Movie Reviews

High Crimes (2002) ไฮไครมส์ ลวงเธอให้ตายสนิท

MV5BMTM3MDkyNDMyMV5BMl5BanBnXkFtZTYwMDI3Nzc3._V1_

การที่ Morgan Freemen มาเจอกับ Ashley Judd อีกครั้งหลังจาก Kiss The Girls ก็ให้น่าคิดว่าคราวนี้จะมาไม้ไหน แนวเรื่องจะต่างไปบ้างมั้ย และผลที่ได้คือ มันไม่ได้ต่างจากที่คาดเท่าไห่ครับ กับหนังแนวสืบสวนระทึกขวัญที่ถ้าจำไม่ผิดนี่ช่วงปี 2002 จะเจอบ่อยมากครับ

Judd รับบท แคลร์ คูบิค ทนายสาวมือดีที่มีชีวิตครอบครัวสุขสบาย เพราะเธอได้สามีผู้น่ารักอย่าง ทอม (Jim Caviezel) แต่แล้วจู่ๆ สามีเธอก็ถูกเหล่าทหารมาจับตัวไป เพราะต้องสงสัยในคดีสังหารโหด เธอจึงต้องหาทางแก้ต่างและค้นหาความจริง โดยได้ ชาร์ลส กริมม์ (Morgan Freeman) มาช่วยอีกแรง

ตัวหนังฟังจากบทนี่มาทางเดียวกับ Rules of Engagement เลยครับ และช่วงแรกของหนังก็ไปในแนวทางนั้นจริงๆ ก่อนที่ช่วงครึ่งท้ายหนังจะเข้าข่ายเดินตามรอย Kiss The Girls ไปในที่สุด

มันอาจเป็นความผิดของผมประการหนึ่งล่ะครับที่ชอบหนังแนวทริลเลอร์และดูมาเยอะ ทำให้จับทางรู้มุกอะไรหมด ตัวหนังไม่มีอะไรแปลกใหม่ เดินตามรอยหนังต้นฉบับอย่างที่ผมบ่นไปนั่นแหละครับ เปิดมาก็แนะนำตัวละคร แล้วพอทอมโดนจับแคลร์ก็จับต้นชนปลายไม่ถูก ก่อนจะหาความจริง และเรื่องราวก็มีพลิกผันซักหน่อยเพื่อความตื่นเต้น แต่ปัญหาคือต่อให้มันพลิกก็พลิกได้ไม่กี่ตลบหรอกครับ และแต่ละตลบที่หนังสามารถพลิกได้ ก็โดนหนังเรื่องก่อนๆ ใช้ไปหมดแล้ว ดังนั้นหากท่านไม่คุ้นกับหนังแนวนี้มาก่อนก็อาจจะโอเค แต่ถ้าไม่ล่ะก็ ท่านก็จะเดาได้แม้จะไม่ยากเดาแค่ไหนก็เถอะ

ส่วนด้านนักแสดงก็ไม่มีปัญหานะ ได้มือดีมาอยู่แล้ว Judd ยังดูดีในบทสาวมั่นที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ และเป็นที่พึ่งในคนอื่นก็ได้ แกร่งไม่แพ้ชาย ซึ่งดูเหมือนเธอจะติดภาพลักษณ์นี้ตั้งแต่ Kiss The Girls แล้วล่ะครับ

ส่วน Freeman แม้ฝีมือจะคงเส้นคงวามานานปี แต่ด้วยความที่หนังมันไม่ได้มีอะไรใหม่ และโอกาสก็ไม่ค่อยเปิดให้ลุงเท่าไหร่ เพราะความเด่นไปอยู่ที่ Judd ซะหมด ลุงแกเลยเป็นบทสมทบไป ในขณะที่ Caviezel ก็ตามเคยครับ ติดภาพลักษณ์หนุ่มน่าสงสาร ซึ่งพี่แกก็เล่นตามบทได้น่าพอใจ

