
เป็นอีกหนึ่งหนังที่ตั้งชื่อไทยได้น่าลุ้นมากครับ “อึดท่วมนรก” ยิ่งตอนฉายโรงชั้นสองก็ให้ฮา เพราะหากมีใครไปกระแทก ด.เด็ก ให้กระเด็นจากคำว่า “อึด” ล่ะก็ คนดูได้ร้องยี้แตกฮือกันถ้วนหน้า 555
แรกเริ่มเดิมทีหนังเรื่องนี้มีชื่อว่า The Flood นะครับ แต่ทีนี้พอทำๆ ไป ปรากฏว่าหนังแนวหายนะหลายเรื่องไปไม่ใคร่จะถึงดวงดาวสักเท่าไหร่ ผู้สร้างเลยตัดสินใจเปลี่ยนชื่อประกาศว่านี่ไม่ใช่หนังแนวหายนะภัยธรรมชาติ แต่เป็นแอ็คชั่นที่มีฉากหลังเป็นอุทกภัยต่างหาก
ทอม (Christian Slater) กับลุงชาร์ลี (Edward Asner) สองการ์ดคุ้มเงินไปส่งยังจุดหมายปลายทางต้องฝ่าฝนแล้วก็น้ำที่กำลังท่วม เอาเงินไปส่งให้ถึงที่หมายให้ทันเวลา แต่ก็ต้องมาเจอโจรที่นำโดย จิม (Morgan Freeman) ดักปล้น ทอมสามารถหนีรอดมาได้ แต่พวกโจรก็ล่าเขาไม่ลดละครับ ซ้ำยังมาเจอนายอำเภอ (Randy Quaid) เข้าใจว่ารู้เห็นเป็นใจกับโจรอีก งานนี้พี่แกเลยโดนล่าสองทาง ก็เลยต้องเอาตัวรอดตามแบบฉบับล่ะครับ
ตอนดูรอบแรกก็นึกหงุดหงิดเหมือนกัน ประมาณว่าน้ำท่วมจนจะมิดเมืองอยู่แล้วพวกพี่ยังมาบ้าล่ากันอยู่ได้ คือถ้าไม่หนีก็มีแต่จมน้ำตายล่ะครับ หรือไม่ก็โดนบ้านไล่ทับ ทำไมไม่หนีไปตั้งหลักแล้วค่อยล่าใหม่ล่ะ นี่ก็คือคิดแบบฮาๆ นะฮะ แต่ก็เข้าใจล่ะครับ ขืนเขียนบทแบบนั้นจะมีหนังให้ดูได้ยังไง
ถ้าตัดประเด็นเรื่องเหตุผลออกไปบ้าง HR ก็เป็นหนังแอ็คชั่นที่ดูเพลินพอสมควร ล่ากันสนุกไม่เลว ลุ้นในหลายช่วง อย่างตอนเอาเจ็ทสกีไปขี่ไล่ยิงกันในโรงเรียนเงี้ยครับ ไม่เลวเหมือนกัน ก็ต้องชม Graham Yost มือเขียนบทจาก Speed และ Broken Arrow ที่พอจะคุ้นเคยกับงานหนังบู๊ไล่ล่าพอประมาณ ด้านบทนี่ไม่เลวเลยนะครับ มีการหักมุมพอหอมปากหอมคอ
======สปอยล์หน่อยนะครับ======
จุดที่ออกจะโดนใจผมหน่อยคือตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่มีมิติ ไม่ใช่มาบ้ามาร้ายกันอย่างเดียว อย่างจิม ก็ไม่ใช่มหาโจรที่เอาแต่ทำร้ายคนเพื่อเงิน แต่ยังพอมีศักดิ์ศรี เข้าข่ายโจรรุ่นเก่าที่แม้จะปล้นเขากินแต่ก็ไม่กินคนด้วยกันเอง ไม่ฆ่าไม่โหดขนาดนั้น จริงๆ จิมเป็นตัวอย่างของคนที่จนตรอกประเภทหนึ่งมากกว่าครับ เมื่อชีวิตบัดซบไร้ทางออก หาเงินไม่ได้ดั่งใจเลยเป็นโจรมันซะเลย แต่ลึกๆ ในใจยังคงมีความดีอยู่บ้าง
