หนังแนวที่ผมโปรดปรานครับ มีมาทีไรก็พร้อมดูเสมอ นั่นคือหนังที่แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของกลุ่มนักกีฬาที่สามารถยกระดับตัวเอง จากทีมที่ไม่มีอันดับใดๆ ทีมที่ใครๆ มองว่ารองบ่อน จนสามารถมาเป็นทีมที่ใครๆ พากันชื่นชม
หนังแนวที่ผมโปรดปรานครับ มีมาทีไรก็พร้อมดูเสมอ นั่นคือหนังที่แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงของกลุ่มนักกีฬาที่สามารถยกระดับตัวเอง จากทีมที่ไม่มีอันดับใดๆ ทีมที่ใครๆ มองว่ารองบ่อน จนสามารถมาเป็นทีมที่ใครๆ พากันชื่นชม
ปีต่อมาที่บอกได้เลยว่าสนุกมากขึ้นกว่าปีแรก ซึ่งก็ถือว่าสมเหตุผลครับ เพราะปีแรกถือเป็นปีปูพื้น เป็นการแนะนำตัวละครและแนะนำแผนภูมิความสัมพันธ์เป็นหลัก จึงไม่แปลกหากในแง่เนื้อเรื่องจะยังไม่มีอะไรมาก
ซีรี่ส์เรื่องนี้ดูเพลินเลยครับ มันกลมกล่อม อร่อย ดาราเล่นดี บรรยากาศพอเหมาะ เป็นส่วนผสมที่พอดีคำระหว่างหนังสะท้อนความจริงเรื่องชีวิตกับอารมณ์ขันเจ็บๆ คันๆ ที่ชวนให้เราตั้งคำถามถึงเรื่อง “ความสัมพันธ์” ในมิติต่างๆ ของมนุษย์ จนผมนิยามเลยว่าเป็น “ซีรี่ส์ชีวิตผสมตลกที่เปี่ยมวุฒิภาวะ” ครับ
ก่อนดูเวอรั่นใหม่ก็ขอย้อนดูเวอร์ชั่นเก่าสักหน่อยครับ เคยดูเมื่อนานมากๆ มาแล้ว จำรายละเอียดแทบไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าดูแล้วก็เรื่อยๆ ไม่ถึงกับชอบอะไร ครั้นมาดูรอบใหม่ความชอบอาจไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็รู้สึกเพลินกับหนังพอสมควร
หนังรักในความทรงจำอีกเรื่องที่ผมยังคงชื่นชอบมาจนถึงทุกวันนี้
น่าจะถือเป็นหนังที่มีการรีบู๊ทเร็วที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ครับ ของเก่าจบไปไม่ถึง 10 ปีก็มีของใหม่ออกมาให้ยลกันแล้ว
Catch Me If You Can เป็นหนังที่กลมกล่อมจนน่ายกนิ้ว จริงๆ พล็อตมันดราม่ามากนะครับ รันทดเอาการเลย ชีวิตของแฟรงค์ อบาเนล (Leonardo DiCaprio) จัดว่าน่าเห็นใจครับ และสิ่งต่างๆ ที่เกิดก็ส่งผลให้เขาเลือกเส้นทางของนักตุ๋นในที่สุด
หลังจากคาร์ล เจมิสัน (Martin Sheen) ตำรวจนักจิตวิทยาสูญเสียภรรยาไปในอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง เขากับลูกชายที่ชื่อ คริส (Harley Cross) ก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่นิวยอร์ค ที่ซึ่งมีคดีฆาตกรรมเด็กเกิดขึ้น และเป็นไปได้ว่านี่จะไม่ใช่แค่การฆาตกรรมธรรมดา แต่เป็นการฆ่าเพื่อบูชายัญตามความเชื่อของลัทธิโบราณ
ผู้ที่ชื่นชอบหนังแนวธุรกิจหรืออยากจะเห็นภาพของพวกนักธุรกิจชั้นสูงชาวอเมริกันแบบชัดๆ ล่ะก็ เรื่องนี้เหมาะเหม็งอย่างมากครับ
จากงานการ์ตูนที่ดังโคตรๆ ในอเมริกาของ Todd McFarlane มาสู่หนังจอใหญ่ เรื่องของ อัล ซิมมอนส์ (Michael Jai White) นักฆ่าที่ถูกเจ้านาย (Martin Sheen) สังหารอย่างโหดเหี้ยม แต่เมื่อเขาตาย เขากลับได้พบกับจอมปีศาจเมลโบเกีย จอมอสูรที่สัญญาว่าจะทำให้เขาคืนชีพและมีพลังมหาศาล หากเขายอมนำทัพนรกขึ้นไปบุกสวรรค์ อัลยอมรับข้อเสนอ เขาจึงกลายเป็นสปอว์น ฮีโร่จากนรก