันได้มันส์อยู่ เพียงแค่ว่ามันน้อยไปหน่อยเท่านั้นแหละ

หนังกำกับโดยหงจินเป่าครับ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานดูสนุกดูเพลิน มาพร้อมกลิ่นอายหนังตะวันตก (Western) เรียกรอยยิ้มไปได้เรื่อยๆ จังหวะจะโคนการเล่าเรื่องอาจยังไม่ลงตัวไปเสียทั้งหมด แต่โดยรวมก็ถือว่าน่าพอใจ ส่วนหนึ่งของความสนุกก็อยู่ตรงที่ได้เห็นดารามารวมกันเยอะๆ นี่แหละ

สรุปว่าดูได้เพลินๆ ครับ สนุกดี ฮาดี ฉากบู๊แม้จะน้อยแต่ก็ถือว่าโอในระดับหนึ่งครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)