Action

Jack Reacher: Never Go Back (2016) ยอดคนสืบระห่ำ 2

14907245_1371061359591328_971542190472851367_n

Jack Reacher ภาคแรกนั้น ผมว่าดูได้เพลินๆ ครับ สนุกดี แต่อาจจะไม่ได้มันส์มากมาย ซึ่งสิ่งที่ผมชอบมากๆ ในภาคแรกก็คือคาแรคเตอร์ของพี่แจ็คเขานั่นล่ะครับ

พี่แจ็คแกดูเทพ ฉลาด หัวไว เป็นนักสืบประเภทไม่สนกฎ กติกา มารยาท เลยทำให้การสืบคดีของพี่แกไร้ลิมิต แกกล้าจะตรงไปหาเงื่อนงำในทุกที่ กล้าจะไปสอบปากคำทุกคน แม้จะต้องแลกหมัดกันก่อนถามพี่แกก็ไม่กลัว

ที่สำคัญคือเขาจะคิดนอกกรอบ ทำให้เห็นในบางจุดที่คนทั่วไปไม่เห็น ไม่ว่าจะการมองสังคม, ระบบต่างๆ ในมุมของคนนอก หรือสงสัยในจุดเล็กๆ ที่คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้มอง (ออกแนวโฮล์มส์หน่อยๆ) ทำให้เขาสามารถล่วงหน้าผู้ร้ายได้ก้าวหนึ่งเสมอ

ทั้งหมดนี้ทำให้ผมชอบพี่แจ็คเขาครับ ถึงแม้ภาคแรกจะไม่ได้เจ๋งมากมาย แต่ด้วยคาแรคเตอร์น่าสนใจแบบนี้ ผมเลยแอบเชียร์ให้มีภาคต่อตามออกมา เพราะอยากเห็นพี่แกมาสืบแบบเทพๆ นอกกรอบๆ แหกกฎๆ แบบนี้อีกสักหน

ครั้นพอได้ข่าวว่าหนังจะทำภาคต่อผมก็ดีใจนะ รอดูอยู่เหมือนกันครับ แต่พอได้ดูแล้วก็รู้สึกเรื่อยๆ ไม่ได้ชอบอะไรมาก ว่าตามจริงคือผมว่าผมชอบภาคแรกมากกว่านะ

คราวนี้แจ็ค รีชเชอร์ (Tom Cruise) ต้องสืบหาเงื่อนงำเมื่อเทอร์เนอร์ (Cobie Smulders) เพื่อนของเขาโดนทางการจับตัวด้วยข้อหาฉ้อโกง แต่เขาก็คิดล่ะครับว่าเทอร์เนอร์ไม่ใช่คนแบบนั้นแน่ๆ เลยออกโรงตามล่าหาความจริงว่าแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น หรือมีใครบางคนกำลังวางแผนร้ายอะไรอยู่

พูดแบบไม่อ้อมค้อม ภาคนี้ไม่เข้มข้นเท่าไรครับ การเดินเรื่องส่วนใหญ่ค่อนข้างช้า และที่ติดใจมากหน่อยคือ นี่เป็นหนังสืบสวนที่ไม่ค่อยจะเน้นการสืบสวนสักเท่าไร จริงๆ ตอนต้นๆ หนังเปิดปมมาดีครับ ชวนให้เราเกิดคำถามว่าทำไมเทอร์เนอร์ถึงโดนจับ แล้วสักพักความเดือดร้อนก็ลามมาถึงพี่แจ็คของเรา

ช่วงต้นๆ นี่ถือว่าน่าสนใจครับ ยังได้เห็นพี่แจ็คแกโชว์เทพ เช่น พอรู้ว่ากำลังมีคนติดตาม พี่แกก็เดินไปตะบันหน้าพวกนั้นทันที หรือวิธีการที่เขาใช้เพื่อไปให้ถึงตัวเทอร์เนอร์ที่โดนจับอยู่ในคุก อะไรเหล่านี้ถือว่าเวิร์กในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปมชีวิตส่วนตัวของพี่แจ็คแทรกมาเป็นพล็อตรองด้วย

