Action

The Living Daylights (1987) 007 พยัคฆ์สะบัดลาย

1359828219

เมื่อ Roger Moore อำลาบทเจมส์ บอนด์แบบแน่นอนไปแล้ว การสรรหาดาราหนุ่มคนใหม่มาสวมวิญญาณสายลับ 007 ก็เริ่มต้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้คนที่ได้รับการทาบทามเป็นหมายเลข 1 คือ Timothy Dalton ที่ Albert R. Broccoli อยากให้มาแสดงเป็นบอนด์ตั้งแต่สมัย On Her Majesty’s Secret Service (ปี 1969 โน่นน่ะครับ) แต่ Dalton เป็นคนปฏิเสธเพราะคิดว่าตนหนุ่มเกินไปสำหรับบทพยัคฆ์ร้ายบทนี้

มาตอนนี้เขาแก่พอแล้วครับ เล่นได้แน่นอน แต่ทว่าก็มีอุปสรรค เนื่องจากเขาดันติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Brenda Starr คู่กับ Brooke Shields อยู่พอดี

หลังจากนั้นชื่อดาราเจ้าอื่นก็เลยถูกลิสต์ขึ้นเพื่อให้ทีมงานคัดตัว ได้แก่ Sam Neill, Mel Gibson, Mark Greenstreet, Lambert Wilson, Antony Hamilton, Findlay Light, Andrew Clarke และ Sean Bean แต่ก็ไม่มีใครเข้าตากรรมการ จนชายคนหนึ่งเดินเข้ามา …นามของเขาคือ Pierce Brosnan

Brosnan นับว่ามาแรงซิวบทบอนด์ในทันที ซึ่งจังหวะนับว่าเหมาะพอดีครับ เพราะอันที่จริงเขาติดสัญญาต้องแสดงซีรี่ส์ Remington Steele ให้ NBC อีก 3 ปี แต่ปรากฏว่าเรตติ้งซีซั่น 4 ที่ผ่านมาไม่ดีเท่าไร NBC เลยสั่งเลิกสร้าง ทำให้เขาว่างมาแสดงเป็นบอนด์ พร้อมทั้งเซ็นสัญญากับ Broccoli เรียบร้อย

1359830124

แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อ NBC เปลี่ยนใจอยากทำ Remington Steele ปี 5 ต่อ แต่ก็สัญญากับ Brosnan ว่าจะยอมให้เขาเล่นหนังบอนด์ไปด้วยได้ แต่คนที่ไม่ตกลงกลายเป็น Broccoli ที่ยืนกรานว่าถ้า Brosnan ต้องแสดงทั้งสองบท ก็ขอเลิกสัญญาดีกว่า เพราะเขาไม่อยากให้คนดูเห็น Brosnan แสดงสองบทในเวลาเดียวกัน ยิ่งบทออกแนวแอ็กชันปราบทรชนเหมือนกันแล้วก็ยิ่งจะส่งผลกระทบต่อหนังไปใหญ่ ว่าง่ายๆ คือกลัวคนดูจะไม่สนใจไปดูบอนด์คนใหม่ในโรง ในเมื่อเขาก็แสดงบทคล้ายๆ กันให้ดูฟรีทางทีวีอยู่แล้ว

ในที่สุด Brosnan ก็กลับไปถ่ายทำซีรี่ส์ ทำให้เก้าอี้บอนด์ว่างลงไปอีก แต่นับว่าประจวบเหมาะครับ เพราะตอนนั้น Dalton ถ่ายทำ Brenda Starr เสร็จพอดี งานนี้ Broccoli เลยไม่รอช้า จับ Dalton มาเขย่าตัวถามชัวร์ๆ ว่าไม่ไปติดหนี้กรรมกับหนังหรือซีรี่ส์เรื่องไหนอีกแน่นะ ถ้าไม่ติดก็เซ็นสัญญาเป็นบอนด์ได้เลยทันทีโดยไม่ต้องเลือกใครอีก และเขาก็ตกลงมาแสดงเป็นบอนด์ครับ

ส่วน Brosnan เลยพลาดบทบอนด์ไปแบบน่าเสียดาย เพราะตกลงว่า Remington Steele ถ่ายปี 5 ต่อก็จริง แต่ถ่ายไปเพียง 5 ตอน NBC ก็เปลี่ยนใจให้เลิกสร้างซีรี่ส์นี้แบบถาวรเลย ไม่รู้ Brosnan ทำหน้ายังไงนะครับเมื่อถึงตอนนั้น

ด้านบทภาพยนตร์ก็คู่หูคู่เดิม Richard Maibaum และ Michael G. Wilson มาร่วมกันสร้างเรื่องราว โดยตอนแรกมีการตั้งใจว่าจะให้บอนด์ภาคนี้เป็นภาค “ก่อนหน้า” บอนด์ทั้งหลาย กล่าวคือจะทำเป็นภาค Beginning นั่นล่ะครับ แต่สุดท้ายก็เขียนเรื่องราวให้ดำเนินแบบกึ่งๆ ก่อนหน้า กึ่งๆ ภาคต่อไป

1359830160

และหลังจากภาคก่อนเนื้อหาอ่อนจนส่วนคนใหญ่ส่ายหน้า ภาคนี้จึงมาพร้อมเนื้อหาซับซ้อนและจริงจังยิ่งขึ้น โดย เจมส์ บอนด์ (Dalton) มีหน้าที่ไปรับตัวนายพลจอร์จี้ คอสคอฟ (Jeroen Krabbé) KGB ที่แปรพักตร์มาเข้ากับอังกฤษเพื่อเปิดเผยข้อมูลของแผนการณ์ Smert’ Spionam หรือการสั่งเก็บสายลับ อันเป็นแผนของนายพลเลนนิด พุชกิน (John Rhys-Davies) แห่งรัสเซียที่หมายจะลองสังหารสายลับอังกฤษและอเมริกันให้มากที่สุด เพื่อจุดชนวนให้เกิดข้อพิพาทอันจะส่งผลให้เกิดสงครามโลกตามมา

