ผจญภัยกันต่อเป็นคำรบ 2 ครับ กับ The Christmas Chronicles Part Two ที่เคต (Darby Camp) ตัวเอกจากภาคแรกกลับมาผจญภัยเพื่อกอบกู้วันคริสต์มาสอีกครั้ง

หนนี้เคตของเรากำลังมีปัญหาในใจครับ เมื่อแม่ของเธอ (Kimberly Williams-Paisley) กำลังคบหากับชายคนใหม่ (Tyrese Gibson) นั่นทำให้เธอไม่พอใจนักที่พ่อของเธอกำลังจะถูกแทนที่

แล้วขณะเดียวกันเบลสนิกเคิล (Julian Dennison) อดีตเอลฟ์ที่เคยมีปัญหากับซานต้า (Kurt Russell) ก็กำลังวางแผนจะทำลายวันคริสต์มาสโดยจะใช้เคตนี่แหละเป็นเครื่องมือ ทำให้ทั้งซานต้า, คุณนายคลอส (Goldie Hawn), เคต และแจ็ค (Jahzir Bruno) ว่าที่น้องคนใหม่ของเคต ต้องมาร่วมกับผจญภัยเพื่อปกป้องวันคริสต์มาสไม่ให้สูญสลายไป

พอดูจบแล้วผมก็บอกตัวเองเลยครับว่าชอบภาคแรกมากกว่า แล้วก็ลองถามตัวเองว่าเพราะอะไรถึงคิดแบบนั้นก็พอจะได้คำตอบว่า ภาคแรกนั้นมันเป็นหนังฟีลกู้ดค่อนข้างเต็มตัวครับ แม้พล็อตหลักจะว่าด้วยการกอบกู้คริสต์มาส แต่เอาเข้าจริงแล้วมันคือการผจญภัยเพื่อค้นหาตนเองของพี่น้องคู่หนึ่ง โดยเฉพาะคนพี่ที่มีความสับสนในใจ ทำให้ตลอดเรื่องเราจะได้พบเห็นสถานการณ์ที่ส่งเสริมพลังบวก ส่งเสริมให้ใจเราคิดดีและทำดี

ในขณะที่ภาคนี้ หนังจะมีตัวร้ายหลักครับ นั่นก็คือเบลสนิกเคิลที่มีแผนป่วนเมืองซานต้า ทำให้หนังต้องใช้เวลาไปกับการบอกเล่าถึงสิ่งแย่ๆ ที่ตัวร้ายทำ ทำให้ช่วงต้นๆ กับกลางๆ หนังจะมีพลังลบเสียเยอะ กว่าที่อะไรๆ จะฟีลกู้ดก็ต้องปาไปครึ่งหลังน่ะครับ และนั่นก็คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมชอบภาคแรกมากกว่า เพราะแม้จะมีเรื่องลบๆ หรือแม้จะมีคนไม่ดีปรากฏในเนื้อเรื่อง แต่ก็จะมาเพียงไม่นาน เมื่อมาประกอบสถานการณ์แล้วก็จากไป กล่าวคือภาคแรกหนังให้พื้นที่กับการเล่าเรื่องกู้ดๆ มากกว่า

แต่ก็พอเข้าใจน่ะครับ ถ้าหนังมีตัวร้ายก็ต้องเล่าเรื่องร้ายๆ ของเขา ไม่งั้นเรื่องก็ไม่เดิน แต่เพราะแบบนั้นมันก็เลยอดไม่ได้ที่จะเทียบเคียงกับภาคแรกที่ดูแล้วมันสนุก เพลิดเพลิน และสบายใจมากกว่า ส่วนภาคนี้ก็ต้องทนนิดๆ กับการเห็นคนไม่ดีป่วนเมืองที่แสนน่ารักของซานต้า

แต่โดยรวมแล้วผมก็ยังโอเคกับหนังน่ะครับ อย่างน้อยครึ่งหลังหนังก็ทำได้ดี มีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้อบอุ่นหัวใจด้วย และตอนจบก็แฮปปี้เอนดิ้งตามสูตร ก็ถือเป็นภาคต่อที่โอเคน่ะ

พลังสำคัญที่ช่วยหนังไว้ได้เยอะก็คือการแสดงลื่นๆ ของ Russell ในบทซานต้าน่ะครับ ถือเป็นซานต้าที่น่าจดจำมากในยุคหลังๆ นี่ เพราะพี่แกมีทั้งความกวน ความฮา และความน่ารักแบบซ่าส์ๆ ส่วน Hawn ในบทคุณนายคลอสก็ถือว่าเธอทำหน้าที่ได้ดีครับ ความอ่อนโยนของเธอถือว่าเพิ่มความน่ารักให้กับหนังได้ไม่เลว แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่ากาลเวลาได้บั่นทอนควาน่ารักบางประการที่เคยมีเป็นเครื่องหมายการค้าของเธอ

ภาคนี้ Chris Columbus โดดมากำกับครับ หลังจากภาคแรกนั่งแท่นอำนวยการสร้าง ซึ่งผลที่ได้ก็ถือว่ากลางๆ ครับ ถือว่าดูได้เรื่อยๆ จริงๆ ผมว่าผลงานของเขาจะเวิร์กหรือไม่มันจะขึ้นอยู่กับบทครับ หากบทดีแกก็จะทำออกมาได้ดี แต่หากบทยังไม่แน่นผลงานถ้าไม่ออกมากลางๆ ก็จะออกมาแกว่งๆ ครับ อันนี้ผมว่าเป็นเรื่องปกติของเขา และสำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าเขาทำได้โอเคเท่าที่บทจะอำนวยครับ

แม้ความสนุกอาจจะดร็อปลงไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ยังได้การกำกับภาพดีๆ ของ Don Burgess (ที่กำกับภาพภาคแรกด้วย) มาช่วยเอาไว้ พร้อมด้วยดนตรีดีๆ สำหรับหนังคริสต์มาสของ Christophe Beck ที่ถือว่าเข้ากับตัวหนังอยู่ (ผมชอบดนตรีที่บรรเลงตอน End Credits ครับ มันเป็นอะไรที่คริสต์มาสดีจริงๆ)

เอาเป็นว่าถ้าใครชอบภาคแรกก็ตามดูตอนต่อกันได้ครับ อาจจะสนุกไม่เท่าภาคแรก แต่เรื่องราวก็ถือว่าควรค่าแก่การชมสักครั้ง ถือว่าดูเพื่อรับรู้ว่าชีวิตของตัวละครในภาคแรกจะเดินไปทางไหนต่อก็แล้วกัน

สองดาวครับ

(6/10)