เกริ่นบอกก่อนครับว่า ผิดรักหัวใจหลงลึก หรือ If You Are The One เข้าทางผมหลายอย่าง ผมนั้นชอบหนังแนวที่ตัวละครแปลกหน้ามาสนทนาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน (แบบ Before Sunrise และ Before We Go) แล้วก็ชอบหนังโรแมนติกแบบค้นหาตัวตน (คือชายหญิงกว่าจะรักกันก็ต้องผ่านอะไรมาด้วยกันหลายๆ อย่าง กว่าจะรู้ใจกัน)

แล้วยังชอบหนังแบบ Road Movie ว่าด้วยการเดินทางร่วมกันของตัวละครที่ไปเจอสถานที่น่าสนใจ หรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่ยากจะคาดเดา รวมถึงชอบหนังที่มีวิวสวยๆ ให้ดูเป็นอาหารตา ดูแล้วได้ผ่อนคลาย

และหนังเรื่องนี้จัดสิ่งเหล่านั้นให้ผมครบเลยครับ

หนังว่าด้วยเรื่องของ ฉินเฟิ่ง (You Ge) ที่ทำเงินหลักล้านจากการขายนวัตกรรมแปลกๆ ให้กับมหาเศรษฐี แล้วสิ่งต่อมาที่เขาคิดก็คือเขาอยากได้คนรู้ใจสักคน เลยกรอกประวัติตัวเองเข้าเว็บหาคู่ อันนำพาเขาไปเจอกับผู้หญิงหลายคนที่มีสไตล์แตกต่างกันไป แต่รายที่ทำให้เขาสนใจกลับเป็นแอร์โฮสเตสสาว เหลียงเซี่ยวเซี่ยว (ซูฉี, Shu Qi) ที่ออกตัวแต่แรกว่าฉินเฟิ่งนั้นไม่ใช่สเปคของเธอ และพวกเขาไม่น่าจะเข้ากันได้

แต่ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าพวกเขาคุยกันได้เรื่อยๆ ครับ มีขัดแย้งบ้าง มองต่างมุมบ้าง หรือไม่ก็ทะเลาะกันบ้าง สายใยระหว่างพวกเขาเลยเริ่มก่อตัว – ขอเล่าประมาณนี้ล่ะนะครับ ที่เหลือรับชมกันต่อในเรื่องน่าจะดีที่สุด

กลายเป็นว่าช่วงนี้ผมได้ดูหนังของผู้กำกับ เฝิงเสี่ยวกัง (Xiaogang Feng) ต่อๆ กันครับ เพิ่งดู A World Without Thieves ไปไม่นานก็มาเจอเรื่องนี้อีก ซึ่งก็อย่างที่บอกครับว่าหนังเข้าทางผมอย่างที่เกริ่นไว้ สิ่งที่หนังนำเสนอนั้นของชอบของผมทั้งนั้นล่ะครับ ไม่ว่าจะการแสดงเยี่ยมๆ ของ You Ge และซูฉีที่เคมีเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ตามด้วยคาแรคเตอร์ของฉินเฟิ่งที่ผมว่าหมอนี่น่าสนใจนะ เป็นคนตรงๆ เปิดเผยไม่อ้อมค้อม บางเวลาก็น่าคุยแต่บางเวลาก็อาจจะน่ารักน้อยไปนิด – เวลาสนทนากับใครก็จะก่อให้เกิดประเด็นหรือคำถามที่ชวนให้คิดอยู่เนืองๆ

เซ็กซ์สำคัญต่อชีวิตคู่มากน้อยแค่ไหน?, ในสายตานักเล่นหุ้นอย่างคุณ คุณว่าผมเป็นหุ้นประเภทไหน? เหล่านี้คือส่วนหนึ่งของคำถามจากบทสนทนาที่ฉินเฟิ่งมีต่อคู่เดต และอะไรเหล่านี้แหละครับที่ทำให้ผมเพลินกับหนังไปเรื่อยๆ

ในแง่อารมณ์ขันก็ถือว่าพอเหมาะ อาจไม่ถึงขั้นฮาแตกแต่ก็เรียกรอยยิ้มได้เป็นพักๆ (ผมชอบตอนที่พวกเขาแวะที่บาร์เล็กๆ ที่ติดรูปสาวๆ 4 คนไว้หน้าร้านน่ะครับ ฮาแบบน่ารักดี และสาวๆ ทั้ง 4 ก็น่ารักเปี่ยมอัธยาศัยมากทีเดียว) ตามด้วยวิวสวยๆ ที่หนังนำมาเสิร์ฟ ไม่ว่าจะที่หางโจวในประเทศจีน หรือบรรยากาศดีๆ ในฮอกไกโดของญี่ปุ่น จุดนี้ขอชมผู้กำกับภาพ Yue Lu (สามก๊ก โจโฉแตกทัพเรือทั้ง 2 ภาค) ที่จับภาพมาขึ้นจอได้อย่างพอเหมาะครับ โดยเฉพาะภาพวิวสวยๆ ป่าเขาเขียวขจี หรือทุ่งดอกทานตะวันงามๆ เป็นอาหารตาที่น่าพอใจอย่างยิ่ง

ที่ถือว่าพอเหมาะอีกอย่างก็คือดนตรีของ Ching Liu และ Ray Liu ที่ท่วงทำนองเข้ากับเรื่องราว ยามครึกครื้นก็แบบหนึ่ง ยามอ้อยอิ่งอิงสายลมก็แบบหนึ่ง หรือยามเซื่องๆ ซึมลึกก็เป็นอีกแบบหนึ่ง

หนังอาจออกแนวตำซั่วสักนิดนึงครับ เพราะยำหลายแนวผสมกัน แต่ก็กลมกล่อมโอเคในแบบของมัน ถือเป็นหนังรักที่อาจไม่เน้นโรแมนติก แต่เน้นสายสัมพันธ์ที่ก่อตัวระหว่างคน 2 คน ที่ต่างก็มีมุมสับสนในชีวิต และพยายามค้นหาคำตอบในเรื่องของความรักที่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

ผมมั่นใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบหนังเรื่องนี้ครับ ผมเคยอ่านรีวิวของบางท่านนี่ถึงขั้นรังเกียจหนังเรื่องนี้เลยก็มี แต่กระนั้นก็อยากแนะนำให้ลองลิ้มครับ ใครชอบผลงานของเฝิงเสี่ยวกังก็อยากให้ลองดูกัน หรือคนที่ชอบหนังแนวที่ผมเกริ่นบอกไว้ ก็ลองดูได้ครับ เผื่อท่านจะเพลินไปกับหนัง

สำหรับผมแล้ว หนังมอบช่วงเวลาดีๆ ให้ผมในระดับที่น่าพอใจเอามากๆ เลยล่ะครับ

สองดาวครึ่งครับ

(7/10)