
ดูหนังเรื่องนี้แล้วแอบอึ้ง พร้อมตะลึงทางอารมณ์ เพราะไม่นึกว่าหนังมันจะเป็นอะไรแบบนี้น่ะครับ… ถ้าให้พูดตรงๆ คือหนังดูน่าสนใจในเบื้องต้น แต่กลับกลายเป็นอะไรที่เละในตอนกลางและตอนท้าย
ดูหนังเรื่องนี้แล้วแอบอึ้ง พร้อมตะลึงทางอารมณ์ เพราะไม่นึกว่าหนังมันจะเป็นอะไรแบบนี้น่ะครับ… ถ้าให้พูดตรงๆ คือหนังดูน่าสนใจในเบื้องต้น แต่กลับกลายเป็นอะไรที่เละในตอนกลางและตอนท้าย
ข้อดีอย่างหนึ่งของหนังแนวโรแมนติกคอเมดี้ของ Hallmark ก็คือ สาระแก่นสารของหนังจะเป็นเรื่องของใครสักคนที่พยายามทำตามฝัน ทำเพื่อความถูกต้อง หรือพยายามทำสิ่งดีๆ ให้สำเร็จ แม้ว่าจะต้องเจออุปสรรคแค่ไหนก็ตาม
ถ้าลองว่ามนุษย์บนโลกยังมีตัณหา ราคะ และความต้องการเป็นตัวดำเนินหลักของชีวิตล่ะก็ ตราบนั้นก็ย่อมมีคนตกเป็นเหยื่อคนอยู่ร่ำไป เพราะคนที่ฉลาดกว่ามักรู้จักใช้ “พลังแห่งตัณหา” เพื่อล่อลวงคนมาสร้างผลประโยชน์ให้ตนเอง
ช่วงที่หนังเข้าโรงผมกำลังคลั่งไคล้งานของลุง John Carpenter อยู่พอดี ผมเลยตัดสินใจตรงดิ่งเข้าโรงไปดูหนังเรื่องนี้ของแกครับ คิดว่าน่าสนใจด้วย แต่ก็ทำใจไว้หน่อยๆ เพราะงานของลุง John เป็นประเภทอย่าไปตั้งความหวัง นอกจากงานเก่าๆ อย่าง The Thing หรือ Halloween แล้ว หนังยุคใหม่ก็มีทั้งที่หวังได้และหวังไม่ได้ ส่วนเรื่องนี้เข้าอีหรอบหลังครับ
ครับ ภาค 3 นีี่ทันทีที่ออกมาผมก็เช่ามาตั้งกะวันแรก ซึ่งคงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าผมคาดหวังอะไร อิอิ
แล้วภาค 2 ก็ตามมา ครั้งนี้เป็นเรื่องของ แพทริค รอสส์ (Justin Lazard) นักบินอวกาศที่ไปดาวอังคารมา และก็ไปติดเชื้อนรกแบบเดียวกับ DNA ของซีลเมื่อภาคก่อน ทำให้เขาเปลี่ยนไป พอกลับมาถึงโลกได้ก็ไล่สืบพันธุ์ฟันหญิงไปทั่วเลยครับ ทีมงานไล่ล่าจากภาคก่อนเลยต้องตามมาสู้กับมันอีกครั้ง
ภาคแรกนั้น เป็นเรื่องของโครงการทดลองลับของรัฐบาลที่เอา DNA จากต่างดาวมาเพาะพันธุ์และมันก็หนีไป จากเด็กหญิงเธอก็เจริญเติบโตในชั่วข้ามคืน กลายเป็นสาวโคตรเซ็กซี่ และจุดประสงค์ของเธอก็คือ การสืบพันธุ์ ทำให้รัฐบาลต้องส่งคนไปตามล่าเธอ ก่อนสายพันธุ์นรกจะก่อกำเนิดขึ้น
หลังจากผมทยอยเล่าหนังดูไม่ได้มาพักใหญ่ๆ ก็มาดูหนังที่พอจะสร้างความสนุกสนานให้คนดูได้บ้างดีกว่านะครับ จะได้มีอะไรดูกัน เพราะมาเลื่อนดูหลังๆ นี่มีแต่เตือนว่าอย่าดูทั้งนั้น อ้ะ อันนี้บอกแต่เนิ่นๆ ว่าพอดูได้ครับ พอทำเนาๆ