มันก็แปลกดีนะครับ คือหากลองมาเทียบเปรียบวัดระหว่างพี่ Jean-Claude Van Damme กับ Steven Seagal ซึ่งตอนนี้ก็สาละนเตี้ยลงไปพอๆ กันแล้วน่ะนะครับ แต่หากลองเทียบสไตล์งานและผลงานแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าพี่ Seagal แกมีงานที่โอเคเยอะกว่า ดูสนุกเยอะกว่าพี่ Van Damme
แต่ถ้าหากเทียบกันด้วยการแสดง ผมกลับเห็นว่าพี่ Van Damme แกเหนือกว่าพี่ Seagal มากหลายช่วงตัวนะครับ แสดงหนังได้ลื่นกว่า การออกท่าลีลาต่อสู้ก็ดูเหมือนจะมีลีลาหลากหลายกันกันเยอะเลย
ก็ถือว่าเป็นความแตกต่างนะครับ จุดเด่นของแต่ละคนย่อมต่างกันไป และสำหรับเรื่องนี้สไตล์หนังนะครับจะว่าไปมันก็ออกแนว Die Hard หรือ Undersiege อะไรเทือกนั้น สไตล์พระเอกหนึ่งแต่ต้องรับมือกับผู้ก่อการร้ายที่เข้ายึดสถานที่ซักแห่งหนึ่งน่ะครับ
พี่ Van Damme รับบทดาร์เรน แม็คคอร์ด นักดับเพลิงมือดีที่พาลูกๆ สองคน อันประกอบด้วย เอมิลี่ (Whittni Wright) และไทเลอร์ (Ross Malinger) มาดูการแข่งขันฮ็อคกี้กันสนุกๆ แบบพ่อลูก ซึ่งการแข่งงวดนี้ก็ใหญ่โตพอควรล่ะครับ เพราะถึงขนาดมีแขกพิเศษเป็นท่านรองประธานาธิบดี (Raymond J. Barry) มาชมเลยล่ะ
แต่แล้วเหตุการณ์อันตรายก็เริ่มครับ เมื่อวายร้ายมาดดีอย่างโจชัว ฟอส (Powers Boothe) ได้ยกพวกมาจับตัวท่านรองเอาไว้ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ และถ้าหากมันไม่ได้ตามประสงค์ล่ะก็ โดมแข่งฮ็อคกี้ที่จุผู้คนไว้เป็นพันเป็นหมื่นคนก็จะระเบิดทันที!
ดังนั้นดาร์เรนก็ต้องหาทางแก้สถานการณ์เพื่อปกป้องลูกทั้งสองของเขาแล้วก็ประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกด้วยครับ
วันนี้ก็เพิ่งไปเห็นแผ่นนะครับ Catalyst ทำออกมาอีกแล้ว ซึ่งถ้าพูดถึงงานหนังเรื่องนี้จัดว่าเป็นหนังแอ๊คชั่นที่สนุกและดีเป็นเรื่องต้นๆ ของพี่ Van Damme เขาเลยครับ สาเหตุที่มันเด็ดก็คงเพราะมันเดินรอยตาม Die Hard อยู่ แล้วสูตรแบบนี้มันออกจะดีอยู่แล้วน่ะครับ พระเอกต้องมารบกับพวกผู้ร้ายแบบซุ่มๆ ซ่อนๆ นะครับ คือผู้ร้ายมันยึดที่ไหนซักแห่งเพื่อการใดซักอย่าง แล้วพี่พระเอกของเราก็ต้องมีอันไปอยู่ที่นั่น แล้วก็หาทางช่วยคนที่ตนรักนะครับ โดยการไล่ล่าฆ่าพวกผู้ร้ายทีละคน (ไม่สามารถเดินไปไล่ยิงแบบ The Matrix ตอนท้ายได้ครับ ขืนทำแบบนั้นล่ะตายหยั่งเขียด) ก่อนจะหาทางช่วยตัวประกันและช่วยคนที่รัก แล้วก็เล่นงานเจ้าหัวหน้าวายร้ายให้ตายอย่างสาสม (และสูตรอีกอย่างคือ ไอ้หัวหน้าที่ว่านี่ต้องตายแบบระเบิดรุนแรงครับ หรือไม่ก็ตกจากที่สูง ประมาณว่าใหญ่เลยต้องตายดังกว่าลูกน้อง อะไรทำนองนั้น)
แม้จะเป็นสูตร แต่ถ้าทำดีล่ะสบายครับ และเรื่องนี้ก็จัดว่าเข้าข่ายโอเค แม้จะได้เด็ดจนต้องดูซ้ำเท่า Die Hard แต่ก็จัดว่าดูได้แบบเพลินๆ เลยครับ มีลุ้นดี อันนี้ถือว่าพี่ Van Damme แกก็โชคดีล่ะครับ หนังมันขายอยู่แล้ว พี่แทบไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะคนเขียนบทแล้วก็ผู้กำกับเขารู้งานดี คือถ้าไปเจอคนไม่รู้งานหนังก็คงแย่น่ะครับ แต่อันนี้หนังค่อนข้างดี ผมเลยต้องชมหน่อย
งานนี้กำกับโดย Peter Hyams ที่ก่อนจะมาทำเรื่องนี้เขากับพี่ Van Damme ก็กอดคอกันดังมาแล้วจาก Timecop นะครับ อันนั้นก็สนุกเหมือนกัน แต่คนละแบบนะครับ อันนั้นมันออกแนวไซไฟแอ๊คชั่น เนื้อเรื่องจะซับซ้อนกว่าหน่อย ส่วนอันนี้ดูง่ายครับ แอ๊คชั่นแบบตีไปเรื่อยๆ สบายๆ มีลุ้นเรื่อยๆ แม้จะมีน่าเบื่อบ้าง แต่อย่างน้อยก็พูดได้ว่าเป็นหนังที่พี่ Van Damme แกใช้สมองหน่อยล่ะครับ เรื่องกอ่นๆ ใช้แต่กำลัง
ดังนั้นความดีความชอบโดยรวมๆ ผมอยากจะให้ Peter Hyams เขามากกว่าครับ เพราะหนังมันออกมาลื่น ในขณะที่การแสดงของพี่ Van Damme น่ะไม่ได้น่าจดจำอะไรหรอก เพียงแต่บทที่เขาได้มันโอเคเท่านั้นเอง
ก็ถ้าใครชอบนะครับ หนังแอ๊คชั่นแบบจับตัวประกันแล้วก็ต้องให้พระเอกย่องไปช่วย อันนี้เข้าทางเลยครับ แต่ความดีความเด่นมันก็ไม่เท่า Die Hard หรอกนะครับ แต่ก็ไม่ผิดหวัง ดูได้ครับ
สองดาวกว่าๆ จ้า
(6/10)
หมวดหมู่:Action, รีวิวหนัง/ภาพยนตร์