Equilibrium เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของหนังแอ็คชั่นที่มีเนื้อหาเข้ม การแสดงข้น และลีลาการบู๊ก็น่าจดจำ แม้จะมีบู๊กันจริงๆ จังๆ เพียงไม่กี่ฉากก็ตาม

หนังว่าด้วยโลกแห่งอนาคต ที่ๆ คนไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ เพราะทุกคนต้องกินยาระงับความรู้สึกครับ และหากใครไม่ทำตามกฎก็จะมีนักบวชและเจ้าหน้าที่คอยปราบปราม และ จอห์น เพรสตัน (Christian Bale) คือมือปราบยอดฝีมือที่ทำงานไม่เคยพลาด แต่แล้ววันหนึ่งเขาเกิดไม่ได้กินยาครับ เขาจึงเริ่มสัมผัสกับความรู้สึกต่างๆ ของมนุษย์ และเขานี่แหละที่จะกลายมาเป็นผู้ปลดปล่อยให้มวลมนุษย์ได้กลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง

หนังน่าติดตามครับ การเดินเรื่องถือว่าพอเหมาะ พล็อตอาจจะเดิมๆ อยู่บ้างที่ว่าด้วยโลกอนาคตที่มนุษย์ถูกควบคุมโดยกลุ่มอำนาจที่ออกแนวเผด็จการ แต่การเล่าเรื่องจัดว่ามีพลัง และแน่นอนว่าพลังสำคัญเลยก็คือ Bale ครับ พี่เขาแสดงได้ดีจนเราอยากตามดูไปเรื่อยๆ ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ และตัวละครนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง มิหนำซ้ำยังเท่ห์เหลือขนาด และที่สำคัญเลยคือแววตาที่แทบจะเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาครับ เล่นเรื่องไหนดีเรื่องนั้น ลองจ้องตาพี่เขาดูในแต่ละบทบาทสิครับ เขาสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีจริงๆ

ส่วนคิวบู๊ก็จัดว่ามาน้อย แต่มาทีไรเด็ดทุกที เป็นลีลาการบู๊ที่ผสมผสานทั้งตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันอย่างลงตัวสุด เอาแค่ฉากยิงปืนนี่ก็เท่ห์โคตรๆ แล้วครับ คือ ตามปกติ ยิงปืนนี่ เขาต้องเล็งแล้วก็ยิงออกไปใช่มั้ยครับ แต่กับเรื่องนี้ ลีลาการยิงปืนมันเหมือนกับการออกหมัดครับ แล้วคิดดู ถือปืน 2 มือ แล้วยิงปืนเหมือนออกหมัดอ้ะ โอ้โฮ อย่างเท่ห์ – ชุดที่ใส่ก็ยังเป็นเสื้อคลุมอีก คิดดูครับ ยิงไป พริ้วไปทั้งเสื้อและลีลาการยิง คืออยากเดินไปถามมากว่าพี่คิดลีลาแบบนี้ได้ยังไงกันนี่ – ลีลาการยิงแบบนี้มีชื่อว่า Gun Kata ครับ ซึ่งคิดโดย พี่ Kurt Wimmer ผู้กำกับเรื่องนี้นี่แหละ ทราบมาว่าพี่แกคิดออกมาได้ตอนอยู่ในสนามหลังบ้านครับ แน่มากพี่

หนังถือว่าคุ้มค่าแก่การรับชมครับ เนื้อเรื่องแม้จะไม่ใหม่แต่ก็นำเสนอได้ดี มีความเข้มข้นและมีพลัง เมื่อมาบวกกับการแสดงเวิร์กๆ ของ Bale และลีลากระบวนท่า Gun Kata แล้ว หนังเลยน่าจดจำมากขึ้นไปอีก แล้วอยากจะบอกว่าลีลาบู๊ทั้งหลายนี่คือไม่ใช่สลิงด้วยนะครับ พวกฉากกระโดดม้วนตัวอะไรนี่คือใช้อุปกรณ์ประกอบอย่างแทรมโพลีนเอา – อันนี้ต้องขอยอมรับฝีมือผู้กำกับ Wimmer เลยครับ ซึ่งเขารับหน้าที่เขียนบทด้วย ถือเป็นงานแจ้งเกิดที่เข้าท่ามากๆ

เสียดายจริงๆ ที่ค่ายหนัง Miramax – Dimension ไม่ยอมออกฉายหนังเรื่องนี้ในวงกว้าง เหตุผลที่หนังไม่ฉายหนังในวงกว้างนั้นก็เพราะว่ากันว่าทางผู้สร้างเห็นว่าเพียงการขายสิทธิ์ในการฉายให้ในต่างประเทศรวมๆ กันนี่ก็ได้กำไรแล้ว ทางผู้สร้างเลยคิดว่า ถ้าลงทุนโปรโมตไปแล้วรายได้ไม่เข้าเป้ามันก็จะกลายเป็นขาดทุนแทน ก็เลยเลือกที่จะฉายแบบเงียบๆ ไม่มีการดันใดๆ หนังเลยเงียบมากตอนออกฉายครับ ทำเงินในอเมริกาไปแค่ $1.2 ล้าน ส่วนรายได้ทั่วโลกก็ประมาณ $5.3 ล้าน (จากเงินลงทุนราว $20 ล้านครับ)

ผู้กำกับ Wimmer เคยบอกไว้ครับ ว่าจริงๆ แล้วลีลาปืนผสานการต่อสู้ของเขาที่ชื่อว่า Gun Kata ยังมีอะไรมากกว่าที่เห็นในหนังเรื่องนี้ แต่ด้วยการที่งบมันจำกัดและเขามีความเห็นที่ไม่ตรงกันบางอย่างกับทีมงานบางคน เขาเลยยังปล่อยของได้ไม่เต็มที่ แต่เท่าที่ทำออกมานี่ก็ถือว่ายอดมากแล้วล่ะครับ

สำหรับเรื่องนี้นั้น ก็สองดาวสามส่วนสี่ดวงพริ้วโคตรๆ ครับ

(7.5/10)