Comedy

That’s Amor (2022) นี่แหละ ความรัก

Untitled06029

That’s Amor เรื่องนี้ถือว่ามีทั้งจุดที่โอและยังโอได้อีกผสมกันอยู่ครับ

ตัวหนังเล่าถึงโซเฟีย (Riley Dandy) หญิงสาวที่ออกจากงาน, เลิกกับแฟน และตกบันไดในวันเดียวกัน หลังจากวันแย่ๆ วันนั้นเธอก็กลับบ้านมาอยู่กับแม่ (Nancy Lenehan) แล้วก็นอนหมดแรงใจอยู่หลายสัปดาห์ครับ จนกระทั่งแม่ของเธอตัดสินใจสมัครให้เธอไปเข้าคอร์สเรียนทำอาหารสเปน และที่นั่นเองที่ทำให้เธอได้เจอกับมาเทียส (Isaac Gonzalez Rossi) เชฟหนุ่มที่กำลังจะมาเติมเต็มบางสิ่งให้กับใจที่บอบช้ำของเธอ

หนังกำกับโดย Shaun Paul Piccinino ที่เคยฝากผลงาน A California Christmas ทั้ง 2 ภาคเอาไว้ อย่างที่บอกครับว่าหนังมีทั้งจุดที่เข้าท่าและยังเข้าท่าได้อีก เริ่มกันที่จุดที่เข้าท่าก่อน ผมชอบในความตรงไปตรงมาหลายๆ อย่างของคู่พระนางครับ อย่างโซเฟียนี่ก็ชัดเจนว่าเธอเพิ่งเลิกกับแฟนมา แล้วเธอยังไม่พร้อมให้ใครเข้ามาสักเท่าไร เธอก็บอกกับมาเทียสไปตรงๆ หรือตัวมาเทียสเองก็เช่นกัน ตอนที่เขามีเหตุให้ต้องเจอกับแฟนเก่าของโซเฟีย เขาก็พูดออกไปตรงๆ ตามที่คิดเหมือนกัน ไม่ต้องมาอ้อมค้อมใดๆ

หรือการจีบกันของโซเฟียกับมาเทียส หลายอย่างก็ดูตรงๆ ครับ อย่างมาเทียสก็เปิดหน้าจีบเลย แม้จะรู้ว่าฝ่ายหญิงยังมีกำแพงอยู่ แต่เขาก็พร้อมจะลอง เวลาทั้งคู่คุยกันก็เลือกที่จะพูดแบบจริงใจ บางอย่างอาจดูผ่าซาก ภาษาไม่ได้สละสลวยอะไร แต่มันก็ตรงๆ ดี ไม่ต้องมาปั้นหน้าตั้งท่าอะไรกัน

ตอนหนึ่งที่ผมชอบคือตอนที่โอลิเวีย (Kimberley Drummond) เพื่อนของโซเฟียพูดแบบตรงๆ ตอนที่แฟนเก่าของโซเฟียตามมาง้อขอคืนดี เธอบอกว่า “เวลาเราได้เห็นธาตุแท้ของใคร เราควรต้องจำไว้” และเราไม่ควรพาตัวเองไปตกที่นั่งลำบากอีก นอกจากนี้เธอยังมองว่าโซเฟียนั้นจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นฝ่ายตัดสินใจเลิกกับแฟนเก่าหรอก แต่เธอเป็นคนที่ต้อง “รับผลจากมัน” ต่างหาก – ก็คือจริงๆ โซเฟียไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกที่จะเลิกก่อน แต่ฝ่ายชายต่างหากที่เลือกจะนอกใจ จนส่งผลให้โซเฟียต้อง “ขอเลิก” เป็นผลตามมา

“ถ้าเธอกลับไปคบกับหมอนั่น ก็แสดงว่ายอมให้หมอนั่นเป็นคนตัดสินใจ และนั่นคือสิ่งที่หมอนั่นต้องการ”

ผมต้องยอมรับว่าทั้งหมดที่กล่าวไปนั้นมันอาจไม่ได้กลมกล่อมหรือถูกบอกเล่าอย่างยอดเยี่ยมน่ะนะครับ รสมันอาจมีแปร่งๆ บ้างในบางวาระ แต่ผมชอบประเด็นของมัน – ส่วนหนึ่งอาจเพราะผมเป็นคนตรงๆ และชอบอะไรตรงๆ น่ะครับ เลยรู้สึกถูกจริต แม้การนำเสนออาจยังไม่ดีแบบเต็มๆ ก็ตาม

Untitled06030

และนั่นล่ะครับคือจุดที่ถือว่า “ยังเข้าท่าได้อีก” ตรงความไม่กลมกล่อมที่เกิดขึ้นระหว่างการเล่าเรื่อง และบางจังหวะหนังก็รวบรัดอยู่เหมือนกัน อย่างตอนกลางๆ เรื่องที่ความรักของโซเฟียกับมาเทียสดูจะเดินไปไวซะเหลือเกิน หรือตอนท้ายๆ ที่มีปมมาให้ทั้งคู่จัดการ อะไรๆ ก็ดูจะลงเอยง่ายและแก้ปมได้ง่ายจนไม่เหลืออะไรให้ลุ้น

Dandy ถือว่าเล่นได้น่ารักดีและยามสื่ออารมณ์ก็ถือว่าน่าพอใจ ในขณะที่พระเอกอย่าง Rossi ก็อาจมีขาดบ้างเกินบ้างในบางวาระ โดยรวมแล้ว That’s Amor อาจไม่ใช่หนังรักที่สมบูรณ์แบบเต็มร้อยครับ แต่ก็ถือว่าดูได้เรื่อยๆ นะ ดูแล้ว Feel Good เรียกรอยยิ้มได้

แลัวหนังยังมีสาระประเด็นที่ชี้ชวนให้เราสำรวจตัวเอง โดยเฉพาะในยามที่อะไรๆ ในชีวิตไม่เป็นไปดังหวัง เราอาจต้องทบทวนว่าตัวเรากำลังทำอะไร อยู่จุดไหน และใจจริงแท้ๆ นั้นเราอยากก้าวไปที่ไหน เพราะไม่แน่ว่าเราอาจกำลังหลงทางอยู่ กำลังสับสนอยู่ หรือเราอาจมัวใช้ชีวิตแบบผ่านไปวันๆ ทั้งๆ ที่ส่วนลึกของเรานั้นอาจมีเป้าหมายอยู่ แต่เราผัดผ่อนมันมานานเกินจนเราเองก็อาจจะลืมมันไป

และที่สำคัญคือ ชีวิตเราในขณะนี้นั้น คือชีวิตที่เราเป็นผู้เลือกเดิน หรือเป็นชีวิตแบบที่ต้องคอยรับผลจากการกระทำและการตัดสินใจของคนอื่น?

สองดาวหน่อยๆ ครับ

Star21

(6/10)