Christmas Movies

Mixed Nuts (1994) สมาคมคนหลุดโลก

MV5BMzM5MTIxMTQ3MV5BMl5BanBnXkFtZTYwMTk1MjI5._V1_

หนังเรื่องนี้แม้จะล้มเหลวทางรายได้สุดๆ ก็เถอะ แต่ผมก็อยากดูครับ เพราะลุง Steve Martin ของผมแสดงนำ แล้วยังกำกับโดย Nora Ephron แห่ง Sleepless in Seattle ด้วยครับ มันก็น่าจะไม่แย่จนเกินไปหรอกมั้ง

ลุง Steve ของผม กับบท ฟิลลิป หัวหน้าหน่วยกู้ชีพที่มีหน้าที่คุยโทรศัพท์ปรับทุกข์กับผู้คนที่กำลังลำบาก (เหมือนสายด่วนสุขภาพจิตบ้านเรานี่เองแหละครับ) กับวันคริสต์มาสที่แสนจะวุ่นวาย ตั้งแต่หน่วยของเขากำลังจะถูกปิด แล้วเขายังต้องเจอกับบุคคลแปลกๆ อย่าง คู่สามีภรรยาที่กำลังระหองระแหงกัน (Anthony LaPaglia กับ Juliette Lewis), คุณนายจอมปากจัด (Madeline Kahn), สาวข้ามเพศที่กำลังต้องการกำลังใจ (Liev Schreiber) รวมไปถึงต้องระมัดระวังฆาตกรต่อเนื่องที่กำลังออกอาละวาดอีกด้วย

หนังสมชื่อเรื่องครับ มัน Mixed คนเพี้ยนๆ มารวมกันจริงๆ (Nuts ในทางหนึ่งก็หมายถึงคนเพี้ยนๆ หลุดๆ อะไรประมาณนั้น) มันก็ดูได้เรื่อยๆ ครับ พอจะสนุกสนานได้เพราะตัวละครเพี้ยนๆ แต่ละตัวนั่นแหละ ในขณะที่ลุง Steve ของผมจะไม่ถึงกับเด่นมาก เพราะโดยตัวละครหลากรสหลายสไตล์ขโมยซีนไปหมด อย่าง Schreiber ที่มาเป็นคริส สามข้ามเพศร่างล่ำ พี่เขาแสดงได้ฮาแบบพอเหมาะครับ ที่สำคัญคือเขาทำให้ตัวละครนี้ดูน่ารัก ท่าทางเหนียมๆ แต่มีจริตจะก้าน ซึ่งนี่คือผลงานแสดงหนังโรงเรื่องแรกของเขาด้วยครับ ต้องยกนิ้วให้เลยเพราะแสดงได้ดีจริงๆ แล้วในเรื่องพี่แกยังโดนจีบด้วย คนที่มาจีบก็รับบทโดย Adam Sandler ครับ สมัยนั้นก็ยังไม่ถึงขั้นดังมาก มาเล่นเรื่องนี้ก็ฮาแบบน่ารักอีกเช่นกัน มาพร้อมอูคูเลเล่ประจำกายแล้วก็ร้องเพลง ดูทั้งเพี้ยนทั้งฮาผสมกันแบบพอดีๆ

โดยรวมๆ หนังก็อยู่ในระดับสนุกแบบเพลินๆ น่ะครับ ไมได้ฮาแตกอะไร นี่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะคาดหวังกันซะเปล่าๆ หนังมันพอขำขำน่ะครับ ดูคลายเครียดพอได้ ซึ่งผมว่า Ephron ทำเรื่องนี้ได้ไม่เลวครับ อาจจะไม่ลื่นเท่าสมัยตอนทำหนังโรแมนติก แต่ก็ถือว่าพอได้ ไม่ได้ถึงขั้นแย่แต่อย่างใด

หนังอาจจะติงต๊องบ้าง แต่ผมชอบสาระในตอนท้ายครับที่ลุง Steve ของผมพูดเกลี้ยกล่อมคนที่กำลังหมดอาลัยในชีวิต จนไม่อยากอยู่อีกต่อไป ลุงเขาเลยเกลี้ยกล่อมไปว่าว่า “คุณมัวแต่ใช้กล้องส่องหาสิ่งที่คุณไม่มี … ทั้งๆ ที่คุณมีสิ่งดีๆ อยู่ข้างตัว แต่คุณกลับไม่มองน่ะ” ก็จริงนะครับ ไม่มีใครได้ทุกอย่างสมใจไปซะหมดหรอก

บางครั้งคนเราก็ชอบบอกว่าตัวเราไม่มีไอ้นั่น ขาดไอ้นี่ ฉันไม่มีอย่างที่คนอื่นเขามี แต่เราไม่ยักกะมองว่าเรามีอะไรอยู่บ้าง

หนังเหมือนสอนการมองโลกในแง่ดีน่ะแหละครับ อย่ามัวแต่ไปมองส่วนที่เราขาดเลย เพราะยิ่งเราเห็นว่าเราขาด ใจเราก็ยิ่งขาดตามมัน ความมั่นใจก็พลอยขาดหายไปด้วย เรามามองสิ่งที่เรามีด้วยความรู้สึกดีๆ ก็ไม่เลวนะครับผมว่า

แต่ไม่ได้หมายความว่าให้หลอกตัวเองนะครับ ผมหมายถึงมองอย่างที่มันเป็นจริง มองสิ่งที่เรามีอย่างที่เป็นน่ะ

แต่น่าเห็นใจที่หนังไม่ทำเงินครับ ลงทุน $15 ล้าน ได้มาเพียง $6 ล้าน ก็เข้าเนื้อกันไป – แต่สำหรับผมแล้ว หนังถือว่าใช้ได้ตามแบบของมันครับ

สองดาวกว่าๆ ครับ

Star21

(6.5/10)

Untitle03212