
ปี 2016 นี่คงกลายเป็นอีกปีแห่งความทรงจำของผมเลยครับ อย่างที่ผมเคยตั้งชื่อไว้ว่าเป็น “ปีแห่งหนังภาคต่อข้ามทศวรรษ” เพราะเราได้เจอหนังภาคต่อที่สร้างห่างจากภาคที่แล้วเกิน 10 ปี เจอเยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ปี 2016 นี่คงกลายเป็นอีกปีแห่งความทรงจำของผมเลยครับ อย่างที่ผมเคยตั้งชื่อไว้ว่าเป็น “ปีแห่งหนังภาคต่อข้ามทศวรรษ” เพราะเราได้เจอหนังภาคต่อที่สร้างห่างจากภาคที่แล้วเกิน 10 ปี เจอเยอะที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นี่คือหนังชีวิตผสมตลกชั้นดีที่อยากให้ทุกท่านได้ลองดูกันครับ โดยเฉพาะน้องๆ นักศึกษาทั้งหลาย
การรีวิว Scream ภาคนี้คงต้องมีการแยกพูดถึง ระหว่างคุณภาพของหนัง กับเรื่องความชอบส่วนตัวครับ
กิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งในช่วงนี้ก็คือขุดเอาหนังเก่าๆ ที่ชื่นชอบในอดีตมาดูเพื่อรำลึกความหลัง ขณะเดียวกันก็เพื่อพิสูจน์ด้วยว่าหนังที่เราว่าชอบว่าดีในตอนนั้น พอมาถึงตอนนี้ดีกรีความปลื้มจะยังคงเดิมอยู่หรือไม่
หนังรักผสมตลกแนว “เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ” น่ะนะครับ เรื่องของทอม (Patrick Dempsey) หนุ่มหล่อพ่อพวงมาลัยที่คบผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แล้วอยู่มาวันหนึ่งเขาก็เริ่มคิดๆ อยากพบเจอ “คนที่ใช่” ใครสักคนที่จะเติมเต็มชีวิตเขาได้มากกว่าเพียงคบหาสนุกๆ ไปวันๆ
ภาคก่อนถือว่าทำเอาใจคอแอ็กชันให้เพลิดเพลินแบบสาแก่ใจ พอมาภาคนี้ทีมงานก็มีข่าวออกมาตั้งแต่ตอนสร้างครับ หลังจากโดนแฟนๆ ส่วนหนึ่งบ่นในเรื่องบทของภาค 2 ที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ติดตามนัก ภาค 3 นี่จึงเป็นการแก้มือโดยทีมงานสัญญาว่าจะใส่แอ็กชันและบทกับเรื่องราวให้พอเหมาะ มีสมดุลพอดีๆ ไม่เบาโหวงเกินไปอีก และผลที่ได้ก็ถือว่าทีมงานทำตามสัญญาได้ไม่เลวเลยครับ