Christmas Movies

Time for You to Come Home for Christmas (2019)

Untitled05978

เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นตอนต่อของ Time for Me to Come Home for Christmas ครับ แม้ตัวละครจะเป็นคนละชุดกัน แต่ก็เป็นหนังที่สร้างโดย Blake Shelton และ Dorothy Shackleford (แม่ของ Blake) และประเด็นในหนังก็ถือว่ามาทางเดียวกันด้วย

แคทเธอรีน มอสส์ (Alison Sweeney) สูญเสียสามีไปครับ ทำให้เธออยู่ในห้วงของความเศร้า และพลอยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลูกชายที่ชื่อวิลล์ (Kiefer O’Reilly) มีระยะห่างต่อกันด้วย จนเมื่อถึงจุดหนึ่งเธอจึงตัดสินใจพาลูกไปเปลี่ยนบรรยากาศที่เมืองโพรวินซ์ทาวน์ เมืองที่พ่อแม่และน้องสาวของแคทเธอรีนอยู่กัน

ทีนี้ระหว่างการเดินทางพวกเขาได้พบกับ แจ็ค ซัทเธอร์แลนด์ (Lucas Bryant) ที่ตั้งใจเดินทางมายังเมืองโพรวินซ์ทาวน์ด้วยเช่นกัน

ประเด็นหลักของหนังว่าด้วยการก้าวข้ามความรู้สึกสูญเสียเหมือนหนังเรื่องก่อนครับ แคทเธอรีนและวิลล์ต่างก็ยังคงรู้สึกหม่นหมองใจไม่น้อยไปกว่ากัน แต่พวกเขาก็ได้ครอบครัวของแคทเธอรีนรวมถึงแจ็คมาช่วยกันเยียวยา พอผมพูดถึงตรงนี้หลายคนอาจนึกว่าหนังจะเต็มไปด้วยความรู้สึกบวกๆ เต็มไปด้วย Feel Good แนวให้กำลังใจแบบฟูๆ ก็เลยต้องบอกก่อนว่าหนังยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ คือเป็นหนังดราม่าครอบครัวที่มีความอบอุ่นนั่นแหละ แต่ไม่ได้มาพร้อมพลังบวก พลังบันดาลใจ หรือพลังเยียวยาอะไรขนาดนั้น

หนังออกมาในระดับกลางๆ ครับ คือดูแล้วก็เรื่อยๆ ดาราแสดงกันได้โอเค เนื้อเรื่องก็เดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีจุดไคลแม็กซ์หรือความเข้มข้นอะไรมาก ส่วนความรู้สึกของแคทเธอรีนนั้นก็เหมือนจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับหลังจากได้กลับมาอยู่ที่บ้าน ในแง่หนึ่งก็เหมือนหนังจะบอกน่ะครับว่าหากท่านรู้สึกไม่ดี รู้สึกทุกข์ร้อนใจขึ้นมา การเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะก่อนหน้านี้แคทเธอรีนไม่ยอมไปไหนครับ ตั้งแต่เสียสามีไปเธอก็อยู่แต่ในเมืองเดิม แม่ชวนให้กลับบ้านก็ไม่กลับ ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ เลยทำให้เธอจมอยู่กับความสูญเสียนั้นจนวิลล์เองก็ยังพลอยรู้สึกหมองไปด้วย

Untitled05979

แต่พอเธอกลับมาบ้าน ได้พบปะพุดคุยกับคนอื่นๆ ทั้งครอบครัวและเพื่อนใหม่อย่างแจ็ค พร้อมทั้งทำกิจกรรมในชุมชน และหวนคืนสู่การอบขนมอีกครั้ง เธอก็ค่อยๆ รู้สึกดีขึ้น เมฆเงามืดทั้งหลายที่เคยปกคลุมความรู้สึกก็ค่อยๆ สลายไป – ก็ถิอเป็นสาระชวนคิดที่เหมาะแก่การเก็บไปพิจารณาครับ หากเรามีเรื่องไม่สบายใจบ้าง การเปลี่ยนบรรยากาศอาจเป็นคำตอบที่ช่วยบรรเทาความเศร้าหรือความทุกข์ในใจได้ไม่มากก็น้อย

ยอมรับว่าผมดูหนังแบบเรื่อยๆ ครับ หนังไม่มีอะไรเด่นแบบชัดเจน คือไม่ใช่หนังไม่ดีนะครับ ผมว่าหนังทำได้มาตรฐานพอตัว เพียงแต่ในแง่ของการเล่าเรื่องมันยังไม่มีสีสันหรือลูกเล่นอะไรนัก หนังเลยค่อนข้างเรื่อยๆ จนบางตอนผมแอบวูบหลับก็มี (อันนี้ผมอาจจะเหนื่อยด้วยน่ะนะครับ)

แต่สิ่งที่เข้าตาผมคืองานฉากครับ ฉากต่างๆ ในหนังมีการประดับไฟคริสต์มาสสวยมาก ตั้งแต่รถไฟที่แม่ลูกนั่งกันมา ยาวไปถึงในบ้านและในเมือง แต่ละทีมีการประดับไฟกันมากมาย ถ่ายออกมาแล้วสวยครับ ให้อารมณ์สดชื่นได้ไม่น้อยเลย

โดยรวมก็ถือว่าโอเคสำหรับหนังคริสต์มาสครับ ทำออกมาได้ดีกว่าตอนแรก ก็ถือว่า Feel Good อยู่นั่นแหละ เพียงแต่พลังบวกอาจไม่ถึงขั้นทะลักน่ะครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)