Angela’s Christmas Wish เรื่องราวต่อจากภาคแรกครับ คราวนี้แอนเจลาก็คิดจะหาทางพาพ่อที่เดินทางไปทำงานที่ออสเตรเลีย ให้กลับมายังบ้านในไอร์แลนด์ให้ทันวันคริสต์มาสเพื่อที่คุณแม่จะได้ดีใจ และครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้า

ก็เป็นการ์ตูนวันคริสต์มาสที่มาในโทนอบอุ่นครับ ว่าตามจริงคือผมออกจะชอบภาคแรกมากกว่าหน่อย เพราะมันกลมกล่อมและน่ารักแบบกำลังดี ในขณะที่ภาคนี้จริงๆ เรื่องราวก็ยังน่ารักครับ แต่ด้วยสเกลที่ใหญ่ขึ้น พล็อตก็มีทั้งเรื่องหลักและเรื่องรอง ทำให้การจะเล่าให้มันซึ้งอาจจะยากนิดนึง เพราะภาคแรกมีพล็อตหลักพล็อตเดียวคือเรื่องหนูน้อยแอนเจล่ากับทารกพระเยซู การโฟกัสมันเลยชัดน่ะครับ เล่าตรงประเด็นในเวลาราว 30 นาที

ส่วนภาคนี้นอกจากจะมีเรื่องแอนเจลาอยากไปหาพ่อแล้ว ก็ยังมีเรื่องวัวของเพื่อนบ้านอันนำพาแอนเจล่าไปพบกับครอบครัวสัตวแพทย์ หรือกระทั่งการพยายามจะเดินทางไปหาพ่อของแอนเจล่าก็นำพามาซึ่งพล็อตเล็กๆ ระหว่างทางอีกพอสมควร พลังโฟกัสมันเลยไม่ชัดเท่าภาคแรกน่ะครับ เลยทำให้บทสรุปแม้จะจบลงอย่างอบอุ่นตามสไตล์หนังแนวนี้ แต่ความกินใจประทับใจ ผมว่าภาคแรกจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้พอเหมาะพอดีกว่าหน่อย

แต่ก็นั่นล่ะครับ หนังก็ยังควรค่าแก่การรับชม ผู้ใหญ่เหมาะที่จะนั่งดูกับเด็กๆ และสอนให้พวกเขาซึมซับเรื่องราวดีๆ ไม่ว่าจะเรื่องความรักในครอบครัว, การเอื้อเฟื้อกันระหว่างเพื่อนมนุษย์ และประเด็นหนึ่งที่ผมว่าสำคัญคือคนเป็นผู้ใหญ่นั้น ถือว่าเป็นต้นแบบสำหรับเด็กๆ ครับ สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำ ผู้ใหญ่คิด และผู้ใหญ่แสดงออกนั้น มันจะซึมซับถ่ายทอดไปยังเด็กๆ ที่อยู่รอบตัวท่าน ไม่ว่าท่านจะแสดงออกอย่างตั้งใจหรือไม่ก็ตาม หรือทำไปด้วยเจตนาใดก็ตาม มันล้วนแต่ส่งผลต่อเด็กไม่มากก็น้อย

“เด็กจะดีเพียงใดนั้น รู้รู้กันอยู่ที่ใคร”

ผมอยากสนับสนุนให้ดูเรื่องนี้ครับ นั่งเปิดดูช่วงคริสต์มาสกับลูกหลานของท่าน ดูกันไป แบ่งปันมุมมองกันไป เด็กๆ สงสัยอะไรก็ถามได้ หรือเราอยากแนะนำอะไรกับพวกเด็กๆ เราก็บอกได้ – ใช้หนังเป็นสื่อกลางครับ – ความยาวก็ไม่มากครับแค่ 47 นาทีเท่านั้น แต่สาระดีๆ ที่มีถือว่าไม่น้อย ดีไม่ดีอาจจะเยอะกว่าหนังที่มีความยาวเป็นชั่วโมงบางเรื่องซะอีก

สำหรับผมก็รู้สึกชอบครับ แต่อย่างที่บอกว่าภาคแรกเรื่องบรรยากาศและความกลมกล่อมมันจะพอดีกว่ากันหน่อยนึง แต่โดยรวมแล้วผมภาคนี้ก็ยังคงน่าดู เป็นหนังการ์ตูนคริสต์มาส Feel Good ที่ดูแล้วอิ่มเอมเปรมใจ ยิ้มไปกับความไร้เดียงสาของเด็กๆ และจริงๆ หนังไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับให้ผู้ใหญ่นั่งดูกับเด็กๆ เท่านั้นนะครับ ผมว่าผู้ใหญ่เองก็สามารถดูหนังเรื่องนี้ได้ เพราะไม่แน่ว่าหนังเรื่องนี้อาจทำให้ท่านได้โอกาสในการทักทายกับความเป็นเด็กในตัวท่านก็ได้

ยิ่งท่านที่เหนื่อยๆ ล้าๆ หนักบ่าหนักไหล่จากสารพัดสิ่งที่ต้องพบเจอในชีวิต การดูหนังใสๆ น่ารักๆ Feel Good แบบนี้ ก็อาจช่วยชาร์จพลังให้กับท่านได้นะครับ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)