จุดหนึ่งที่หนังทำได้ดีคือการเลือกดาราน่ะครับ คือบุคลิกมันเหมาะสม มีภาพลักษณ์ติดตัวเป็นเครื่องหมายการค้ามานาน อย่าง Judd ก็ต้องแกร่ง Freeman ก็ต้องอบอุ่นและมีความรู้คงแก่เรียน ส่วน Caviezel ก็จะดูซื่อๆ ไร้พิษภัย แต่หากจะมองว่ามันเป็นจุดเสียก็ได้น่ะครับ เพราะมันทำให้คนดูที่คุ้นกับฝีมือพวกเขาสามารถเดาทางหนังได้หมด อีกอย่างการทำหนังแนวนี้โดยใช้ดาราที่มักจะเล่นหนังแนวนี้ประจำก็เป็นข้อด้อยอย่างหนึ่ง เพราะเราจะเอาบทของพวกเขาไปเปรียบโดยไม่รู้ตัว และยิ่งในกรณีที่หนังเรื่องหลังทำได้ไม่ถึงด้วยแล้ว ความน่าเบื่อจะโผล่มาทันทีล่ะครับงานนี้

และที่หนังเป็นก็เป็นอย่างนั้นแหละ ดาราบทเดิมๆ กับบทหนังแบบเดิมๆ ผมว่าเราเดาสิ่งต่างๆ ได้นานแล้วล่ะครับ ปมต่างๆ ก็ไม่หวือหวาอะไร จะให้มันหักไปเป็นไซไฟก็ไม่ได้จริงมั้ยล่ะครับ มันหักได้แค่ว่า ทอมฆ่าหรือไม่ฆ่าเท่านั้นเอง ส่วนเนื้อในก็ต้องมาแนวนี้ครับ ต้องมีฉากภาคบังคับอย่าง นางเอกจะโดนคุกคามเพราะดันไปสะดุดตอเข้า แต่ยังไงก็รู้อีกว่า นางเอกจะเจอภัยนักหนาแค่ไหน แต่หากหนังยังไม่ถึงนาทีสุดท้าย นางเอกไม่มีทางตายอย่างแน่นอน

ผมเลยไม่รู้จะตื่นเต้นตรงไหนดี

เรื่องการสู้คดีแก้ต่างในศาลก็ธรรมดา ไม่มีลุ้น เหมือนกับแค่พูดๆๆ ผลสรุปของเรื่องออกมาแบบตามคาด ใครทำผิดก็ต้องรับกรรมไป ไม่มีพลิกโผ

ผู้ที่ทำหน้าที่กำกับหนังก็คือ Carl Franklin (Devil in a Blue Dress และ One True Thing) ก็อย่างนั้นแหละจ้า ผมว่าเรื่องอื่นๆ ของแกยังโอเคกว่าครับ

สรุปว่าหนังธรรมดาครับ ไม่ตื่นเต้น ไม่เร้าใจ ไม่ลับสมองเท่าไหร่ เป็นแนวสืบสวนทริลเลอร์แบบเดิมๆ ที่ไม่มีแอ็คชั่นนะครับ ก็น่าเสียดายเหมือนกัน แต่ว่าตามจริงผมลองมานั่งคิดๆๆๆ ก็ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะทำให้หนังออกมารสชาติแตกต่างไปยังไง สรุปลงท้ายก็แอบเห็นใจคนทำอยู่เหมือนกัน

ในแง่รายได้ก็ตามคาดครับ ทำไป $63 ล้านจากทั่วโลก แต่ทุนอยู่ที่ $42 ล้านครับ หนังเลยติดตัวแดงไปตามระเบียบ

สองดาวไม่เกินนั้นครับ

Star21

(6/10)

ใส่ความเห็น

เว็บนี้ใช้ Akismet เพื่อลดสแปม. เรียนรู้ว่าข้อมูลแสดงความเห็นของคุณถูกประมวลผลอย่างไร.