ว่ากันตรงๆ Winnie the Pooh: Blood and Honey ก็คือหนังลงสูตรแนวฆาตกรไล่เชือดอีกเรื่องน่ะครับ เพียงแต่หนังมีจุดขายและความใหม่ตรงที่นำเอาตัวละครแสนน่ารักอย่างหมีพูห์มารับบทฆาตกรเท่านั้นล่ะ

ตัวหนังเปิดมาก็มาเราไปพบกับคริสโตเฟอร์ โรบิน (Nikolai Leon) ที่ทิ้งหมีพูห์และผองเพื่อนไปเรียนต่อ แล้วเขาก็กลับมายังป่า 100 เอเคอร์ด้วยความหวังว่าจะได้เจอเพื่อนเก่าอีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าหมีพูห์และเพื่อนๆ ได้กลายเป็นสัตว์โหดกระหายเลือดไปแล้ว ถัดจากนั้นก็เป็นเรื่องของสาวๆ กลุ่มหนึ่งที่มาพักตากอากาศ แต่ก็กลายเป็นว่าต้องมาเจอกับความโหดของหมีพูห์แทน

หนังถือว่าเชือดกันโหดพอดูครับ ถึงขั้นแหวะเลยล่ะ เลือดสาด อวัยวะกระจุยเละเทะ ใครที่ตระหนักว่าตัวเองไม่น่าจะรับอะไรแบบนี้ไหวก็ควรหลีกเลี่ยงล่ะครับ เพราะหมีพูห์ตัวนี้มันโหดแบบไม่บันยะบันยังจริงๆ แต่หากคุณเป็นคอหนังแนวเชือดก็คงต้องขอให้อย่าคาดหวังมากครับ ในแง่การเดินเรื่อง แง่เนื้อหามันไม่ได้มีอะไรมากหรอก ว่าตามจริงคือหนังเน้นโชว์ฉากเชือดเป็นหลักนั่นแหละ พวกเนื้อเรื่องกับเหตุผลบางอย่างก็คงต้องละๆ ไปบ้าง ยิ่งเรื่องเกี่ยวกับการตัดสินใจแบบไม่ค่อยจะฉลาดนักของตัวละครในเรื่องนี่ก็ต้องทำใจอีกเช่นกัน – แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าการตัดสินใจแบบไม่ฉลาดนี่มันก็บั่นทอนความลุ้นความน่าติดตามไปไม่น้อยเหมือนกัน

ส่วนผมนั้นดูแล้วก็ไม่อะไรมากครับ คือดูเพื่อให้ได้ดูน่ะ ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว หนังจบแล้วก็จบกัน ไม่ได้ชอบอะไร แต่ในฐานะคนที่ไล่ตามดูหนังแนวเชือดมานานก็รู้สึกว่าหนังดูได้ครับในฐานะหนังไล่เชือดน่ะนะครับ มีครบในสิ่งที่หนังแนวนี้ควรจะมี ไม่ว่าจะตัวฆาตกรที่มาพร้อมคาแรคเตอร์ชวนให้จดจำ ตามด้วยความอึดถึกทนทายาดฆ่ายังไงก็ไม่ตาย แล้วก็ฉากเชือดเลือดสาดโหดติดเรต รวมถึงสาวๆ สวยๆ ที่บางคนก็มาเพื่อโชว์ความสวยเซ็กซี่เป็นหลัก แล้วก็ตามสูตรอีกเช่นกันครับว่ารายไหนเซ็กซี่จัดๆ รายนั้นจะรอดยาก

ในแง่งานสร้างนั้นอาจจะดูบ้านๆ ง่ายๆ อยู่บ้าง แต่ผมไม่ติดใจครับเพราะทุนสร้างน่ะแค่ $100,000 เท่านั้น ขนาดหนังศุกร์ 13 ภาคแรกเมื่อ 40 กว่าปีก่อนยังใช้ทุนตั้ง $550,000 เลยครับ กลายเป็นว่าเรื่องนี้ทุนต่ำว่าตั้งหลายเท่า และยังถ่ายทำกันเพียง 8 วันเท่านั้น – ดังนั้นหนังได้ออกมาประมาณนี้จากทุนเท่านี้และเวลาเท่านี้ ผมว่าก็โอเคแล้วล่ะ

ยอมรับว่าไม่รู้จะเขียนอะไรครับ เพราะจริงๆ มันไม่ใช่หนังที่ถึงขั้นต้องดูอะไร ใครที่คิดอยากดูยังไงก็คงต้องดูให้ได้สักครั้งหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนใครที่ไม่คิดจะดูยังไงก็คงไม่ดูเหมือนกัน ส่วนผมนั้นก็ดูรอบเดียวพอครับ อย่างที่บอกน่ะว่า “ดูเพื่อให้ได้ดู” ดูในฐานะคนชอบหนังแนวนี้ ดูให้รู้ว่าหนังเป็นยังไง และดูให้รู้ว่าเราจะรู้สึกกับมันยังไง ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดว่าหนังขี้ริ้วอะไรครับ มันก็ดูได้นั่นแหละ เพียงแต่้ใครคาดหวังอะไรที่สดใหม่ก็อาจต้องทำใจไว้ ประเภทว่าคิดว่าหนังจะมีการผูกปมผูกเงื่อนอะไรที่มันเกี่ยวกับความเป็นหมีพูห์เยอะๆ นี่คงต้องปรับความคิดกันเลยล่ะครับ เพราะหนังเหมือนเอาคาแรคเตอร์หมีพูห์มาใช้เท่านั้น ไม่ได้สานต่อปมหรือประเด็นอะไร

แล้วนี่ได้ข่าวว่าจะมีภาคต่อออกมาอีกด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกใจครับเพราะหนังทำเงินทั่วโลกไปประมาณ $4.9 ล้าน และเชื่อว่าต้องได้เงินเพิ่มจากการฉายสตรีมมิ่งหรือเคเบิ้ลต่างๆ กำไรเห็นๆ น่ะครับ

แล้วก็แน่นอนอีกเช่นกัน ถ้ายังทำต่อผมก็พร้อมดูต่ออีกเช่นเคย

ดาวกว่าๆ ครับ

(4.5/10)