
สรุปว่า 4 = 1 > 5 > 3 > 2 ครับ
ไม่ได้ใบ้หวย แต่นั่นคือลำดับความชอบของหนังชุด Mission: Impossible เรียงจากมากสุดลงไปครับ
สรุปว่า 4 = 1 > 5 > 3 > 2 ครับ
ไม่ได้ใบ้หวย แต่นั่นคือลำดับความชอบของหนังชุด Mission: Impossible เรียงจากมากสุดลงไปครับ
พูดได้เต็มปากว่าชอบภาคนี้สุดๆ จนออกจะชอบมากกว่าภาคแรกที่ผมเคยยกให้เป็นภาคที่เจ๋งสุดของหนังชุดนี้น่ะนะครับ
สำหรับผมนี่การเขียนถึงหนังนี่เป็นความสุขชนิดหนึ่งเลยครับ แม้หลังๆ มานี่ผมจะบ่นมากหน่อยจนเหมือนคนแก่ก็เถอะ แต่มันก็ยังสุขใจครับ เหมือนกับแม้ว่าตอนดูมันจะอดหยิบโน่นหยิบนี่มาคิดไม่ได้ จนเหมือนเป็นคนคิดมาก ไม่ผ่อนคลายไปกับหนัง แต่เอาเข้าจริงๆ การดูหนังซักเรื่องจบผมจะมีอารมณ์ดีในทันที ยิ้มได้ครับ
ผมนั่งคิดอยู่พักหนึ่งครับว่าจะเขียนถึงหนังเรื่องนี้ดีไหม เพราะสิ่งที่ผมพยายามระวังที่สุดในการเขียนเกี่ยวกับหนังทุกครั้งก็คือ ระวังไม่ให้เกิดบรรยากาศความขัดแย้งอันเนื่องจากความเห็นต่าง หรือเกิดความรู้สึกไม่ดียามผมเขียนถึงแง่ลบของหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากๆ เข้า ซึ่งใจผมนั้นก็ไม่อยากให้สิ่งที่ผมเขียนต้องก่อให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดีครับ
ถ้าอยากดูหนังขึ้นโรงขึ้นศาลที่น่าติดตามจัดๆ เข้มข้นสุดๆ และรวมดาราแบบเทพๆ ล่ะก็ A Few Good Men จัดว่าตอบโจทย์ได้อย่างดีเลยครับ
ถือเป็นหนังที่น่าเห็นใจอย่างยิ่งเมื่อปีกลายครับ เพราะจริงๆ ตัวหนังถือว่าเป็นไซไฟแอ็กชันที่ดูสนุกมาก ดูเพลินกำลังดี หลายอย่างกำลังเหมาะ แต่ดันทำเงินไม่เข้าเป้าสักเท่าที่ควร
คราวก่อนหนังเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นแนวสายลับมาสู่แนวสืบสวน มาภาคนี้ก็เปลี่ยนไปอีกแล้วครับ กลายเป็นบู๊เต็มตัว กำกับ โดย John Woo กับภารกิจของ อีธาน ฮันต์ (Tom Cruise) ที่ต้องไปหยุดยั้งแผนการแพร่เชื้อโรคร้ายของ ฌอน แอมโบรส (Dougray Scott) อดีตเจ้าหน้าที่ IMF ที่ผันตัวเองไปเป็นผู้ร้าย ซึ่งในครั้งนี้อีธานยังได้พบกับ เอ็นย่าห์ ฮอลล์ (Thandie Newton) อดีตแฟนสาวของฌอนผู้ซึ่งจะมารับหน้าที่เป็นนกต่อให้อีธานสามารถเข้าถึงตัวฌอน
และด้วยการที่ผู้กำกับ Brian De Palma แกทำหนังแนวฆาตกรรมมาจนชำนาญสุดๆ จึงไม่น่าแปลกใจครับ ที่เขาจะถูกเลือกให้มาทำ M:I กับเรื่องราวที่สร้างจากซีรี่ส์สุดฮิต แต่เนื้อหานี่ไปคนละทางกับในซีรี่ส์เลยครับ
เรื่องราวก็ว่าด้วยเหตุการณ์มนุษย […]
สำหรับเรื่องนี้ผมก็คุ้นเคยมาตั้ง […]