
ผมเลือกดู We Can Be Heroes เพราะอยากเปิดหนังที่เด็กดูได้แบบง่ายๆ ให้ลูกดูครับ แล้วผลลัพธ์ก็ถือว่าโอเคนะ ลูกผมดูแล้วก็สนุกอยู่ ส่วนผมเองก็ว่าไม่เลวเหมือนกัน แม้ว่าจะมีบางจุดให้ตะขิดตะขวงก็ตาม
ผมเลือกดู We Can Be Heroes เพราะอยากเปิดหนังที่เด็กดูได้แบบง่ายๆ ให้ลูกดูครับ แล้วผลลัพธ์ก็ถือว่าโอเคนะ ลูกผมดูแล้วก็สนุกอยู่ ส่วนผมเองก็ว่าไม่เลวเหมือนกัน แม้ว่าจะมีบางจุดให้ตะขิดตะขวงก็ตาม
Bullet to the Head เป็นหนังแนวตำรวจวัยหนุ่มร่วมมือกับผู้ร้ายวัยเก๋าสู้กับพวกผู้ร้ายตัวเอ้ ซึ่งจะว่าไปก็ถือเป็นงานที่น่าจะถนัดของผู้กำกับ Walter Hill ที่เคยดังมากับ 48 Hrs. ทั้ง 2 ภาค แต่ผลที่ได้ถือว่ากลางๆ ครับ ไม่บวกแต่ก็ไม่ลบ
หลังจาก Hancock ทำเอาผมปรับอารมณ์ไม่ถูกเนื่องจากครึ่งแรกเป็นแนวทางฮีโร่ ส่วนครึ่งหลังแหกไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งผมชอบครึ่งแรกมากกว่าน่ะครับ ครึ่งหลังมันแหวกไปนิด แม้จะใหม่แต่ยังไม่กลมกล่อม (ถ้าเกลาอีกนิดท่าจะดี)
คุ้นๆ ว่าที่ผ่านมาพวกเราหลายคนสุมหัวแซวพี่ Nicolas Cage กันบ่อยๆ (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น) เลยขอพูดถึงหนังของพี่แกบ้างให้หายคิดถึง
แม้ผลงานเรื่องแรกในฮอลลีวู้ดของ John Woo อย่าง Hard Target จะไม่ค่อยทำเงินสักเท่าไร แต่อย่างน้อยลีลาการบู๊เท่ห์ ยิงแบบสโลว์ ถือปืนสองมือ สไลด์ตัวไปลั่นกระสุน แอ็กชันทั้งหมดที่ Woo พยายามถ่ายทอดมันก็ยังเข้าตาคนดูกลุ่มหนึ่ง รวมถึงผู้สร้างหลายคนก็จับตามองครับเพราะของแบบนี้ถือว่าสดพอสมควรสำหรับฮอลลีวู้ดยุคนั้น อันทำให้เขาได้โอกาสที่ 2 ในการทำหนังสัญชาติอเมริกันเรื่องนี้ครับ
เป็นอีกหนึ่งหนังที่ตั้งชื่อไทยได้น่าลุ้นมากครับ ยิ่งตอนฉายโรงชั้นสองก็ให้ฮา เพราะหากมีใครไปกระแทก ด.เด็ก ให้กระเด็นจากคำว่า “อึด” ล่ะก็ คนดูได้ร้องยี้แตกฮือเหม็นกันถ้วนหน้า 555
ชื่อมันบอกว่า Alone in the Dark …โทษนะคับผม มันอโลนกะป้ะตรงไหนฟะ
อาวุธลับอันทรงประสิทธิภาพของแวมไพร์ คือ เสน่ห์อันรัญจวนยวนใจ ยั่วให้คนหลงใหลไปกับมัน เหยื่อน้อยใหญ่เมื่อโดนอาวุธนี้แล้วก็ยากจะหนีพ้น บ้างก็หลงใหลรูปโฉมชวนพิสมัย บ้างพอสัมผัสก็ปลุกตัณหาหลากประการขึ้นมาในดวงจิต บ้างก็เกิดปรารถนาอยากกลายเป็นแวมไพร์เลยก็มี
หนังดังโคตรของ Kevin Costner ครับ กับการมารับบทเป็นโรบินแห่งล็อกซ์อินโฟ เอ้ย แห่งล็อกซ์เล่ย์ ลูกผู้ดีที่พอกลับจากสงครามก็พบว่าบ้านปราสาทและทุกสิ่งของตระกูลล็อกซ์ เล่ย์ถูกทำลายไปจนหมด ถูกยึดไปจนสิ้น ซึ่งผู้ที่ทำก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายอำเภอแห่งน้อตติ้งแฮม (Alan Rickman) ผู้โหดเหี้ยมและชอบขูดรีดประชาชนจนบ้านเมืองตกต่ำ ชาวบ้านลำบากต้องไปเป็นโจรก็มี
อีกครั้งครับกับเรื่องราว 3 ใน 1 หนังเรื่องนี้ก็มีที่มาจากทีวีซีรี่ส์ในปี 1984 ชื่อเดียวกันนี้เอง สไตล์ก็มาแนวเดียวกับพวก Tales From the Crypt น่ะครับ ซึ่งฉบับทางทีวีนั้นมีทั้งหมด 92 ตอน แล้วจากนั้นอีก 6 ปีต่อมา ก็มีการคิดจะทำเป็นหนังใหญ่ซึ่งก็คือเรื่องนี้ครับ หนังประกอบด้วยรื่องสั้น 3 ตอนนั่นคือ