
แม้ CG ทุกวันนี้จะเนี๊ยบขึ้น ฉากทำลายล้างจะอลังการขึ้นขนาดไหน แต่ Independence Day ยังคงติดท็อปในใจผม และเป็นหนังล้างโลกที่ชอบหยิบมาดูอยู่บ่อยๆ
สมัยนั้นผมดูที่โรงหนังเซ็นจูรี่ (โรงสมัยก่อนเมื่อ 20 ปีที่แล้วนะครับ ไม่ใช่ห้างแบบปัจจุบัน) ตอนนั้นตื่นตาตื่นใจมาก ลุ้นมาก และที่จำได้แม่นคือฉากที่ด็อกเตอร์โอเกน (Brent Spiner) โดนมนุษย์ต่างดาวเล่นงาน แล้วก็พุ่งมาชิดกระจก
โมเมนต์นั้นทำเอาคนที่ดูในโรงเดียวกับผมนี่ลุกพรวดจากเก้าอี้ไม่ต่ำกว่า 10 คนน่ะครับ
ตัวหนังมันลงล็อคกลมกล่อมดีจริงๆ ของดีที่ขับเน้นให้หนังสนุกคือ ดาราที่พอเหมาะมากๆ Will Smith เกิดแบบเต็มๆ ในบทผู้กองสตีเฟน ฮิลเลอร์ที่มาดโคตรกวน กล้าเกินร้อย และไหวพริบโคตรดี เรื่องนี้พี่ Will ฉายเสน่ห์แบบสุดๆ ครับ
ส่วน Bill Pullman ก็มาในมาดนิ่งๆ เป็นประธานาธิบดีที่ดูจะเก่งบุ๋นมากกว่าเก่งบู๊ แต่พอถึงคราวต้องสู้ก็สู้เต็มที่ ฉากที่เขาปราศรัยก่อนวันเผด็จศึกพวกต่างดาวนั้นมันบิ้วอารมณ์ได้อย่างมีพลังจริงๆ
Jeff Goldblum ช่วงนั้นถือว่างานชุก เพราะได้เล่น Jurassic Park ต่อด้วยเรื่องนี้ แล้วก็ต่อด้วย The Lost World ซึ่งพี่ท่านก็คล่องดีมากๆ กับบทเดวิด โปรแกรมเมอร์ที่ไขความลับพวกต่างดาวได้
ดาราเจ้าอื่นๆ ก็มีคาแรคเตอร์ของตัวเองชัดมากๆ ครับ บอกตรงๆ ว่าแค่ดูแต่ละคนมาโลดแล่นแสดงแบบมีชีวิตชีวานี่ก็ทำให้หนังเพลินไปกว่าครึ่งแล้ว

และเชื่อว่าคงไม่มีใครลืม Randy Quaid ในบทรัสเซลล์ เคสส์ได้ เพราะเปิดตัวมาเขาดูเป็นตัวฮาและยังขี้เมาอีก ครั้นพอถึงไคลแม็กซ์… พี่เขาดูหล่อขึ้นมาอย่างแรงเลยจริงๆ ให้ตายเถอะ
ในแง่ของฉากทำลายล้างก็ถือว่าเป็นหลักไมล์เลยครับ อลัง ยิ่งใหญ่ ตื่นเต้น เนี๊ยบยิ่งยวด (สำหรับตอนนั้น และอันที่จริงสำหรับตอนนี้ก็ถือว่าเนี๊ยบอยู่ครับ ส่วนหนึ่งคงเพราะยุคนั้นเน้นใช้โมเดล ซึ่งแม้ขนาดจะดูหลอกตา แต่ฉากระเบิดจนตึกกระจุยข้าวของของกระจาย มันก็ยังดูจริงกว่าการใช้ CG เพียวๆ)
การมาของพวกต่างดาวก็มีสเต็ปสร้างความตืนเต้นได้ดีครับ เริ่มจากคำบอกเล่าก่อน ระหว่างนั้นเราก็เห็นยานแว้บๆ ครั้นพอเปิดตัวเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกนี่ก็ดูน่ากลัวมาก อลังมากๆ
และการลำดับเรื่องก็ทำได้น่าติดตามดี ช่วงต้นก็ตื่นเต้นกันไป ช่วงกลางก็ทำให้เรารู้สึกสะเทือนไปกับหายนะที่เกิดขึ้นบนโลก ก่อนที่ช่วงท้ายจะส่งอารมณ์เราไปสู่ความมันส์และความสะใจ เมื่อมนุษย์วางแผนโต้กลับพวกต่างดาวบ้าง
หนังยาว 2 ชั่วโมง 20 นาทีโดยประมาณ แต่ไม่รู้สึกเบื่อเลย ส่วนรายได้ก็ถล่มทลาย ได้ไป $817 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนสร้างอยู่ที่ $75 ล้าน กำไรไปหลายกิโลขีด
เป็นงานที่อร่อยแท้แน่จริงของ Roland Emmerich ครับ สำหรับผมนี่ 3 เรื่องตัว Top ของพี่เขาต้องยกให้ The Patriot, Stargate และเรื่องนี้ครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ
สองดาวครึ่งครับ
(7.5/10)
หมวดหมู่:Action, Disaster Movies, Movie Reviews, Recommended Movies, Sci-Fi










