หลังจากแนะนำภาคแรกไปเมื่อนานมาแล้วนะครับ ก็ได้เวลาพูดถึงตอนต่อซะทีกับหนังจีนชุดแนวงกำลังภายในที่ผมยกนิ้วให้เลยนะครับ แม้จะเก่าแก่เกือบสามสิบปี แต่ดีกรีความสนุกยังไม่มีตก คือสำหรับผมนี่บอกตรงๆ ว่าดูแล้วยังติดมากกว่าหนังกำลังภายในยุคหลังๆ ซะอีกนะครับ
เหตุการณ์ต่อเนื่องจากภาคที่แล้ว หลังจากจบศึกกับกวนอิมศิลา (หรือในเรื่องที่เรียกว่า ศิลากวนอิม) ไปแล้ว แต่การผจญภัยของจอมโจรจอมใจ ชอลิ้วเฮียง (เจิ้งเส้าชิว) ยังไม่จบสิ้นครับ เพราะศัตรูตัวฉกาจอย่าง บ้อฮวย (กวานชง) ยังมีชีวิตอยู่ และกำลังวางแผนทุกวิถีทางที่จะทำให้ชอลิ้วเฮียงตายลงให้ได้
ภาคนี้ก็เป็นการเอานิยายตอนศึกวังน้ำทิพย์มาดัดแปลงนะครับ พี่ชอของผมเลยต้องเผชิญกับคู่สามีภรรยาลีเง็กฮั้งและลิ่วบ้อไบ๊ ตามด้วยเหล่าสมุนของเจ้าแม่วังน้ำทิพย์ และเรื่องราวยังไม่จบแค่นั้นครับ มันยังมีเนื้อหาส่วนนอกเหนือจากนิยายอีก ซึ่งขออุบไว้ครับ เอาไปดูไปเดากันเองดีที่สุด
ครับ ผมยอมรับเลยว่าภาคนี้แปลงไปจากนิยายค่อนข้างเยอะมาก ยิ่งครึ่งหลังนี่แต่งเองเลยครับ แต่ผลที่ได้ออกมากลับมันส์อ้ะ สนุกครับ น่าติดตามดี และจะว่าไปการที่หนังจับเอาตัวละครบ้อฮวยใส่ลงมาอีกเนี่ยทำให้เรื่องราวมันดูต่อเนื่อง และดูแน่นมากขึ้น เช่นกรณีของคู่สามีภรรยาลีเง็กฮั้งโดนบีบบังคับจนก่อเรื่องนั่น ในนิยายดูเหมือนมันจะมาจากความรักเมียอย่างเดียว แต่กับในหนังนี่มันเพราะบ้อฮวยครับ พี่แกมาชั่วโดยเฉพาะจริงๆ และยังทำให้คู่สามีภรรยาคู่นี้ดูน่าเห็นใจมากขึ้นด้วย
และส่วนมากหนังจีนระยะหลังๆ นี่หลายเรื่องก็ยำเรื่องเองนะครับ แต่งเองผสมเอง แต่ลีลาความเนียนนี่สู้สมัยก่อนไม่ได้เลย อย่างเรื่องพี่ชอนี้ก็ยำครับ ช่วงท้ายนี่ไม่เกียวกับนิยาย ออกจะแต่งเองเยอะมากๆ แต่กลับทำให้เรื่องราวน่าติดตาม อย่างแม่เฒ่าชุดดำลึกลับที่ดูเหมือนจะมาเพื่อครองยุทธภพเป็นต้น
คือในภาคแรกนั้นเนื้อหาค่อนข้างเดาได้สำหรับคนอ่านนิยายมาแล้วน่ะนะครับ แต่กับภาคนี้คนที่อ่านก็ดูได้อย่างสนุกเพราะเรื่องมันไม่เหมือนหนังสือ และยังมีส่วนต่อเติมอีก และมันเนียนไปกับนิยายได้ครับ บรรยายสั้นๆ ได้ว่า มันส์น่ะแหละครับ
