นี่เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมจำได้แม่นได้ประวัติการดูหนังของผมเลยล่ะครับ เพราะเป็นหนังเพียงเรื่องเดียวที่ผมซื้อตั๋วไว้ เดินเข้าไปในโรงหนังแล้ว แต่ไม่ได้ดู!

อ๋อ เปล่าครับ โรงหนังไม่ได้เกิดเหตุอะไรใหญ่โต เพียงแค่หนังเรื่องนี้ผมไปดูกับพ่อน่ะนะครับ แล้วคุณพ่อของผมเกิดไม่สบายขึ้นมา ก็เลยต้องเปลี่ยนแผนโดยฉับพลัน กลับบ้านในทันที (ก็แน่ล่ะครับ สุขภาพของพ่อเราย่อมสำคัญกว่าหนังเรื่องไหนๆ อยู่แล้วล่ะฮะ)

แล้วพอหนังออกม้วนมาก็ได้ดู ซึ่งผมก็ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่ไม่ได้ดูในโรง

หนังเข้าข่านแนวบู๊บนเครื่องบินน่ะครับ เปิดเรื่องมาก็เล่าถึงไรอัน วีเวอร์ (Ray Liotta) ฆาตกรโรคจิตสุดอำมหิตที่โดนจับได้โดยนักสืบอัลโด ไฮนส์ (Hector Elizondo) จากการพิจารณาของศาล ไรอันได้รับโทษประหารครับ ทางการก็เลยจัดการส่งเขาขึ้นเครื่องบินข้ามรัฐเพื่อนำตัวไปรับโทษ

แต่ก็น่าจะเดาได้นะครับ ดันเกิดความผิดพลาดขึ้น ทำให้ไรอันใช้สมองอันชาญฉลาดยึดเครื่องบินทั้งลำได้ แต่หนังก็ได้กำหนดให้เทอร์รี่ ฮัลโลแรน (Lauren Holly) แอร์โฮสเตสสาวเป็นผู้รับมือกับมัน

จริงๆ ผมอยากดุนะครับ มันแนวน่าจะมันส์ได้ไม่ยากอ้ะ บู๊บนเครื่องบิน ดาราก็มีชื่อ แต่ที่ไหนได้กลับตาลปัตรเลยครับ Effect ออกมาจืดชืดอย่างไม่น่าเชื่อ ดูออกไม่ยากอ้ะครับว่าไม่ใช่ของจริง แล้วยังเรื่องราวที่ออกจะไร้เหตุผลเว่อร์ คือ ไรอันต่อให้เก่งระดับพระเจ้าอย่างไรก็เถอะ มันก็ไม่น่าจะทำได้ขนาดยึดเครื่องอย่างนั้น คือดูๆ ไปมันเหมือนกับโอกาสจะเอื้อให้ไรอันรอดแบบเอมากไปหน่อยน่ะครับ จริงๆ หนังแนวนี้มันต้องพอดีนะ ไม่ว่าจะตอนฝ่ายพระเอกได้เปรียบหรือฝ่ายตัวร้ายได้เปรียบเนี่ย มันต้องมีลุ้นหน่อยครับ แต่นี่เหมือนบทจะให้ไรอันได้ทีก็เป็นซะง่ายๆ เลย

และเช่นเดียวกัน ตอนท้ายบทไรอันจะโดนนางเอกเล่นงานก็เป็นไปอย่างง่ายๆ เช่นกัน สรุปคือหาอะไรลุ้นไม่เจอเลยล่ะครับ ผิดความคาดหมายจริงๆ

จริงๆ หนังเหมาะจะลง VDO ไปเลยมากกว่าครับ ไม่มีอะไรมันส์และสนุกสนานเท่าไหร่เลย คนละชั้นคนละเรื่องกับหนังอย่าง Executive Decision หรือ Air Force One เลยครับ คนละชั้นโดยสิ้นเชิง ทั้งๆ ที่หนังลงทุนไป 55 ล้านเลยนะครับ แต่รายได้คืนมาสวยมากครับ 11 ล้าน เจ๊งแบบจอดไม่ต้องแจวกันเลยล่ะ

หนังไปอ่อนตรงเนื้อหา และความมันส์ครับ แต่เรื่องดารานี่ผมคงต้องบอกว่า มันได้มือดีมาทั้งนั้นเลยนะ Ray Liotta ก็ไปได้ไม่เลวกับบทโรคจิตคลั่งๆ แบบเนี้ย Elizondo ก็เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เหมาะ หรือจะนางเอกอย่าง Holly ก็โอเคน่ะครับ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ดาราเลย แต่มันอยู่ที่การเดินเรื่องที่เดาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ความสนุกที่หาไม่เจอไม่ว่าจะมุมไหนก็ตาม

ที่บอกว่าไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจที่ไม่ได้ดูในโรงคือ ผมว่าผมเสียตังค์เจอหนังแบบนี้รอบเดียวไปเลยดีกว่าครับ นี่ยังอุตส่าห์ต้องมาเสียตังค์ดูตอนเป็นม้วนอีก เสียดายจริงๆ แต่ก็นั่นแหละครับทำไงได้เป็นเหตุสุดวิสัย ได้แต่ทำใจครับ

ไม่จำเป็นต้องดูหรอกครับบอกได้เลย เฉยแหลกจริงๆ

ไม่ถึงสองดาวแน่ๆ

(5/10)