
และแล้วศุกร์ 13 ก็ดำเนินมาถึงภาคที่ 4 อันมีชื่อตอนที่บ่งบอกว่า ตอนนี้จะเป็นตอนจบแล้ว (ซึ่งมันไม่จริงครับ เห็นๆ อยู่)
เรื่องในตอนนี้ว่าด้วยการกลับมาฆ่าคนอีกครั้งของเจสัน วอร์ฮีส์ ในภาคก่อนแกโดนขวานจามกบาลแบะ แต่พี่แกยังอึดครับ ไม่ตาย! แค่สลบไปพักนึง แล้วก็ฟื้นขึ้นมากลางโรงพยาบาล ก่อนจะเดินหน้าตาเฉยกลับมาไล่เสียบวัยรุ่นหนุ่มสาวกันต่อไป แต่คราวนี้ผู้ประสบเคราะห์กรรมไม่ได้มีแค่วัยรุ่นที่มาเที่ยวเท่านั้น มันยังลามไปถึงครอบครัวจาร์วิส ที่ประกอบด้วย คุณแม่ (Joan Freeman), ทริช (Kimberly Beck) ลูกสาว และ ทอมมี่ (Corey Feldman) ลูกชายคนเล็กที่คลั่งไคล้หนังสยองขวัญเป็นที่สุด
และงานนี้เจสันจะโดนกำจัดอย่างไร ต้องลองติดตามครับ
ผมว่าตามจริงแล้ว ทีมงานคงกะจะให้ภาคนี้เป็นตอนจบจริงๆ นั่นแหละครับ เพราะตอนท้ายของเรื่อง พี่เจสันของเราโดนยำเละจนไม่น่ารอดได้อีกแล้วนะครับ ว่าง่ายๆ คือเจสันที่เป็นคนได้ตายไปแล้วในภาคนี้นี่แหละ ส่วนภาคต่อหนังจากนี้พี่เขาเป็นซอมบี้ครับ หาใช่มนุษย์ไม่ 
ผู้กำกับ Joseph Zito ได้นำเอาบรรยากาศแบบ 3 ภาคแรกมารวมกันในภาคนี้ ตั้งแต่บรรยากาศป่าเขา เงาต้นไม้และความเฮ้วของวัยรุ่นแบบ 2 ภาคแรก มารวมกับความโหดสไตล์พี่เจสันที่สวมหน้ากากฮ็อคกี้แบบภาค 3 (ที่ฆ่าคนดะไม่เลือกหัวหงอกหัวดำ) ผลที่ได้ออกมาก็ไม่เลวเลยครับ ผมชอบมากกว่าภาค 3 อีกนะ ส่วนการเดินเรื่องแม้จะตามสูตร แต่ก็รวดเร็วดีไม่น่าเบื่อ

ทีมดารา คนที่พอหน้าคุ้นก็มี Feldman ที่ตอนนั้ยังตัวกะเปี๊ยกอยู่มาเล่นเป็นทอมมี่ ผู้ที่อาศัยความกล้าบ้าบิ่นและฝีมือในการทำเมคอัพมาตะบันกับเจสันในตอนท้าย ซึ่งประเด็นนี้ก็เหมือนกับหนังบอกเป็นนัยๆ น่ะครับ ว่าเด็กหากได้รับความรุนแรงจากสื่อมากเกินไป เด็กคนนั้นก็อาจซึมซับความก้าวร้าวได้ไม่มากก็น้อย ประมาณว่าโหดขึ้น ก้าวร้าวขึ้นอะไรทำนองเนี้ยครับ
อีกคนก็พี่ Crispin Glover ที่ตอนนั้นยังหนุ่มเฟี้ยวเชียว ก็มารับบทเป็นวัยรุ่นสไตล์แปลกๆ ตามสูตรของเขาล่ะครับ ท่าเต้นพี่แกก็บ้าดีเหลือเกิน และบทของเขาก็ดูขี้แพ้หน่อยๆ ซึ่งก็เหมาะกับบุคลิกของเขาดีด้วย คล้ายๆ กับบทจอร์จ แม็คฟลายที่เขาแสดงใน Back to the Future นั่นแหละ
แล้วหนังก็มีตัวละครอย่าง ร็อบ ไดเออร์ (Erich Anderson) ซึ่งเขามาเพื่อตามหาเจสัน เพราะน้องสาวของเขาที่ชื่อแซนดร้าได้โดนมันฆ่าไป ก็ถ้าจำกันได้นะครับ ในหนังภาค 2 จะมีตัวละครสาวน้อยที่ชื่อแซนดร้า ไดเออร์อยู่ (คนที่ผมฟูๆ และผมแอบปลื้มนั่นแหละ) ดังนั้นร็อบก็คือพี่ชายของเธอนั่นเองครับ (มีการผูกเรื่องด้วยแฮะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังเจ๋งอะไรขึ้นหรอกครับ แค่ทำให้เรื่องราวมันต่อเนื่องกันน่ะ)
โดยสรุป หนังภาคนี้นับว่าใช้ได้ครับ เอามาดูต่อกันภาค 1 – 2 – 3 – 4 ยาวๆ ก็มันส์ไปอีกแบบ หากคุณชอบหนังแนวนี้ก็น่าสนใจครับ เพราะผมว่าศุกร์ 13 ที่พอดูได้แบบสนุกจริงๆ ต้อง 4 ภาคแรกนี่แหละ และจริงๆ แล้วพี่เจสันก็มาจบเรื่องราวในตอนนี้ด้วยครับ ตอนอื่นๆ มันเริ่มมาแบบหน้าด้านแล้ว
ส่วนรายได้ก็ยังสวยอยู่ครับ ทำไป $32.9 ล้าน จากทุนราว $2.6 ล้าน
สยองเข้าขั้นดีปิดท้ายเรื่องของเจสันตอนมีชีวิตครับผม
สองดาวกว่าๆ ครับ

(6.5/10)
หมวดหมู่:Horror, Movie Reviews, Slasher Movies










