![](https://10000tip.com/wp-content/uploads/2024/06/untitled07724.jpg?w=100&h=80&crop=1)
ว่าตามจริงหนังก็ไม่ได้แย่นะครับ สำหรับผมมันก็ยังดูได้เรื่อยๆ เพียงแค่มันไม่ได้สนุกอะไรมากมาย เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เล่นกับสูตรเดิมๆ แล้วก็ยังปรุงรสได้ไม่เข้าที่ หนังเลยออกแนวจืด แต่ถ้าถามผมแล้ว ผมว่าผมยังเพลินกับเรื่องนี้มากกว่า Morbius นะ
ว่าตามจริงหนังก็ไม่ได้แย่นะครับ สำหรับผมมันก็ยังดูได้เรื่อยๆ เพียงแค่มันไม่ได้สนุกอะไรมากมาย เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เล่นกับสูตรเดิมๆ แล้วก็ยังปรุงรสได้ไม่เข้าที่ หนังเลยออกแนวจืด แต่ถ้าถามผมแล้ว ผมว่าผมยังเพลินกับเรื่องนี้มากกว่า Morbius นะ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าถ้าเป็นในโลกภาพยนตร์จอเงิน Marvel ถือว่านำ DC ไปหลายช่วงตัว แต่หากว่ากันถึงจอตู้หรือโลกแห่งซีรี่ส์แล้ว ผมว่าของ DC จะเข้าเป้าและเอามันส์ได้เพลินกว่า
ส่วนใหญ่ปี 3 ของซีรี่ส์แนวแอ็กชันนี้มักมาทางเดียวกันครับ คือจะพยายามแหวกจาก 2 ปีแรกเท่าที่จะทำได้ ตามด้วยการสรรหาตัวร้ายที่ต้องใหญ่กว่าเดิมมาเป็นบอสใหญ่ให้เหล่าตัวเอกรับมือกัน
จำได้ว่าปีแรกสุดของซีรี่ส์ชุดนี้ผมไม่ถึงกับปลื้มอะไรมากครับ มาสนุกจริงๆ เอาตอนหลังๆ ในขณะที่ครึ่งปีแรกออกแนวเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรชวนติดตามขนาดนั้น
ซุ่มดู Agents of S.H.I.E.L.D. Season 1 มาจนถึงตอนเกือบสุดท้ายแล้วนะครับ โดยรวมๆ ก็นับว่าโอเคครับ ช่วงต้นๆ ของปี (10 ตอนแรก) พลังอาจยังไม่มากเท่าไร แต่อะไรสนุกๆ มันเริ่มมาเต็มหลังตอนที่ 15 ครับ และตอนล่าสุดที่ดูไป (ตอนที่ 21) อะไรๆ ก็ลงตัวกลมกล่อมมากขึ้น จนคาดว่าตอนจบคงจัดเต็มกันมันหยดไปเลย (ยิ่งเห็นหน้า “ซูเปอร์ฮีโร่รับเชิญ” ที่จะมาโผล่ก็ยิ่งชวนดูไปกันใหญ่)
ถ้าดูจากผลลัพธ์แล้ว Morbius ถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เดินตามสูตรจนออกมาธรรมดามากๆ ครับ ชนิดที่หนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Superman ภาคแรกที่เก่ากว่า 40 ปีมาแล้วยังดูมีอะไรมากกว่า
หลังดู Venom: Let There Be Carnage จบ ก็นิยามหนังได้แบบสั้น ง่ายและได้ใจความว่า “ดูเอามันส์ล้วนๆ” ครับ (เนื้อหาในรีวิวชิ้นนี้อาจมีสิ่งที่เรียกว่า “สปอยล์” สำหรับบางคนนะครับ หากไม่อยากทราบก็ไม่ควรอ่านต่อครับ รู้แค่นี้พอว่า “หนังดูเอามันส์ล้วนๆ”)
ผมพบว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ดู Venom หลายหนมากๆ ประมาณว่าเปิดทีวี-เคเบิ้ลก็มักจะเจอ หรือตอนไปแวะเวียนเยี่ยมเยียนใคร ก็จะพบว่าทีวีที่บ้านนั้นจะต้องมี Venom อยู่ในจอเสมอ แล้วผมก็มักจะมีโอกาสได้ดูจนจบทุกทีไป
ผมชอบ Doctor Strange in the Multiverse of Madness ครับ สนุกดีนะ ส่วนหนึ่งที่ชอบก็อาจเพราะถูกเส้นกับสไตล์นี้ของผู้กำกับ Sam Raimi ที่บรรเลงหนังออกมาเป็นแนวผจญภัยลุยไปเรื่อยๆ เพลินไปกับจินตนาการ อร่อยไปกับสารพัดแฟนตาซีผสมไซไฟ ได้อารมณ์เหมือนพลิกหน้าคอมมิครัวๆ
ผมดู Spider-Man ภาคนี้ไป 2 รอบครับ รอบแรกดูในฐานะหนังปิดเฟส 3 ของจักรวาล Marvel เป็นการดูต่อจาก Avengers: Endgame ส่วนรอบ 2 เป็นการเอามาดูต่อกันตั้งแต่ฉบับ Tobey ต่อด้วย Andrew ดูเพื่อเตรียมไปสนุกกับภาค No Way Home