A Tourist’s Guide to Love ทำให้ผมมีความสุขทั้งตอนระหว่างดูและหลังดูจบครับ
A Tourist’s Guide to Love ทำให้ผมมีความสุขทั้งตอนระหว่างดูและหลังดูจบครับ
ตอนแรกผมนึกว่าตัวเองจะเฉยๆ กับ He’s All That นะครับ เพราะตอนดูตัวอย่างก็ไม่ได้อยากดูอะไรมากมาย แต่ไปๆ มาๆ ผมกลับรู้สึกโอเคแฮะ ซึ่งก็แน่นอนว่าผมยังชอบ She’s All That มากกว่าอยู่ครับ แต่ถ้ามองในแง่หนังวัยรุ่นโรแมนติกเบาสมองสักเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่เลวนะครับ ดูได้เพลินๆ ดี
ผมไม่สามารถจะรับประกันได้ว่าทุกท่านจะชอบหนังเรื่องนี้หรือไม่น่ะนะครับ แต่บอกได้อย่างหนึ่งว่า ผมสนุกกับหนังเรื่องนี้พอสมควรทีเดียว
แม้ Hallmark จะทำหนังโรแมนติกออกมาเยอะ แต่ก็มีน้อยเรื่องครับที่จะได้ทำตอนต่อออกมา และเรื่องที่ผมกำลังพูดถึงนี่ก็เป็นภาคต่อจากหนังมนต์รักสวนไวน์ Autumn the Vineyard เมื่อปีที่แล้วนั่นเอง
ไม่รู้ตอนนี้ยังมีใครคิดถึง Rachael Leigh Cook อยู่หรือเปล่านะครับ แต่ถ้าเป็นเมื่อ 17 ปีก่อนล่ะก็ เชื่อว่าวัยรุ่น (ณ ตอนนั้น) คงจำได้ว่าเธอแสดงได้น่ารักแค่ไหนใน She’s All That
สารภาพว่าพูดไม่ถูกทุกครั้งที่นั่งดูหนังสักเรื่องที่มีชื่อดาราหน้าคุ้น ที่เราเติบโตมากับพวกเขามาเล่นรวมกัน แต่รสชาติของหนังกลับออกมาไม่น่าจดจำนัก
ระยะหลังๆ นี่ Rachael Leigh Cook (ขวัญใจวัยรุ่นยุคที่เกิดทัน She’s All That) หันมาเอาดีกับการแสดงหนังและซีรี่ส์ทีวีเป็นหลักครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าโอเคนะ แม้จะไม่ได้เล่นหนังใหญ่ แต่ก็ยังมีหนังทีวีออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน
หนังคาวบอยที่รวมดาราวัยรุ่นที่กำลังมีชื่อ (ในตอนนั้น) อย่าง James Van Der Beek, Rachael Leigh Cook, Ashton Kutcher และ Usher Raymond มาเจอกับดารารุ่นใหญ่อย่าง Dylan McDermott, Dylan McDermott และ Alfred Molina
แม้เรื่องนี้จะไม่เชิงว่าเป็นภาคต่อแบบทางการของ The Adventures of Huck Finn (1993) ก็ตาม แต่ด้วยความที่ตัวละครมันต่อเนื่องกัน และหนังยังได้ Stephen Sommers ที่กำกับและดัดแปลงบทฉบับนั้นมาทำหน้าที่ดัดแปลงบทให้กับเรื่องนี้ด้วย เลยทำให้พอจะมองว่ามันคือภาคต่อกันแบบอนุโลมครับ
ไมโล ฮอฟฟ์แมน (Ryan Phillippe) คือโปรแกรมเมอร์มือฉมังที่ใฝ่ฝันว่าสักวันเขาจะได้ทำงานในบริษัทซอฟท์แวร์ระดับโลกอย่าง NURV ที่บริหารโดย แกรี่ วินสตัน (Tim Robbins) และแล้วความฝันก็เป็นจริงครับเมื่อแกรี่รับไมโลเข้าทำงาน พร้อมมอบหมายโปรเจคท์สำคัญให้