แต่พอหลังจากนั้นแล้ว เหมือนเรื่องจะไม่คืบไปไหนสักเท่าไรครับ ปมก็ไม่ได้มีอะไรมาก การตามสืบก็ออกแนวเรื่อยๆ เหมือนพี่แจ็คจะเน้นการหลบมากกว่าจะหาทางสืบต่อ เลยทำให้ช่วงกลางๆ มันไม่น่าติดตามเท่าที่ควร ครั้นพอถึงตอนเฉลยปม เอาเข้าจริงๆ ปมในเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ของใหม่ครับ ใครดูหนังสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องทหารหรือรัฐบาลมาเยอะๆ ก็คงเดาไไม่ยากล่ะครับว่าเรื่องทั้งหมดนี่มันเกิดเพราะอะไร และใครเป็นตัวร้าย

สรุปว่าภาคนี้ดีกรีความเข้มข้นน้อยลงครับ ความเทพในการสืบของพี่แจ็คก็ลดลง เลยทำให้ความสนุกและความน่าติดตามลดลงไปพอสมควร… เอาล่ะครับ ถัดจากนี้มีสปอยล์นะครับ ไม่อยากทราบหยุดอ่านได้ครับ หากจะให้สรุปคร่าวๆ ณ ตรงนี้คือ หนังก็ยังดูได้ครับ แต่อย่าคาดหวัง เพราะการสืบก็ไม่ได้เร่งเร้าหรือตื่นเต้นอะไร การเดินเรื่องก็ออกจะช้าและเดาได้ในหลายวาระ

Untitiled05668

**** ถัดจากนี้มีสปอยล์ครับผม ไม่อยากทราบข้ามได้เลย *****

สิ่งที่ผมเสียดายมากอย่างหนึ่งคือภาคนี้พี่แจ็คไม่เทพอย่างเก่า บางอย่างพลาดแบบเล่นเอางงว่าพลาดได้ไง เช่น ตอนท้ายที่แจ็คนัดให้คนไปรับพยานปากสำคัญน่ะครับ คืองงมากที่พี่แกปล่อยให้พยานโดนยิงตาย โดยพี่แกไม่วางแผนป้องกันอะไรเลย คือแกทำยังกับว่า ไม่มีผู้ร้ายสะกดรอยตามมาได้หรอก ทั้งๆ ที่พี่แกพยายามระวังการสะกดรอยมาตลอดแท้ๆ แต่พอถึงเวลาสำคัญดันพลาด

หรือตัวร้ายสายนักฆ่าที่ดูจะเป็นคู่ปรับกับพี่แจ็ค ตอนแรกบทนี้น่าสนใจนะ ผมชอบตอนแกใช้ลายนิ้วมือบนโทรศัพท์เป็นเครื่องป้ายความผิดให้แจ็ค ผมก็คิดไปว่า ตัวร้ายรายนี้มันจะใช้สมองมาเฉือนคมกับแจ็คไหม คือผมคิดไปไกลเลยนะครับ นึกไปประมาณว่าจะได้เห็นนักฆ่าคนนี้ตามล่าแจ็ค สะกดรอยประหนึ่งนักล่าตามล่าสัตว์ หรือหากหาแจ็คไม่เจอ หมอนี่ก็อาจจะวางกับดักล่อแจ็คออกมา คือคิดไปถึงขั้นนั้นเลย

แต่เอาเข้าจริงก็เปล่าครับ กลายเป็นว่าพี่นักฆ่าแกก็แค่ว่าใครในกลุ่มพี่แจ็คจะเผลอใช้มือถือและบัตรเครดิตบ้างเท่านั้น พอมีคนเผลอใช้ก็ตามไป สรุปคือไม่ได้ใช้กึ๋นมาเฉือนคมกับพี่แจ็คดังคาด (ผมว่าตัวร้ายภาคก่อนยังดูมีกึ๋นกว่ากันเยอะครับ)

ทั้งนี้และทั้งนั้น ผมก็พยายามบอกตัวเองล่ะครับว่าอาจจะคาดหวังมากไป แต่ก็ขอเล่าตามที่รู้สึกน่ะนะครับ เพราะภาคแรกจริงๆ ทำไว้ดีน่ะ แต่ภาคนี้ความดีของพี่แจ็คจากภาคแรก ดูจะจืดลงไปเยอะเลย

สองดาวครับ

Star21

(6/10)