Action

Warcraft (2016) วอร์คราฟต์ กำเนิดศึกสองพิภพ

52500-warcraft-0-230-0-345-crop

ผมเคยแตะเกมนี้เพียงไม่กี่หนครับ ยอมรับว่าสนุกและมีเอกลักษณ์ดีทีเดียว แต่ถึงผมจะไม่ได้ถึงขั้นแฟนพันธุ์แท้ ผมก็รู้ล่ะว่าความดังของมันมหาศาลขนาดไหน

พอเอามาทำเป็นหนังแล้ว ถือว่าน่าพอใจเลยนะครับ ดูสนุก เพลินดีไม่น้อย แม้จะไม่ถึงกับสุดยอด แต่ก็เป็นหนังแอ็กชันแฟนตาซีที่ทำได้เข้าท่ามากเรื่องหนึ่ง

พล็อตถือว่าไม่ซับซ้อน ว่าด้วยสองเผ่าพันธุ์ หนึ่งคือมนุษย์ และอีกหนึ่งคือออร์ก ที่จำต้องมาห้ำหั่นกันเพื่อความอยู่รอด แต่ในที่สุดแล้วก็มีคนตระหนักว่าการจะอยู่รอดได้อย่างแท้จริงนั้น มันต้องหาทางออกแบบสมานฉันท์ มิใช่ทำสงครามเข่นฆ่ากัน

พล็อตถือว่าเก่าครับ แต่พอเอามาเล่าใหม่ก็จัดว่าโอเคเลย ผมชอบที่บทหนังมีการเกลี่ยความเด่น และอธิบายความคิดของตัวละครหลักๆ ได้อย่างดี คือดูแล้วรู้น่ะครับว่าใครคิดอะไร และทำไมถึงคิดเช่นนั้น ซึ่งก็ดูสมเหตุผลดี

ในแง่แอ็กชันถือว่าไม่เลวครับ คือไม่ถึงกับมันส์หรือเร้าใจโคตรๆ แต่ก็ไม่จืดชืด และสำหรับผมนั้น ผมชอบที่ได้เห็นตัวละครยิงพลังเวทย์แบบหนักๆ น่ะครับ ประเภทว่าซัดเป็นสายฟ้าหรือวาดพลังรอบตัว ถือว่าละลานตาใช้ได้อยู่

มันถือเป็นความฝันของคอเกมอย่าง ผมนะ คือตั้งแต่สมัยเล่นเกมแบบ Final Fantasy หรือ Dragon Quest เราจะเห็นคาถาในเกม มันก็เร้าใจแล้วนะ แต่ก็แอบจินตนาการมาตลอดว่าถ้ามันได้เห็นแบบจัดเต็มในหนังคนแสดงจริงๆ น่ะ มันจะสะใจแค่ไหน ซึ่งกับเรื่องนี้ก็ถือว่าสะใจพอดูครับ แม้จะไม่ถึงกับร่ายเวทย์ปะทะกันแบบเต็มๆ แต่ก็ถือว่าแสงสี Effect กระตุ้นสายตาได้ดี

หนังดูเพลินครับ สนุกดี แต่ก็ไม่ยัง “สุดๆ” ไม่ว่าแอ็กชันที่ยังไม่ถึงกับจัดเต็ม, ความอลังการที่จริงๆ ฉากนับว่าอลังนะครับ แต่อารมณ์ตอนรบหรือตอนท้าย มันกลับยังไม่ถึงขั้นจะดึงอารมณ์ให้สัมผัสถึงความอลังการได้ หรือตอนท้ายที่มีฉากบู๊ ที่ถือว่าเป็นไคลแม็กซ์นะ แต่ผลที่ได้ก็ยังไม่สะใจสักเท่าไร

จริงๆ ก็คิดอยู่แล้วครับว่าภาคนี้คงยังไม่จัดหนัก และหนังอาจยังไม่เล่นอะไรมากนัก เพราะนี่เป็นแค่ภาคแรก คงเก็บของดีๆ กว่านี้ไว้เล่นในภาคต่อ – ซึ่งก้ไม่รู้ว่าจะมีมาเมื่อไร

ในแง่รายได้จริงๆ ก็ไม่ได้แย่ครับ ลงทุน $160 ล้าน ได้คืนมา $439 ล้านจากทั่วโลก เพียงแต่ว่ามันยังไม่ถือว่าสวยงามในสายตาคนสร้างเท่านั้นแหละ

อย่างที่บอกครับว่าโดยรวมหนังทำได้ดี เพียงแต่ยังไม่เจ๋งหรือยังไม่เด่นมาก Duncan Jones ที่รับหน้าที่กำกับก็ถือว่าคุมหนังได้ดีครับ พวกฉากดราม่าหรือฉากสนทนาผมว่าดูน่าสนใจนะ แต่ฉากบู๊อาจยังไม่ดึงดูดเท่าไร ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะก่อนหน้านี้พี่แกทำแต่หนังไซไฟระทึกขวัญ นี่เป็นครั้งแรกที่มาจับหนังแฟนตาซีบู๊แบบเต็มตัว

สรุปว่าหนังมีส่วนที่ดีมากกว่าไม่ดีครับ ถือเป็นหนังที่คอเกมน่าจะพอใจ และคอหนังแอ็กชันแฟนตาซีก็อาจจะสนุกเพลินกับมันได้ในระดับหนึ่ง ^_^ ใจจริง อยากให้มีภาคต่อครับ

ปล. ดีใจนะเนี่ยที่พี่ Uwe Boll ไม่ได้กำกับ 555

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)