เปิด สมศรี #422 อาร์. ดูด้วยเหตุผลง่ายๆ ครับ คืออยากดูอะไรก็ได้ที่ดูง่าย ไม่ต้องติดเยอะ เนื้อหาเบาๆ เปิดเหมือนเปิดเป็นเพื่อนระหว่างทำงาน แล้วอีกใจหนึ่งก็อยากดูอะไรที่เคยดูแต่ไม่ได้ดูนานแล้วด้วย
ว่ากันตรงๆ คืออาจรู้สึกว่าหนังสนุกน้อยลงกว่าตอนดูสมัยก่อน อาจเพราะรสนิยมของเราเปลี่ยน อายุของเราเปลี่ยน การรับรู้และความรู้สึกก็เลยเปลี่ยนตามไป
สิ่งหนึ่งที่รู้สึกเลยก็คือเห็นจุดโหวงช่องโหว่ของหนังเยอะขึ้น สัมผัสได้ถึงความไม่เข้ากันของเรื่องราวบางอย่าง และรู้สึกว่าการร้อยเรียงหนังอาจยังไม่สมูธเต็มที่ ซึ่งมุมหนึ่งก็มองว่าหนังสมัยก่อนหลายเรื่องก็จะประมาณนี้ การเดินเรื่อง มุกตลก การผูกปม การเล่าซีนอารมณ์ต่างๆ อาจยังไม่กลมกลืนเต็มที่ แล้วก็สามารถมองอีกมุมได้ว่าเราเองก็คงจะเรื่องเยอะขึ้นกว่าสมัยก่อน ดูหนังเยอะ เห็นเยอะ ก็อาจจะเรื่องเยอะตามไป
กระนั้นหนังก็ดูได้แบบเรื่อยๆ ครับ สิ่งที่ขอชมคือจินตหรา สุขพัฒน์สวมบทเป็นหุ่นได้ดี ท่าทางการเคลื่อนไหวให้อารมณ์เป็นหุ่นจริงๆ โดยเฉพาะดวงตาที่จะต้องไม่กระพริบเลย ไหนจะฉากลงน้ำตอนท้ายเรื่องอีก รู้สึกเลยว่าเธอทุ่มเทจริงๆ
ดาราท่านอื่นก็ทำหน้าที่ได้โอเคครับ สันติสุข พรหมศิริดาราคู่ขวัญก็มารับบทพระเอกที่ตามรับตามส่งตามจีบสมศรี งานนี้ความเด่นส่วนใหญ่จะตกไปอยู่ที่จินตหรามากกว่า ส่วนรายที่ถือว่าขโมยซีนได้เรื่อยๆ ขอยกให้สุประวัติ ปัทมสูต ฉากกินยาที่กลายเป็นการกินอย่างอื่นแทนนั้นมาง่ายๆ แต่ก็ขำได้เรื่อง และดาราอีกคู่ที่ออกแนวตัวอิจฉาหน่อยๆ ก็คือ กลศ อัทธเสรี และ ผอูน จันทรศิริ ก็ขโมยซีนได้ตามสมควรเหมือนกัน (แต่ในบางบริบทก็อาจรู้สึกรำคาญอยู่บ้าง)
หลายคนรู้สึกตรงกันว่าหนังเรื่องนี้ทำให้นึกถึงซีรี่ส์หนูน้อยคอมพิวเตอร์ หรือ Small Wonder ที่เคยฉายทางช่อง 9 โดยผมเองก็เพิ่งรำลึกความหลังดูซีรี่ส์นี้อีกรอบไปเมื่อไม่นานมานี้ เพราะช่อง HITS นำมาฉาย
เป็นการดูหนังแบบไม่คิดอะไรครับ แต่สิ่งที่ได้มากกว่าการดูหนังคือการได้ย้อนไปมองบ้านเมืองเมื่อ 30 ปีก่อนสมัยที่มอเตอร์ไซค์วินเข้าซอยยังเที่ยวละ 3 บาท สมัยที่ซอสมะเขือเทศขวดละ 14 บาท แล้วก็ได้เห็นรถโตโยต้ารุ่นทวินแคม 16 วาล์ว ที่จำรถรุ่นนี้ได้เพราะตลกคาเฟ่หลายคณะชอบเอาไปเล่นมุก
ยุคนั้นนักเรียนนักศึกษาทำรายงานก็ต้องใช้เครื่องพิมพ์ดีด พิมพ์ทีละตัวอักษรจนเต็มแผ่น พิมพ์ผิดก็ต้องลิควิดเปเปอร์ อันว่าเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องปริ้นท์ยังเป็นของแปลกหน้า ยังไม่ถูกนำเข้ามาในชีวิตของคนส่วนใหญ่ (อินเตอร์เน็ตไม่ต้องพูดถึงครับ)
สมัยนั้นยังพอมีห้างขนาดกลางให้คนแวะเข้าไปเดิน แต่มาตอนนี้ต่างล้มหายกันไป หรือไม่ก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นอเวนิวอะไรก็ว่ากันไป
ตั้งต้นเป็นการดูหนัง กลายเป็นการรำลึกความหลังไปเสียแทน
สองดาวครับ
(6/10)
หมวดหมู่:รีวิวหนัง/ภาพยนตร์, หนังไทย (Thai Movies), Comedy, Family, Sci-Fi