แต่สงครามครั้งนี้ชาติตะวันตกจะเสียเปรียบ เพราะเมื่อสายลับโดนเก็บไปจำนวนมากก็เท่ากับหูตาที่ยื่นเข้ามาสังเกตการณ์ในแดนอื่นจะหมดไป ชาติตะวันตกก็จะไม่ต่างอะไรกับคนตาบอด ในขณะที่รัสเซียซึ่งยังมีสายลับอยู่ก็จะกระจายไปให้ทั่วเพื่อจับตาคอยวันที่จะถล่มชาติมหาอำนาจตะวันตกให้หมดท่า

เป็นแผนการณ์ที่ใหญ่ทีเดียวครับ บอนด์เลยต้องหาทางสืบหาปมต่างๆ อันนำเขาไปพบกับ คาร่า มิโลวี่ (Maryam d’Abo) นักเชลโล่สาวที่เหมือนจะเป็นเบาะแสแรกที่ดีที่สุด ที่จะนำพาบอนด์ไปสู่ความจริงที่ซ่อนอยู่เบื่องหลังแผนลอบสังหารสายลับอันนี้

การสวมบทบอนด์ของ Dalton ถือว่าสมใจคอหนังที่ชอบสไตล์จริงจังแบบสายลับขนานแท้ ในขณะที่แฟนๆ บอนด์อีกกลุ่มที่ติดภาพลักษณ์บอนด์แบบอารมณ์ดีและมีอุปกรณ์เพียบ ก็รู้สึกว่าบอนด์คนนี้ดูจริงจังกับชีวิต เจ้าคิดเจ้าแค้นมากเกินไปหรือเปล่า เพราะหลายครั้งที่บอนด์แสดงอารมณ์ออกมาค่อนข้างแรง

1359830199

แต่ถ้าวัดกันจากกระแสส่วนใหญ่ก็จะเป็นในทางบวกนะครับ เนื่องจากบอนด์จริงๆ ตามนิยายจะค่อนข้างจริงจังกระเดียดไปทางโหดด้วยซ้ำ (สไตล์เดียวกับ Daniel Craig น่ะแหละ) แต่ Dalton ก็ไม่ได้ทำให้บอนด์ภาคนี้เครียดเว่อร์เกินไป ยังพอมีอารมณ์ขันหยอดลงมา แล้วเนื้อหายังเข้มข้นสนุกสนาน มีการพลิกผันตลอดอีกต่างหาก อย่างผมเองก็ถือว่าเขาไปได้ไม่เลวกับบทบอนด์ครับ ซึ่งก็ต้องชื่นชมบทหนังด้วยที่เขียนออกมาได้เข้มข้น น่าติดตาม มีปมปริศนาให้ตามสืบกันเรื่อยๆ

คนดูโดยมากพากันเปิดใจรับบอนด์คนใหม่ โดยตีตั๋วเข้าไปอุดหนุนทั่วโลกรวมกันมากถึง $191 ล้าน สมศักดิ์ศรีบอนด์ครับ ส่วนดาราสมทบรายอื่นในเรื่องก็แสดงได้ดี นอกจากที่ผมกล่าวไปแล้วก็ยังมี Joe Don Baker มาเป็นแบรด วิเทเกอร์ พ่อค้าอาวุธบ้าสงครามที่มีส่วนกับแผนการณ์นี้แบบที่ไม่มีใครรู้ และ Art Malik ในบทคัมราห์น ชาห์ ผู้นำกลางทะเลทรายที่มีบทบาทมากในช่วงหลังๆ

Robert Brown ยังคงกลับมารับบท M, Desmond Llewelyn ก็กลับมาเป็น Q, Geoffrey Keen ก็มาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และ Walter Gotell ก็ย้อนมารับบทนายพลโกกอลแห่งรัสเซียเป็นการส่งท้าย ซึ่งแรกเริ่มเดิมที นายพลโกกอลจะเป็นตัวละครที่มีบทบาทมากๆ ในภาคนี้ครับ แต่เนื่องด้วยสุขภาพของ Gotell ไม่ค่อยดีนักในตอนนั้น ทำให้ทีมงานตัดสินใจลดบทนี้ลงเหลือเพียงรับเชิญนิดๆ ในตอนท้ายแทน

และบทมิสมันนี่เพนนีก็ได้สาวคนใหม่มาแสดง เธอคือ Caroline Bliss ดาราสาวชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงจากบทเจ้าหญิงไดอาน่า ในหนังทีวีปี 1982 เรื่อง Charles & Diana: A Royal Love Story ซึ่งสำหรับบทนี้เธอก็เล่นได้แบบนิ่มๆ ครับ เพียงแต่อาจไม่สนุกสนานน่าสนใจเท่ากับที่ Lois Maxwell เคยทำไว้

1359830246

เป็นภาคที่สนุกไม่น้อยครับ เนื้อเรื่องเข้มข้นซับซ้อน มีฉากแอ็กชันที่มันส์ตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้าย ต้องขอชมทีมงานที่ตัดสินใจลดอัตราอารมณ์ขันลง แล้วใส่สูตรสำเร็จข้นๆ แบบ For Your Eyes Only ลงไปเยอะๆ ผลที่ได้เลยกลมกล่อมอย่างที่เห็น

สองดาวครึ่งบวกๆ ครับ

Star22

(7.5/10)

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.