ภาคนี้เป็นการกลับมาของโคตรเซียนเกาจิ้ง (โจวเหวินฟะ) ครับ หนังกำกับโดย หวังจิ้ง เจ้าเก่า ในขณะที่โทนหนังก็กลับมาเน้นความเข้มและจริงจังแบบ คนตัดคน ภาคแรก โดยจะมีมุกฮาแทรกบ้าง แต่จะไม่มากเท่าภาค 2 – 3 ครับ
เหตุการณ์ภาคนี้เกิดหลังจากภาคแรก 5 ปีครับ เมื่อเกาจิ้งเลือกจะล้างมือจากวงการและอาศัยอยู่กับภรรยา (จางเหมี่ยน) ที่กำลังตั้งครรภ์ ทุกอย่างดูจะเรียบร้อยดีจนกระทั่งเฉินจินเฉิง (Hon-Lam Pau) คู่อาฆาต (จากภาคแรก) ของเกาจิ้งพ้นโทษออกจากคุก และมาพร้อมกับโฉวเซี่ยวชือ (Hsing-Kuo Wu) วายร้ายแห่งวงการพนันที่พยายามท้าพนันกับเกาจิ้งมานานปี แต่เกาจิ้งไม่ยอมเล่นด้วย โฉวเซี่ยวชือเลยยกพวกมาฝากรอยแค้นชนิดที่ทำให้เกาจิ้งต้องจำไปจนวันตาย
จากนั้นเกาจิ้งก็ปกปิดชื่อเสียงตนเองตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับภรรยา แต่ลองว่าโฉวเซี่ยวชือยังไม่ยอมรามือ ในที่สุดเกาจิ้งก็ต้องกลับมาดวลไพ่บนโต๊ะพนันอีกครั้ง
จำได้ว่าตอนดูรอบแรกผมออกจากอึ้งๆ อยู่เหมือนกันครับ เพราะโทนเรื่องจัดว่าหนักไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะความโหดของโฉวเซี่ยวชือที่บอกได้เลยว่าเหี้ยมในระดับที่ “ม.ม้า” วิ่งหนีเลยล่ะ ฉากที่อึ้งนี่คืออยู่ตอนแรกๆ เลยครับ สิ่งที่พวกนั้นทำกับภรรยาของเกาจิ้งเป็นอะไรที่โหดมากจริงๆ
ถัดจากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงเกาจิ้งท่องโลก ไปเจอกับเรื่องราวต่างๆ และจนแล้วจนรอดชีวิตของเขาก็ต้องมาเจอกับเรื่องการเข่นฆ่าอีก อดคิดไม่ได้ว่าเกาจิ้งนี่มีกรรมเหลือเกิน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าถ้าพี่แกไม่มีกรรมเราก็คงจะไม่มีหนังมันส์ๆ ดูกันแบบนี้หรอก
ตัวหนังจัดว่าเข้มข้นทีเดียวครับ น่าติดตามตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ช่วงตอนต้นทำได้บีบเค้นดี พอมากลางๆ ก็เริ่มมีผ่อนบ้าง มีลุ้นบ้าง แล้วก็มีความฮาแทรกมาบ้าง ซึ่งคนที่มาชูรสความฮาก็คือ เหลียงเจียฮุย ในบท ทรัมเป็ตน้อย เซียวฟางฟาง 18 มงกุฎสุดกะล่อนที่เรียกเสียงฮาได้ดีครับ ไหนจะมี Elvis Tsui มาคอยเป็นลูกคู่ในตอนท้ายๆ อีก พวกพี่เขาก็มีช่วยคลายอารมณ์ได้ดี และที่ลืมไม่ได้คือ Charles Heung ที่กลับมารับบทพี่หลงอู่อีกครั้ง
ส่วนดาราฝ่ายหญิงก็น่าจดจำครับ อู๋เชี่ยนเหลียน รับบทเซียวเหยาเหยา น้องสาวของทรัมเป๊ตน้อยครับ แต่รายที่ถือว่าเด่นมากๆ คือ ชิวซู่เจิน ที่ฉายเสน่ห์แบบสุดๆ ฉากที่เธอเข้าคู่กับเหลียงเจียฮุยก็เป็นอะไรที่ฮาดีครับ เฮียเหลียงก็หืื่นไปเรื่อยๆ เจ๊ชิวก็เซ็กซี่ไปเรื่อยๆ มันอาจเป็นมุกฮาเดิมๆ ในหนังฮ่องกงแต่ก็ทำออกมาได้ฮาแบบได้ผลอยู่ครับ
โดยรวมแล้วหนังถือว่าสนุกเข้าชุดกับคนตัดคนภาคอื่นๆ ครับ เอามาดูต่อกันก็มันส์ดี และฉากดวลไพ่ตอนสุดท้ายของภาคนี้ก็ถือว่าคอขาดบาดตายกว่าภาคอื่นๆ ในแง่ความลุ้นก็ถือว่าน่าพอใจครับ แต่ก็แน่นอนว่ายังมันส์ถึงใจสู้ภาคแรกไม่ได้ อันนั้นมันครบเครื่องและลงตัวแบบเกินร้อยจริงๆ
จุดหนึ่งที่ผมชอบคือหนังรับลูกต่อจากเรื่องราวในภาคแรกได้ดีครับ เราจะได้ทราบชะตากรรมของหลายๆ ตัวละครว่าหลังจากภาคแรกแล้วจะเป็นยังไงต่อไป เช่นเฉินจินเฉิงนี่เราก็จะได้เห็นครับว่าเขาจะมีบทลงเอยอย่างไร ซึ่งก็ถือว่าทำหน้าที่ภาคต่อได้ดีในระดับหนึ่งครับ
ตัวหนังตอนออกฉายถือว่าประสบความสำเร็จมากในฮ่องกงครับ หนังได้รับการบันทึกว่าเป็นหนังฮ่องกงเรื่องแรกที่ทำเงินเกิน $50 ล้านเหรียญฮ่องกง (หนังทำเงินไปประมาณ $52 ล้านเหรียญฮ่องกงครับ)
และอยากให้ท่านสังเกตฉากตอนท้ายที่เกาจิ้งนั่งรถไปยังคาสิโนเพื่อที่จะดวลกับวายร้ายในตอนไคลแม็กซ์ ฉากนั้นเราจะเห็นมีคนยืนรอดูการปรากฏตัวของเกาจิ้งเต็มสองข้างทาง อันนี้อยากจะบอกว่าผู้คนที่ยืนรอกันนั้นไม่ใช่ตัวประกอบเลยนะครับ แต่คือประชาชนชาวไต้หวันของจริงที่ทราบข่าวว่าหนังจะมาถ่ายทำฉากไคลแม็กซ์กันที่นี่ เลยพากันมายืนรอและให้กำลังใจเกาจิ้ง (หรืออีกนัยหนึ่งคือโจวเหวินฟะ) มากันเป็นพันจนส่งผลให้วันนั้นการจราจรในไต้หวันเป็นอัมพาตกันเลยทีเดียว
ถือเป็นหนังแอ็กชันในโลกแห่งการพนันที่ทำได้น่าจดจำอีกเรื่องครับ
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)