และนี่คือหนังเกี่ยวกับครูและลูกศิษย์เรื่องเกาแก่คลาสสิคเลยนะครับ ตัวหนังเองก็ทำได้ดีจนควรค่าแก่การเอามาแนะนำ เรื่องราวก็นั่นแหละ ครูดีๆ คนนึงต้องมาเจอกับกองทัพนักเรียนจอมเฮ้ว ครูของเราก็ต้องเอาชนะใจพวกเขา โดยครั้งนี้ผู้มาแสดงเป็นครูก็คือ Sidney Poitier นักแสดงคุณภาพอีกคน ในบท มาร์ค แท็คเคอรี่ คุณครูผิวดำที่ต้องมาหางานทำในอังกฤษ และที่นั่นเอง ที่เรื่องราวทั้งหลายเกิดขึ้น เขาต้องรับมือเด็กแสบๆ และพยายามชักนำเขาไปสู่เส้นทางที่ถูกต้อง
หนังทำได้เรียบง่ายครับ แต่ออกมาดี หนังอาจดูอืดๆ บ้างนะครับ แต่ผมว่าไม่ผิดหวัง เพราะหนังทำออกมาได้ถึงจริงๆ และ Poitier ก็ได้ฝากฝีมือชั้นครูขนานแท้ไว้ในเรื่องนี้อีกด้วย เขาแสดงได้มีมิติมากครับ เพราะคุณครูแท็คเคอรี่เองก็ไม่ได้เป็นคนดี ไม่ได้เป็นพระเอกจ๋าประเภทลูกศิษย์ทำอะไรมาก็ไม่โกรธ จริงๆ เขามีโกรธมีไม่พอใจเหมือนคนธรรมดาน่ะแหละ แต่เขาคุมตัวเองได้ครับ จริงๆ ทุกคนทุกสาขาอาชีพมันก็มีอุปสรรคขวากหนามกันทั้งนั้นครับ จะมากน้อยต่างกันไป แต่มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะยอมแพ้หรือเปล่า
คนที่สู้ไม่ถอยนี่ไม่ได้แปลว่าเขาไร้โทสะเสมอไปนะครับ ความโกรธเขาก็มีน่ะแหละ แต่เขาเลือกที่จะไม่ให้อารมณ์มันมาเป็นนายเรา ซึ่งเรื่องแบบนี้ฝึกได้กับทุกอาชีพ ทุกผู้และทุกนามครับ (ถ้าท่านจะฝึกน่ะนะครับ)
แต่ต้องยอมรับอย่างนึง นี่เป็นหนังเก่าครับ ปี 1967 ปาเข้าไป 57 ปีแล้ว มันก็ต้องมีบ้างที่จังหวะมันจะเนิ่บเกินไป ไม่ทันใจบางท่าน ก็ขอให้ทนนิดน่ะครับ หรือใครไม่ชอบหนังแนวชีวิตจะไม่ดูก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าหากชอบแนวนี้นะครับ ผมแนะนำเรื่องนี้เลย เพราะนักแสดงดี อะไรต่างๆ ก็นับว่าลงตัวพอประมาณ แง่คิดดีๆ ก็มีอยู่มากมายครับ อย่างเรื่องการคุมโทสะอย่างที่บอกไป
หรือเรื่องการต้องตั้งรับกับอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงผันแปรของวัยรุ่นวัยเรียน ในฐานะผู้ใหญ่เราก็ต้องพยายามเข้าใจเขา และใจเย็นให้มาก เพราะวัยรุ่นบางคนอาจมองว่าผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเขา เราก็ต้องใจเย็นและพยายามทำให้เขารับรู้ว่าเราพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขา และเราเคยผ่านอะไรเหล่านี้มาก่อน เพราะถ้าเราแสดงท่าว่าอยู่ตรงกันข้ามกับเขา สายสัมพันธ์ก็ย่อมสั่นคลอน ต่อให้คุณเป็นพ่อหรือแม่ก็ตาม ดังนั้นหากเราอยากสอนเขาก็ต้องมีศิลปะด้วย และการสอนด้วยอารมณ์นี่ไม่จำเป็นเลยครับ มันไม่ค่อยได้เรื่องหรอก แต่จะกลายเป็นมีเรื่องปวดหัวปวดใจตามมาเสียมากกว่า
และในเรื่องคุณครูแท็คเคอรี่ ทำหน้าที่ได้ดีมากครับ ในฐานะครูคนหนึ่ง ไม่ถึงกับสุดยอด แต่ก็ดีมากแล้วล่ะ
ครับ หนังดี จังหวะต่างๆ ทำได้ลงตัวสำหรับหนังชีวิตแบบที่มีครูเป็นตัวเอก แต่ต้องเข้าใจนะครับว่าหนังมันเก่าน่ะ มันเลยไม่ได้เร้าอารมณ์ขนาดจะเรียกน้ำตาได้ ทว่ามันก็ซึ้งไม่ใช่น้อยครับ ตอนจบก็อดปลิ้มแทนครูแท็คเคอรี่ไม่ได้จริงๆ รวมไปถึงบทเพลง To Sir, with Love ที่ดีทั้งความหมายและจังหวะที่หนังนำมาใช้ ผลออกมาก็คือ ประทับใจครับ
หนังดีๆ แบบนี้ ดีใจครับที่ได้รู้ว่าทำเงินอยู่ ทำไปราว $42 ล้าน ส่วนทุนสร้างอยู่ที่ $625,000 ครับ
ถ้าชอบหนังชีวิตแนวนี้ หรือหนังแนวครูๆ น่ะนะครับ เรื่องนี้ผมแนะนำเลยจริงๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผมอยากให้คนที่มีอาชีพเป็นครูได้ดูครับ ท่านอาจจะได้แง่มุมอันเป็นประโยชน์ต่ออาชีพท่านอย่างมากทีเดียว
สามดาวครับ
(8/10)

หมวดหมู่:Drama, Inspirational Movies, Movie Reviews, Recommended Movies












