ป้ายกำกับ: Neal McDonough

Proud Mary (2018) แมรี่ พราวพยัคฆ์

แมรี่ (Taraji P. Henson) มือสังหารสาวได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือแดนนี่ (Jahi Di’Allo Winston) เด็กกำพร้าที่ถูกกดขี่โดยชายคนหนึ่ง (Xander Berkeley) แล้วจากนั้นเธอก็พยายามดูแลเขาครับ แต่มันก็ไม่ง่ายอยู่แล้วล่ะ ยิ่งเธอคิดจะล้างมือก็ยิ่งไม่ง่ายหนักขึ้นไปอีก เพราะเจ้านายของเธออย่างเบนนี่ (Danny Glover) ไม่เห็นด้วยแบบสุดๆ งานนี้เธอเลยต้องสะบัดกระบอกปืนเพื่อปกป้องตนเองและแดนนี่ให้พ้นภัย

Ticking Clock (2011) จับเวลาฆ่า

เรื่องนี้ผมถือว่าโอกว่าที่คิดครับ ตอนแรกก็ดูไปแบบไม่คาดหวังเพราะหนังของพี่ Cuba Gooding Jr. ระยะหลังๆ ก็เป็นหนังลงแผ่นอยู่แล้ว แม้พี่เขาจะแสดงได้ดีเสมอก็ตาม แต่ตัวหนังมักจะอยู่ในระดับธรรมดา ดังนั้นอย่างน้อยการที่เราไม่คาดหวังมันก็พอจะทำให้เราดูหนังได้เพลินขึ้น

Apex (2021) ล่าคนอึดพลิกจักรวาล

Apex ว่าด้วยโลกยุคอนาคตครับ ตัวเอกคือ โธมัส มาโลน (Bruce Willis) อดีตตำรวจมือพระกาฬที่ติดคุกอยู่ เขาได้รับการเลือกให้มาเป็นเป้าในเกมมรณะที่เหล่าคนมีอันจะกินชอบเล่นกัน เกมก็คือโธมัสจะถูกนำไปปล่อยไว้ในป่า แล้วก็จะมีคนมาล่าเขาเพื่อความสนุก โดบนักล่าที่เก่งที่สุดในตอนนี้คือ แซมมวล เรนส์ฟอร์ด (Neal McDonough) ที่รอมานานที่จะได้เจอเป้าหมายที่เก่งๆ และแน่นอนว่าโธมัสนี่แหละครับคือคนเก่งตัวจริงที่อาจทำให้ผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่า

Batman: Assault on Arkham (2014) แบทแมน ยุทธการถล่มอาร์คแคม

Batman: Assault on Arkham คือแบทแมนฉบับการ์ตูนอีกหนึ่งเรื่องที่ Warner Bros ผลิตออกมาครับ โดยเจตนาแรกเริ่มเลยก็จะสร้างการ์ตูนเรื่องนี้โดยอิงเนื้อหาจากเกม Batman: Arkham Asylum ที่โคตรจะดัง (และแสนจะมันส์) ว่าง่ายๆ คือเป็นการรีเมคเกมมาเป็นหนังนั่นแหละครับ

Paul Blart: Mall Cop 2 (2015) พอล บลาร์ท ยอดรปภ. หงอไม่เป็น 2

ภาคแรกผมชอบครับ มันคือ Die Hard เวอร์ชั่นฮากลมกลิ้งที่ครบเครื่องทั้งความตลกและความลุ้น ส่วนภาคต่ออย่าง Paul Blart: Mall Cop 2 ก็ถือว่าผลออกมาตามที่คาดไว้ นั่นคือดูเพลินเรื่อยๆ แต่ไม่จับใจเท่าภาคแรก

The Marine 3: Homefront (2013) เดอะ มารีน 3 ล่าระห่ำทะลุขีดนรก

The Marine 3: Homefront เรื่องราวของนาวิกโยธินที่ภาคนี้ก็เปลี่ยนคนใหม่อีกเช่นเคยครับ ตัวเอกคือ เจค คาร์เตอร์ (Mike ‘The Miz’ Mizanin) นาวิกมือดีที่ขอลาพักผ่อนเพื่อเยี่ยมน้องสาว (Ashley Bell และ Camille Sullivan)

1922 (2017)

ผมคิดเสมอครับว่ายุคหนึ่งเดี๋ยว Stephen King ก็จะกลับมาฮ็อตในวงการหนังอีกครั้ง เหตุผลแรกก็เพราะงานของเขามีดี ร่วมสมัย และส่วนใหญ่จะเหมาะแก่การนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ (ขอเพียงคนทำมือถึงและเข้าใจแก่น ก็โอเคแล้ว)