บุคคลประเภทนี้น่าสงสารอยู่นะครับ อะไรมันบีบคั้นเลยลงเอยในทางนี้ จะว่าไปคนแบบนี้ก็มีเยอะในสังคมล่ะครับ ไม่อยากทำชั่วแต่ไม่มีเงินยาไส้ เหตุหนึ่งที่คนแบบนี้มีเยอะก็เพราะคนที่มีฐานะ มีโอกาสที่ดีกว่าไม่หยิบยื่นโอกาสให้พวกเขา ไม่ว่าจะด้านงานหรือการให้เกียรติอะไรเป็นต้น เอาแต่กดขี่หรือไม่ก็ดูถูก ก็เพราะกิริยาการดูแคลนนี่แหละที่ทำให้คนมากมายเสียหายไปกันเยอะต่อเยอะแล้ว

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะให้คนมาปล้นกันหมดเมื่อถึงทางตันนะ เพราะมีคนอีกหลายคนจนลง จมลงแต่ก็ไม่ย่อท้อ สู้ในทางที่ถูกจนผงาดไปหลายรายยืดอกบอกกับตัวเองและลูกหลานได้ว่า แม้จนก็ไม่ทำลายคนอื่น คนแบบนี้ต่างหากที่น่าเดินตาม ขณะเดียวกันคนที่มีโอกาสจะโอบอุ้มช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกไม่ว่าจะทางอาชีพหรือทางจิตใจก็ไม่ควรปล่อยโอกาสแบบนี้ให้ลอยไปนะครับ การทำดีต่อกันมันทำให้อะไร สวยงามมานักต่อนักแล้ว
อีกหนึ่งตัวละครที่มีมิติชนิดที่คิดไม่ถึงคือนายอำเภอนี่แหละ ที่เหมือนจะรักษากฎหมาย แต่เอาเข้าจริงพอเงินทองของบาดใจมาล่อตรงหน้า ความโลภเข้าครอบงำ งานนี้ก็เลยพลิกตัวเองจะโกยเงินมาเข้ากระเป๋าแทน
ถ้าเหล้าคือน้ำเปลี่ยนนิสัยฉันใด เงินทองก็คือสิ่งเปลี่ยนมนุษย์ฉันนั้น เปลี่ยนกันมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ คนฆ่ากันได้เพราะเงิน เสียเพื่อนเสียพี่น้องได้เพราะเงิน จนหลายคนบอกว่าเงินคือพระเจ้า แต่ผมมองว่ามันคือซาตานซะล่ะมากกว่า
======หมดสปอยล์ครับ======
ตัวหนังนั้นก็เรื่อยๆ ล่ะครับ ดูเพลินได้ แต่ยังไม่เร้าใจอย่างที่ควรจะเป็น อันนี้ต้องยกความรับผิดชอบให้ Mikael Salomon ที่ชั่วโมงบินยังไม่เยอะตอนทำ อะไรเลยยังไม่ลงตัวเท่าที่ควร เห็นเขาว่ากันว่า ผู้กำกับเจ้าแรกที่โดนวางตัวให้มาทำก็คือ John Woo นั่นเอง ที่พี่แกสนใจจะทำก็เพราะรู้จักมักจี่กับ Yost มาตั้งแต่ทำ Broken Arrow แต่ด้วยความดังสุดขีดจาก Face/Off พี่แกเลยมีงานมารุมล้อมจนแทบไม่มีเวลากระดิกตัวในตอนนั้น หวยเลยมาลงที่ Salomon
และหนังถือว่าล่มครับ เพราะลงทุนไประดับ $70 ล้าน แต่ได้คืนมาเพียง $19 ล้านเท่านั้น ก็ขาดทุนเต็มตัวครับ
ไม่ใช่หนังที่เด็ดขาดขนาดห้ามพลาดแต่อย่างใด ยกเว้นดูเอาเพลินๆ แบบไม่คาดหวังก็พอทำเนา
สองดาวโดยประมาณครับ

(6/10)
หมวดหมู่:Action, Crime, Disaster Movies, Movie Reviews, Thriller










