Action (Series)

CSI: Miami Season 1 (2002 – 2003) ไขคดีปริศนา ไมอามี่ ปี 1

Untitled06514

แล้วก็ได้เวลากล่าวถึงภาคแยกของซีรี่ส์ CSI แล้วล่ะนะครับ ซึ่งทำออกมาต่อจากปีสองของ CSI ภาค Vegas โดยทีมงานจากของเดิมนั่นแหละ เรื่องราวหลักๆ ก็เหมือนกันครับ เป็นการตามสืบคดีฆาตกรรมอะไรต่างๆ เหมือนกัน เพียงแต่ธีมหลักอาจจะต่างกันบ้าง แล้วตัวละครก็เป็นชุดของไมอามี่ทั้งหมด

ทีมของไมอามี่นั้นคดีส่วนใหญ่นอกจากการฆาตกรรมแล้ว ก็จะมีพัวพันเกี่ยวกับคดีของผู้มีอิทธิพล พวกค้ายาอะไรด้วยนะครับ บางคดีก็เล่นถึงพวกนักการเมืองเลยล่ะ ซึ่งก็เป็นอีกโทนหนึ่งครับ ไม่เหมือนทาง Vegas ที่จะเล่นกับฆ่าๆๆ อย่างเดียว

ถ้าจำกันได้ CSI เวกัสปีสองตอนเกือบสุดท้าย ท่านจะได้พบหน้าทีมไมอามี่เป็นครั้งแรกนะครับ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวที่น่าจดจำมาก ทำเอาผมอยากดูชุดไมอามี่ต่อแทบไม่ไหวเลย เพราะทีมนี้ดูจะฮาและมีสีสันพอตัว ดีไม่ดีออกจะแพรวพราวกว่าของเวกัสด้วยซ้ำ แต่พอได้ดูจริงๆ ก็ดันเป็นอีกแนวหนึ่งไป คือตอนที่มาเป็นชุดรับเชิญนั้น ทีมนี้ดูจะกึ่งฮากึ่งสบายน่ะครับ ไม่เครียดและแนวทางการสืบก็ออกจะผ่อนคลายเป็นทีมกันมากกว่า แตกต่างจากของเวกัสที่ดูเหมือนว่าพี่กริสซั่มจะค่อนข้างแยกชั้นกับพวกลูกทีมอย่างชัดเจน (ไม่ได้หมายถึงพี่กริสซั่มแกถือตัวนะครับ แต่มันดูแกเป็นเทพและแกดูแน่กว่าชาวบ้านน่ะ)

แต่พอมาดูจริงๆ ซี่รี่ส์นี้ค่อนข้างจะดราม่านะครับ ออกแนวชีวิตมากทีเดียว ไม่ฮาอย่างที่คิด และบุคลิกตอนรับเชิญนั้นก็ออกจะต่างจากซีรี่ส์จริงๆ ไม่น้อย อย่างพี่ตัวนำ โฮราจิโอ้ เคน (David Caruso) ดูจะออกแนวซีเรียสกับชีวิตไม่น้อย และเรื่องราวแต่ละตอนก็หนักแบบชวนสลด อย่างตอนศพที่พบในท้องฉลามนั่น ดูแล้วอึ้งเลยครับ

ที่ว่าแบบนี้ไม่ได้แปลว่าซีรี่ส์ชุดนี้จะไม่ดีนะครับ แค่บอกว่าผิดไปจากที่คาด แต่ถ้าดูจากที่มันเป็น มันก็สนุกดีล่ะครับ เป็นอีกรสหนึ่ง แต่การเดินเรื่องอาจจะไม่เร่งเร้าเท่าของเวกัส จังหวะเลยยังไม่ลง แต่ก็คงเป็นเพราะนี่เป็นปีแรกน่ะครับ อะไรต่างๆ ยังไม่เข้าที่ และเป็นแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น เพราะช่วงกลางๆ ของปีแรกเป็นต้นมา โทนจะเข้าที่มากขึ้น ตัวละครก็เริ่มมีสีสันแล้วครับ ไม่เหมือนครึ่งปีแรกที่ทุกคนจะดูเครียดอย่างสุดๆ

Untitled06515

ตัวเอกอย่างพี่โฮราจิโอ้ ก็เท่ห์สุดๆ ครับ (อาตีตั๋วตั้งฉายาว่าผู้ใหญ่ลีครับ เพราะเอะอะแกใส่แว่นดำ เดินไปไหนมีแสงตะวันรำไรทุกที) หน้าพี่ท่านดูอมทุกข์ใช่หยอก จริงๆ ตอนโผล่มารับเชิญพี่แกดูผ่อนคลายนะครับ และออกจะรักเด็กด้วย ผมล่ะจำท่าตอนแกคุยกับเด็กได้เลย แกอ่อนโยนดีจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกครับ พอมาช่วงต้นของปีนี้แกมาเป็นผู้ใหญ่ลีจริงๆ หน้าตาแบกโลกมาเชียว ดีที่ช่วงหลังๆ แกผ่อนลงหน่อย แต่แกก็เก่งครับ คลี่คลายคดีได้ดี

ส่วนลูกทีมรายอื่นก็มี เมแกน ดอนเนอร์ (Kim Delaney) เจ้าหน้าที่สาวคนสนิทของโอราจิโอ้ ที่มาแค่ครึ่งปีแรกครับ ครึ่งหลังบทเจ๊แกหายไปเลย, Adam Rodriguez มาเป็นอีริค เดลโก้ เจ้าหน้าที่ภาคสนามอีกรายที่ยังไม่ถึงกับเด่นในปีนี้

นอกนั้นเจ้าอื่นๆ มาเด่นหมดครับ ตั้งแต่ Rory Cochrane ในบท ทิม สปีเดิล ท่าทางเอาการเอางานดีเลยครับ และก็มีความสามรถไม่ใช่น้อยด้วย แต่รายที่ผมชอบนี่เห็นจะเป็นสองสาว อย่าง Khandi Alexander ในบทคุณหมอชันสูตร อเล็กซ์ วูดส์ ที่เจ๊แกคุยกับศพทุกตอน เป็นสีสันที่ฮามากครับ และอีกรายที่ช่วงแรกๆ นิ่งๆ แต่มาโกยคะแนนเอาครึ่งปีหลังก็คือ Emily Procter ในบทคัลลีห์ รายนี้เก่งเรื่องอาวุธครับ ช่วงต้นก็ไม่มีอะไร แต่พอตอนท้ายนี่ออกลีลาบ๊องๆ บ่อยมาก มีตอนหนึ่งเจ๊แกออกอาการเมายาครับ ฮาสุดๆ ไปเลย

โดยรวมๆ นะครับ ผมก็ยังชอบเวกัสมากกว่า ในหลายๆ ด้าน แต่กับไมอามี่นี้ ก็ถือว่าไม่ผิดหวังหรอกครับ ดูได้เรื่อยๆ แต่ความเร่งเร้าและพลังยังจัดว่าน้อยอยู่บ้าง แต่ผมว่าต้องรอดูปีสองครับ มันจะมีอะไรเพิ่มขึ้นน่ะ

ออ เกือบลืม ผมชอบเพลงตรงไตเติ้ลมากครับ เร้าใจและสนุกสนานดี ยิ่งเวลาที่พี่โอราจิโอ้แกจะพูดคำคมก่อน แล้วค่อยตัดมาไตเติ้ลนี่เท่ห์โคตรครับ

ก็ไม่เลวครับ สำหรับแนวสืบสวน สองดาวครึ่งฮะ

Star22

(7/10)