ร่ายให้ครบตามระเบียบครับ หลังจากหนังโรง 4 ภาค, ทีวีซีรี่ส์ 5 ตอน และหนังฉบับทีวีในปี 1997 อีกหนึ่งภาคแล้ว เรื่องราวของรถมหาสนุกก็เงียบไปพักหนึ่ง – ระหว่างนั้นก็ถูกแซวนิดๆ ในตอนท้ายของหนัง Inspector Gadget – ก่อนจะได้โอกาสกลับมาเป็นหนังใหญ่อีกรอบในปี 2005

ภาคนี้เป็นภาคที่ Walt Disney หมายมั่นจะให้เป็นการปลุกตำนานเฮอร์บี้ รถเต่าหมายเลข 53 ที่มีชีวิตและจิตใจ อีกทั้งรักความเร็วเหนือสิ่งอื่นใด โดยกำหนดให้เจ้าเฮอร์บี้ได้เจอกับเจ้าของใหม่ที่ชื่อแม็กกี้ เพย์ตัน (Lindsay Lohan) ทายาทนักแข่งรถที่มีเลือดนักซิ่งในตัวอยู่แล้ว ทีนี้เจ้าเฮอร์บี้ก็เลยได้ลงสนามแข่งอีกครั้งครับ

หนังก็ดูได้เรื่อยๆ ครับ แม้จะไม่ลงตัวเท่าภาคแรก (The Love Bug) แต่ก็ถือว่าดูได้พอกล้อมแกล้มพอๆ กับภาค Herbie Goes to Monte Carlo โดยที่โทนหนังก็จะออกแนวดิสนีย์น่ะครับ นั่นคือเด็กดูได้ ส่วนผู้ใหญ่บางท่านก็อาจต้องทำใจสักหน่อยกับมุกเด็กๆ หรือพล็อตเรื่องที่เดาได้ไม่ยากเย็น ยิ่งตัวร้ายของเรื่องนี่เดาไม่ยากเลยครับ ย่อมหนีไม่พ้นทริป เมอร์ฟี่ (Matt Dillon) นักซิ่งจอมอวดดีที่ชอบใช้เสน่ห์มาลวงให้สาวๆ หลง

ตอนดูหนังเรื่องนี้อีกรอบก็ให้เสียดาย Lindsay Lohan ครับ จริงๆ เธอเป็นนักแสดงที่เล่นหนังได้ลื่นนะครับ หน้าตาก็น่ารัก แต่เพราะเลือกทางเดินผิดอนาคตเธอจึงต้องซวนเซ ทั้งๆ ที่หากเธอยังคงรักษาชื่อเสียงไว้ได้ ผมเชื่อว่าดิสนี่ย์คงป้อนงานให้อีกหลายเรื่องล่ะครับ

ส่วนรายได้ของหนังภาคนี้ ได้ไป $66 ล้านในอเมริกา ซึ่งอาจไม่เยอะนักเมื่อเทียบกับทุนสร้าง $50 ล้าน แต่อย่างน้อยรายได้ทั่วโลกก็ไปถึง $144 ล้านก็ถือว่าหนังพอจะประสบความสำเร็จอยู่ครับ เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นเยอะมากเท่านั้น

เกร็ดเล็กๆ ที่หนังใส่ลงมาเพื่อรำลึกถึงหนังภาคต้นฉบับก็คือ แม็กกี้นั้นซื้อเฮอร์บี้มาในราคา $75 เหรียญซึ่งเป็นจำนวนเงินเดียวกับที่จิม ดักลาสซื้อเฮอร์บี้มาในหนังภาคแรกครับ

และประเด็นหนึ่งที่หลายคนยังจำได้จนถึงทุกวันนี้ก็คือ หลังจากหนังถ่ายทำเสร็จทาง Disney ก็รู้สึกว่าทรวดทรงของ Lohan นั้นค่อนข้างอึ๋มมากอย่างชัดเจนและเสื้อผ้าในบางฉากก็เปิดเผยเนื้อหนังเกินไปหน่อย จนทางค่ายเกรงว่ามันอาจไม่เหมาะกับผู้ชมรุ่นเยาว์เลยมีคำสั่งให้ทีมงานใช้เทคนิคพิเศษลดความอึ๋มของเธอลง และใช้ CG เพิ่มเสื้อผ้าเพื่อปกปิดเนื้อหนังของเธอในบางฉาก – ตอนทราบข่าวนี้ก็คิดในใจว่า “มันขนาดนั้นเลยรึนี่?”

ข้อแนะนำก่อนดูคืออย่าตั้งความหวังครับ เพราะอย่างที่บอกว่าหนังดูได้ แต่ถ้าถามว่าสนุกไหมก็คงต้องตอบว่ายังไม่มาก ยังดีครับที่พลังดาราช่วยดึงความสนใจคนดูไว้ได้ โดยรวมๆ แล้วหนังก็ถือว่าดูเพลินๆ ครับ ส่วนเสน่ห์ของเจ้าเฮอร์บี้ก็ดูเหมือนจะยังไม่เยอะเท่าสมัยก่อนสักเท่าไร แต่สำหรับคนที่ไม่เคยดูฉบับที่แล้วๆ มาก่อน ก็อาจสนุกไปกับเรื่องราวได้ครับ

สองดาวครับ

(6/10)