จุดที่ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่ภาคก่อน ก็หนีไม่พ้นการแคสติ้งดารามาสวมบทบาท นับแต่บัดนั้นมาจนปัจจุบันนะครับ เห็นทีจะไม่มีใครเป็นชอลิ้วเฮียงไปได้ดีกว่าเจิ้งเส้าชิว ทุกอากัปกิริยามันพี่ชอชัดๆ ว่าตามจริงคือหนังชุดนี้น่าดูมากๆ ก็เพราะพี่แกด้วยแหละครับ เล่นดีเกินไป เล่นดาราเจ้าอื่นก็ไม่น้อยหน้ากันไม่ว่าจะเจ้าหย่าจือในบทโซวย่งย้ง ที่ไม่มีใครเป็นย่งย้งได้น่ารัก เจ้าเสน่ห์ แสนกลได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว ส่วนบทโอวทิฮวยของอู๋ม่งต๊ะก็ลื่นครับ เป็นส่วนเสริมความสนุกของเรื่องราวได้เยอะมากจริงๆ ยิ่งช่วงหลังๆ นี่มันซึ้งเลยล่ะ จับอารมณ์ได้เลยว่าแมวขี้เมาคนนี้ คือเพื่อนแท้ของชอลิ้วเฮียงจริงๆ
เนี่ยครับ ดาราดีหมด ดนตรี เพลงก็คลาสสิคแบบไม่ต้องพูดให้มากความ ฉากการต่อสู้อันนี้ต้องยกนิ้วให้แบบเต็มพิกัดครับ โดยเฉพาะฉากที่พี่ชอต้องประมือกับจอมยุทธ 7 คนในค่ายกลที่ลีเง็กฮั้งหลอกพี่ชอไปติดกับ หากใครอ่านนิยายมาย่อมจำได้ว่าฉากที่ว่านี้เป็นการต่อสู้ที่น่าจดจำมากอันหนึ่งครับ และที่ยอดเยี่ยมคือหนังดันถ่ายทอดมาได้ถึงด้วย เออ เอากับมันสิครับ แม้จะไม่อลังการเท่าที่จินตนาการไว้ แต่ก็ใกล้เคียง และจุดที่ผมประทับใจก็คือน้ำใจของชอลิ้วเฮียงในฉากนั้นน่ะแหละ
นอกจากนี้เรื่องราวที่ต่อเติมเอาเองในช่วงท้ายแทนที่จะเละนะครับ แต่ดันทำให้เรื่องราวของชอลิ้วเฮียงดูเต็มขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นการเล่าถึงศิษย์พี่ของชอลิ้วเฮียง เป็นไงไปดูเองนะครับ ไม่อยากสปอยล์มากกว่านี้ บอกได้เพียงแค่ว่า ตอนแรกผมกะเลยครับว่า เฮ้ย มั่วนี่หว่า แบบนี้เลอะเทอะแล้ว แต่ที่ไหนได้ มันทำให้ผมบ้าพี่ชอหนักกว่าเก่า เพราะช่วงที่ว่านี่แสดงถึงความเป็นชอลิ้วเฮียง คุณธรรมน้ำมิตร การรู้จักแยกแยะบุญคุณกับความถูกต้อง หรือประเด็นการเป็นจอมโจรคุณธรรมก็ถูกเติมเต็มจากตรงนี้นี่แหละ
โอ้ ยอดจริงๆ ทีมเขียนบท เนียนเกินไป เนียนเกินไป
แต่กระนั้นนะครับ ภาคนี้ก็ยังมีส่วนพร่องอยู่ ไม่ว่าจะการต่อสู้กับเจ้าแม่วังน้ำทิพย์ที่ลงเอยอย่างง่ายดายจนเกินไป และจุดจบของบ้อฮวยก็ไม่สาใจเท่าไหร่ด้วย ก็เลยทำให้หนังไม่ถึงกับสุดยอดอย่างที่ควรจะเป็น ก็เสียดายเล็กๆ ครับ แต่พอเอามาหักกลบกับหนังโดยรวมก็ต้องบอกว่าไม่ถึงกับผิดหวัง นี่ยังเป็นหนังจีนชุดกำลังภายในที่ยอดเยี่ยมอยู่ดี
สั้นๆ เลยนะครับ ไม่อยากให้พลาดกัน ยิ่งถ้าท่านชอบชอลิ้วเฮียงล่ะพลาดไม่ได้ คอหนังกำลังภายในก็พลาดไม่ได้เช่นกันครับ คนชอบพี่เจิ้งก็ห้ามพลาด นี่ผมเหมาตลาดทุกกลุ่มแล้วมั้งเนี่ย เอาเป็นว่าถ้าท่านชอบหนังจีน ลองว่าเป็นคอหนังจีนนะครับ นี่คืองานที่ท่านควรได้ชมสักครั้งในชาตินี้ครับ ขนาดนั้นเลย
สี่ดาวครับ
(9/10)