Action

Spy Kids 3D: Game Over (2003) พยัคฆ์ไฮเทค 3 มิติ

Spy-Kids-3-D-Game-Over-2003

ตอนที่ 3 ของหนังชุดนี้ ลงเอยด้วยการทำเป็น 3 มิติครับ กับ Spy Kids 3D: Game Over ก็ตอบสนองตัณหาพี่ Robert Rodriguez กันต่อไปล่ะครับ

ภาคนี้เปิดเรื่องมา จูนิ คอร์เตซ (Daryl Sabara) ลูกชายคนเล็กของตระกูลคอร์เตซ ได้ตัดสินใจออกมาทำงานเป็นนักสืบเอกชนครับ เพราะเกิดมีปัญหาไม่เข้าใจกับทางบ้านและองค์กรสายลับ (อันนี้ถือว่าล้อหนังแนวตำรวจของผู้ใหญ่ครับ ส่วนมากมักจะเปิดเรื่องแบบเนี้ย ตัวเอกต้องมีปัญหากับอะไรสักอย่าง จนต้องออกมาทำงานเองโดยไม่มีสังกัด)

แต่แล้วเขาก็ได้รับการติดต่อให้ไปช่วยคาร์เมน (Alexa Vega) พี่สาวของเขาในโลกแห่งวีดีโอเกมที่สร้างขึ้นโดยจอมวายร้าย ทอยเมคเกอร์ (Sylvester Stallone) ที่ต้องการจะทำให้เด็กทั้งโลกติดเกมจนไม่เป็นอันทำอะไร โอ้ ไม่ได้แล้วครับแบบนี้ จูนิเลยต้องกลับมารับงานสายลับจิ๋วอีกครั้ง ทำให้การผจญภัยแบบ 3 มิติเริ่มต้นขึ้น!!

เอาล่ะ ขอพูดตามตรงเลยนะครับ … หนังอ่อนครับ บทอ่อนเหลือเกิน แต่หนังมามีดีตรง CG และสารพัด Effect ซึ่งถ้าประเมินจากทุนสร้าง $38 ล้านแล้วก็ต้องถือว่าทำออกมาได้ดีอยู่ครับ เพราะการผจญภัยหนนี้เข้าไปสู้ไปล่ากันในโลกแห่งเกม แต่ก็แอบเสียดายหน่อยๆ เหมือนกัน เพราะนี่คือหนังปิดไตรภาคน่ะครับ ถ้าทำออกมาแบบชวนให้ประทับใจเชิงเนื้อหามันน่าจะน่าจดจำนะ (แบบที่ Austin Powers ทำครับ แม้ภาค 3 จะไม่ได้ซึ้งจัดๆ แต่ก็จบได้ประทับใจกว่าที่คาดคิด) และไหนๆ หนังก็เน้นประเด็นเรื่องครอบครัวมาตลอด ถ้ามันจบลงด้วยเรื่องครอบครัวแบบซึ้งๆ ก็คงจะดีน่ะครับ ซึ่งเอาเข้าจริงหนังก็พยายามจบด้วยประเด็นครอบครัวอยู่เหมือนกันนะ แต่มันออกจะเป็นอะไรที่เบาๆ และเจือจางยังไงก็ไม่รู้ซี – แต่ก็เอาเถอะครับ ต้องเคารพการตัดสินใจของพี่ Robert เขาน่ะนะครับ ก็ทำออกมาแล้วนี่

ผมเคยคิดเล่นๆ แบบขำๆ ครับว่าการที่หนังภาคนี้เนื้อหาไม่ซับซ้อนและค่อนข้างอ่อน อาจเพราะหนังทำเป็น 3 มิติ คนดูต้องใช้สายตาเยอะพออยู่แล้ว บทก็เลยไม่หนักมากเพื่อที่คนดูจะได้ไม่ต้องใช้สมองให้หนักจนเกินไป เดี๋ยวใช้ทั้งสมองและใช้ทั้งตาพร้อมกันเดี๋ยวมันจะอ่อนล้าและพามึน 555

ครับ แม้ผมจะเสียดายอยู่บ้างในแง่เนื้อหา แต่อย่างน้อยก็งานด้านภาพก็เวิร์กอยู่ครับ การผจญภัยในโลกของเกมก็ดูได้เรื่อยๆ แบบพอเพลิน และดาราก็ยังเล่นได้ดี ภาคนี้จูนิ (Sabara) จะได้รับบทนำที่เด่นกว่า ซึ่งหลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมบท คาเมน (Vega) ถึงน้อยมากจนแทบจะไม่โผล่เลย นั่นก็เพราะว่าคอนเซปต์ของ Spy Kids นั้น ตัวเอกก็ต้องเป็นสายลับเด็กๆ ครับ และพอดีบทคาเมนนั้นอายุอานามถือว่าเลยวัยนั้นไปแล้ว (เป็น Spy Teens ไปแล้วน่ะครับ ว่างั้นเถอะ) ความเด่นเลยมาตกเป็นของ จูนิแทน และนั่นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทีมงานตั้งใจจะจบหนังชุด Spy Kids ลงที่ภาคนี้ เพราะดารานำในเรื่องเลยวัยไปหมดแล้วน่ะครับ – ผมก็นั่งคิดเล่นๆ ไม่ทำ Spy Teens ออกมาซะเลยล่ะถ้างั้น

