
The Pledge ถือเป็นหนึ่งในหนังที่จบได้ขัดใจครับ นี่ขนาดดูมาแล้วหลายวันบทสรุปของหนังยังอยู่ในหัวผมอยู่เลย ซึ่งเดี๋ยวก็ต้องมีการสปอยล์แน่นอน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นก็ขอเล่าแบบไม่สปอยล์ก่อนนะครับ เดี๋ยวถ้าจะสปอยล์เมื่อไรแล้วจะบอกอีกทีครับ
The Pledge ถือเป็นหนึ่งในหนังที่จบได้ขัดใจครับ นี่ขนาดดูมาแล้วหลายวันบทสรุปของหนังยังอยู่ในหัวผมอยู่เลย ซึ่งเดี๋ยวก็ต้องมีการสปอยล์แน่นอน แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นก็ขอเล่าแบบไม่สปอยล์ก่อนนะครับ เดี๋ยวถ้าจะสปอยล์เมื่อไรแล้วจะบอกอีกทีครับ
ดูเรื่องนี้แล้วชวนให้นึกถึง Rocky ครับ สไตล์มาคล้ายๆ กัน เรื่องของนักชกระดับล่าง นามว่าจอห์นนี่ วอล์คเกอร์ (Mickey Rourke) ที่ใช้ชีวิตแบบ “อยู่ไปวันๆ” และยังไม่มีแก่นสารที่เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไร
เข้าทางผมอีกแล้วครับหนังเรื่องนี้ ประเภทหนังสยองเรื่องสั้นหลายๆ อัน in 1 แบบนี้ มีมาเมื่อไรก็อยากดูทุกที จะดีไม่ดีก็ค่อยว่ากันครับ แต่ยังไงก็ต้องดูเพราะแนวนี้ชอบอยู่แล้ว
ผมสงสัยเสมอว่าทำไม Sin City: A Dame to Kill For ถึงทำรายได้ไม่สวยเลย (ทำไป $39 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนนั้นปาเข้าไป $65 ล้าน)
ขอยกให้ The Wrestler เป็น “หนังขยี้หัวใจ” ที่ผมชอบอย่างมากมายครับ
จุดเด่นของ Immortals คืองานภาพที่ออกมาเจ๋งดีครับ สวยงาม คม ดูศิลป์ เรียกว่าเป็นงานที่ตั้งใจเจริญรอยตามความสำเร็จของหนังย้อนยุคภาพสวยแบบ 300 นั่นเอง
สิ่งที่ดึงดูดให้ผมดูหนังเรื่องนี้คือชื่อของ Mickey Rourke แม้ในใจจะเดาได้อยู่ลึกๆ ว่าพี่แกน่าจะแสดงสมทบมากกว่าก็เถอะ
ถ้าหนังเรื่องนี้ฉายเมื่อสัก 30 ปีก่อนนะครับ แล้วผมได้ไปเจอโปสเตอร์อันนี้แปะที่ไหนเข้าล่ะก็ มันคงได้รับการจัดว่าเป็นหนังดูดีมีฟอร์ม และน่าดูมากอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวล่ะ
หลายคนรีเควสท์ให้ผมรีวิวเรื่องนี้ และผมก็คิดเสมอครับว่าถ้าเขียนออกมา มันคงไม่เชิงเป็นรีวิว แต่จะเป็นบทความแนว “คนชราออกมารำลึกความหลัง ตามด้วยการเชียร์ดารานักบู๊ที่เราโตมาพร้อมหนังของพวกเขา”
แว่บมาพร้อมหนังแอ็กชันสไตล์สิงห์มอเตอร์ไซค์ครับ