ว่ากันโดยรวมๆ ดาราก็แสดงกันได้ดีครับ แต่บทอาจจะอ่อนมากไปหน่อย มันจะไปเน้นเทคนิค 3 มิติเสียมากจนอดเสียดายไม่ได้ ภาคนี้เลยเหมาะสำหรับเด็กแบบเต็มๆ น่ะครับ ผู้ใหญ่ดูอาจจะเฉยๆ นะครับ ก็ต้องเผื่อใจไว้หน่อย

และอาจจะเพราะหนังมันพร่องเนื้อหา หนังก็เลยมีความพยายามจะเพิ่มลูกเล่น อย่างดารารับเชิญเป็นต้นครับใส่ลงมาเพียบเลย ไม่ว่าจะตัวละครเก่าๆ จากภาคที่แล้ว เรื่อยมาจนถึงพี่ Sylvester Stallone ของผมก็ถือว่าเข้าท่านะ เป็นวายร้ายที่ฮาใช้ได้ แม้จะไม่ถึงกับขโมยซีน แต่พี่แกก็เล่นได้บ้าดี (โดยเฉพาะตัวพี่แกในร่างต่างๆ น่ะ) แล้วยังมีบทรับเชิญที่คาดไม่ถึงอีก เป็นใครก็ลองไปดูครับ อย่างคนที่เป็น The Guy (คนในคำทำนายที่ว่ากันว่าจะสามารถพิชิตเกมนี้ได้) นั่นเป็นต้น ออกมาฉากเดียว แต่ก็เอาฮาได้ไม่น้อยเหมือนกัน

แต่เชื่อว่าหลายคนน่าจะจดจำ Courtney Jines ในบทเดมิตร้าได้ เสียดายที่เธอไม่ค่อยมีผลงานออกมาสักเท่าไร ในระยะหลังก็ไปเล่นหนังสั้นเสียส่วนใหญ่ แต่ในแง่การแสดงผมว่าเธอก็ทำได้ไม่เลวครับ (ทั้งในเรื่องนี้และในผลงานตอนโตแล้ว)

และหนังภาคนี้ก็กลายเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จสูงสุดครับ ทำเงินทั่วโลกไป $197 ล้าน คาดว่าคงเพราะหนังเป็น 3 มิติด้วย คนเลยให้ความสนใจค่อนข้างมากครับ – และถ้าระลึกถึงตอนดูเป็นเวอร์ชั่น 3 มิติ มันก็เพลินอยู่เหมือนกันแหละ – และอาจเพราะหนังทำเงินมากมาย หนังชุด Spy Kids เลยไม่ยอมจบลงที่ภาคนี้ครับ ยังคงมีภาคต่อตามออกมาอีกจนได้ แต่สำหรับผมแล้ว Spy Kids มีแค่ 3 ภาคครับ

ผมว่าพี่ Robert พอทำไตรภาคนี้จบก็น่าสมหวังแล้วครับ ได้ทำตามความฝัน ได้ปลดปล่อยจินตนาการแบบเต็มๆ และการที่ผมได้ดูหนังไตรภาคทั้ง 2 ชุดของเขา (ชุดนี้ กับชุด El Mariachi) นี่ก็ทำให้ผมรู้จักด้านต่างๆ ของพี่เขาเยอะอยู่เหมือนกัน และในเรื่องนี้พี่เขาก็ควบเก้าอี้ถึง 8 ตำแหน่งครับ ได้แก่ เขียนบท, กำกับ, อำนายการสร้าง, โปรดักชั่น ดีไซเนอร์, ตัดต่อ, กำกับภาพ, ร่วมแต่งดนตรี และ Visual Effects Supervisor ด้วย – ขยันแท้ครับพี่

เกร็ดสนุกๆ ที่อยากเอามาเล่าก็คือ หนังได้รับการบันทึกว่าเป็นการปรากฏตัวบนจอเงินเป็นครั้งแรกของ Selena Gomez ครับ (เธอโผล่ตอนต้นเรื่อง เป็นคนที่จ้างให้จูนิสืบเรื่องสวนน้ำน่ะครับ)

ก็สองดาวนะครับพี่ Robert

Star21

(6/10)

Untitled04500